เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส เปิดตัวที่สุดแห่งแกรนด์ทัวริ่งซีดาน 4 ประตู สุดหรูสัญชาติอังกฤษ All-New Bentley Flying Spur มาพร้อมขุมพลัง W12 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 626 แรงม้า สนนราคาเริ่มต้นที่ 25.99 ล้านบาท
All-New Flying Spur รวมเอาความโฉบเฉี่ยวของสปอร์ตซีดาน และนิยามใหม่ของความหรูหราแบบร่วมสมัยเข้าด้วยกัน การออกแบบ การประกอบและวางระบบ รวมถึงงานฝีมือได้ถูกดำเนินการในเมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ
นิยามใหม่แห่งการดีไซน์
รูปลักษณ์ของ All-New Flying Spur เป็นแกรนด์ทัวร์ริ่งซีดาน 4 ประตูขนาดใหญ่ นำเสนอดีไซน์ดั่งการแกะสลักแต่ยังคงไว้ซึ่งความทันสมัย และมีสัดส่วนโครงสร้างที่แข็งแรง ที่เป็นความโดดเด่น ของเจเนอเรชั่นนี้ บนฝากระโปรงหน่าโดดเด่นด้วยตราสัญลักษณ์ Flying B แบบใหม่ที่สามารถควบคุมและปรับแสงด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งเชื่อมกับ Welcome Lighting และระบบกุญแจอัจฉริยะเมื่อผู้ขับเข้าใกล้ตัวรถ
All-New Flying Spur ได้ถูกยกพื้นและสร้างขึ้นใหม่โดยมีโครงสร้างที่ทำจากอะลูมิเนียมและออกแบบประติมากรรมของเส้น power line ตามต้นแบบของรุ่น Continental GT ทีมวิศวกรรมของเบนท์ลีย์ได้นำเทคโนโลยีล่าสุดในการอัดอะลูมิเนียมและหล่อพร้อมกับเหล็กที่มีความแข็งแรงสูง จึงได้ออกมาเป็น ตัวรถที่มีความแข็งแรง หนึบแน่น เพิ่มความแข็งแรงและการทรงตัวที่ดีของรุ่นนี้ มิติตัวถังยาว 5,316 มม. กว้าง 2,220 มม. สูง 1,484 มม. น้ำหนักตัวรถ 2,437 กก. มีการเพิ่มความยาวของฐานล้อเพิ่ม 130 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับเจเนอเรชั่นก่อนหน้า ความจุห้องเก็บสัมภาระ 358 ลิตร ถังน้ำมันจุ 90 ลิตร เวอร์ชั่นไทยจะติดตั้งล้ออัลลอย Ten Open-Spoke ขนาด 22 นิ้ว มาเป็นมาตรฐาน
โครงสร้างไฟหน้า LED ได้รับแรงบันดาลใจจากแก้วคริสตัลล้อมด้วยแผ่นโลหะเคลือบโครเมียม กระจังหน้าถูกปรับให้มีความทันสมัยขึ้น ไฟท้าย LED แบบใหม่ออกแบบมาเป็นรูปตัว B นอกจากนี้ยังมาพร้อมหลังคาแก้วพาโนรามิครูฟ โดยแผงด้านหน้าสามารถสไลด์ไปคลุมเหนือแผงด้านหลังได้อีกด้วย ซึ่งในรุ่นนี้ยังเพิ่มในส่วนหนังแผงกัน Alcantara ที่เคลื่อนด้วยระบบอิเล็กทริค มาพร้อมกับสีวัสดุบุหลังคาที่มีให้เลือกแมชถึง 15 สี ส่วนสีตัวถังภายนอกสมีให้เลือกมากถึง 17 สี
ห้องโดยสารอันปราณีตบรรจง
การออกแบบภายในของ All-New Flying Spur แสดงให้เห็นถึงฝีมือชั้นครูของเบนท์ลีย์ด้วยความหรูหราที่มาพร้อมกับเก้าอี้ที่ให้ความสบาย และแหวกแนวด้วยการปักที่นำเสนอสีด้ายกว่า 15 เฉดสี อีกทั้งคอนเซปต์ Bentley’s ‘Wing’ ที่สองข้างของปีกอันทรงพลังพาดผ่านคอนโซลหน้าและแผงหน้าปัดด้านหน้าของรถ
ไม้วีเนียร์ Crown Cut Walnut ถูกนำไปประดับบริเวณแดชอบร์ดและแผงประตู ส่งผลให้รถดูกว้างขึ้น กลางแดชบอร์ดเป็นหน้าจอระบบสัมผัส Bentley Rotating Display ที่ประกอบด้วยทัชสกรีน 12.3 นิ้ว ติดตั้งบนหน้าปัด 3 ด้านแบบหมุนได้ ผู้ขับจึงสามารถสลับผลัดเปลี่ยนระหว่างลายไม้วีเนียร์, ทัชสกรีนอเนกประสงค์ หรือมาตรวัดแบบอนาล็อก 3 ช่องสุดคลาสสิคที่แสดงผล อุณหภูมิ เข็มทิศ และนาฬิกา นอกจากนี้ยังมีที่ชาร์จไร้สายและปลั๊กชาร์จ USB อีก 2 จุดสำหรับอุปกรณ์สื่อสาร
ลายไม้วีเนียร์ Crown Cut Walnut เป็นหนึ่งในออฟชั่นเสริมร่วมกับ Dark Fiddleback และ Piano Black สำหรับท่านที่ชอบลายไม้ทูโทนยังสามารถสั่งได้ตามใจนึก โดยสามารถเลือกประเภทไม้ที่ประดับห้องโดยสารได้อย่างใจ อีกทั้งยังมีออฟชั่นใหม่ล่าสุด Mood Lighting ที่สามารถเลือกสีไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารได้ถึง 7 สี
เบาะนั่งลายใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Bentley EXP 10 Speed 6 ถูกนำเสนอผ่านลาย Three-dimensional diamond มาพร้อมฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิ ระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ, ระบบเก้าอี้นวด ระบบปรับเบาะเอียงด้านบน เท่านั้นยังไม่พอเบนท์ลีย์ยังนำเสนอลาย Diamond knurling ในส่วนช่องแอร์ และยังถูกประดับไว้ล้อมรอบนาฬิกาอีกด้วยรวมไปถึงชุดของคำสั่งของชุดซอฟแวร์ใหม่ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นสำหรับความโค้งของท่อต่างๆ
เบาะหลังให้ความรู้สึกกว้างพร้อมที่พักแขนในส่วนกลาง และที่พักคอที่สามารถพับเก็บได้ พร้อมหน้าจอกับรีโมตคอนโทรลที่ทำจากวัสดุชั้นดี ใช้สะดวก วางไว้แนบกับคอนโซล โดยสามารถกดปุ่มเพื่อดึงออกมาหากต้องการใช้เป็นรีโมต นอกจากนี้รีโมตคอนโครลอัจฉะริยะยัง สามารถควบคุมระบบอื่นๆของ รถได้อีก ด้วยอาทิ ฉากกั้น เก้าอี้นวดด้านหลัง ระบบควบคุมอุณหภูมิของผู้โดยสาร และควบคุมไฟ Mood Lighting
All-New Flying Spur นำเสนอระบบเสียง 3 แบบ ประกอบด้วย แบบมาตรฐานกำลังขับ 650 วัตต์ ลำโพง 10 ตัว, ระบบเสียงพรีเมี่ยม Bang & Olufsen กำลังขับ 1,500 วัตต์ ลำโพง 16 ตัว พร้อมฟังกชั่น BeoSonic system ปรับระดับเสียงเพียงสัมผัส และปิดท้ายด้วยที่สุดแห่งระบบเสียงตัวท็อป Naim กำลังขับ 22,000 วัตต์โพงถึง 19 ตัว พร้อมเครื่องแปลงความถี่ของเสียง โดยติดตั้งไว้หน้าที่นั่งทั้ง 2 ข้าง ให้ความคมชัดของเสียงและสามารถปรับเสียงได้ถึง 8 โหมดด้วยกัน
ระบบขับเคลื่อนอันเหนือชั้น
โดยหัวใจหลักของ All-New Flying Spur คือเครื่องยนต์ W12 สูบ ความจุ 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 626 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 900 นิวตันเมตร ที่ 1,350 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ดูอัลคลัชท์ 8 สปีด ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 333 กม./ชม.
การขับเคลื่อนของ All-New Flying Spur เป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อควบคู่ไปกับระบบ Active All-Wheel Drive และ Bentley Dynamic Ride ทำให้การตอบสนองของระบบควบคุมนั้นมีประสิทธิภาพมาก มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนใหม่โดยใช้แอร์สปริงแบบ Three-chamber ที่ประกอบไปด้วยลมกว่า 60% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ระบบนี้ส่งผลให้รถสามารถเน้นการทำงานในระบบสปอร์ตได้ดีขึ้น เกาะพื้นถนนได้ดี แถมยังคงรูปแบบของรถลีมูซีนอันหรูหรา ตามโหมดการทำงานที่ผู้ขับได้เลือก ในรุ่นใหม่นี้ยังเพิ่มในระบบฟีเจอร์ CDC (Continuous Damping Control) ที่ลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์อีกด้วย
ระบบ Bentley Dynamic Ride System ได้ถูกออกแบบและพัฒนาระบบการทรงตัวและความนุ่มสบายมากขึ้น ระบบนี้มาพร้อมกับการควบคุมของกระแสไฟ 48 โวลต์ โดยจัดการความหนึบแน่นของเหล็กกันโคลงเพิ่มการเกาะตัวของรถตามคำสั่งของการเข้าโค้ง และปรับให้รถมีความเสถียรเช่นเดิม ด้านระบบเบรกเป็นจานเบรกขนาด 420 มม. พร้อมคาลิปเปอร์เบรกประทับตรา BENTLEY
นอกจากนี้ All-New Flying Spur ยังให้สุ้มเสียงที่เร้าใจจากท่อไอเสียแบบ adaptive ที่ควบคุมระบบลิ้นลูกสูบและการเคลื่อนตัวของทางเดินลมและแก๊ส ในช่วงการควบคุมด้านหลังของตัวรถที่ถูกจูนมาแล้ว ให้มีการแสดงผลของท่อไอเสีย ให้คนขับได้ทราบถึงสภาวะต่างๆ ของรถอีกด้วย
เทคโนโลยีอันชาญฉลาด
All-New Flying Spur มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับที่ครบครันทั้ง Traffic Assist, City Assist และ Blind Spot Warning พร้อมกับระบบช่วยเหลือการมองยามค่ำคืนที่เพิ่ม Head Up Display, Top View Camera กล้องติดรถคุณภาพสูงที่ช่วยทำให้ผู้ขับขี่บันทึกเหตุการณ์บนท้องถนนทั้งขณะขับขี่หรือจอดรถ และระบบถอยจอดรถอัตโนมัติ รวมถึงเทคโนโลยีไฟหน้า LED Matrix ตัดแสงไม่ให้แยงตารถฝั่งตรงข้าม
นอกจากนี้ All-New Flying Spur ยังนำเสนอระบบเซ็นเซอร์รอบคันที่สามารถวัดระยะระหว่างแกนกลางกับตัวรถ ในกรณีที่ระบบจับความแตกต่างในระดับความสูงปกติ อากาศในสปริงจะถูกฟื้นฟูให้เหมาะกับระดับปรกติอย่างสมบูรณ์
All-New Bentley Flying Spur พร้อมให้เศรษฐีชาวไทยได้จับจองเป็นเจ้าของแล้ว ราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 25,990,000 บาท ดูรถตัวจริงได้ที่โชว์รูมเบนท์ลีย์ แบงค็อก อาคาร CTI Tower ถนนรัชดาภิเษก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bentleymotors.com