บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ EV เตรียมแนะนำ NEW MG4 ELECTRIC รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมคอมเซ็ปต์ “ICON” นิยามของการเป็น “ต้นแบบ” และมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก สามารถเริ่มจับจอง NEW MG4 ELECTRIC ก่อนใคร ผ่านแอพพลิเคชัน MG THAILAND และเว็บไซต์ https://onlinebooking.mgcars.com ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.00 น. จนถึง วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นี้ 23.59 น. พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ! อุปกรณ์เชื่อมต่อกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท ร่วมสัมผัสการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ NEW MG4 ELECTRIC ได้ภายในงาน Thailand International Motor Expo 2022 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตรอบคัน
- การออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN
- ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS
- ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT
- หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING
- ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER
- มิติตัวถัง 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
- ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร
ภายในห้องโดยสารเรียบง่ายแต่มีสไตล์
- คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger)
- ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง
- พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
- กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
- หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด
- ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V
- รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android
- พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C
- ระบบกรองอากาศ 5
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40
- โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ
ความปลอดภัย
NEW MG 4 ELECTRIC มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบ ความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 26 ระบบ ได้แก่
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
- ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor)
พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
เครื่องยนต์และการชาร์จ
ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC และแบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น อีกทั้งสามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM
มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) และระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) นอกจากนี้ยังมีระบบโครงสร้างพวงมาลัยรูปแบบใหม่ DUAL PINION ควบคุมด้วยไฟฟ้า และมีรัศมีวงเลี้ยว 3 เมตร รวมไปถึงสามารถการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
มาพร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension และโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW
*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE (NEDC)
NEW MG 4 ELECTRIC ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 128 แห่งทั่วประเทศ
- ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 88 kWh
- ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที* ที่ 6 kWh
- รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART
ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check)
- ระบบตรวจสอบแบตเตอรี่ Battery Doctor บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
- ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
- ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
- ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
- ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ
ระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command)
- กุญแจดิจิตอล
- ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
- ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
- ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
- ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ทโฟน
ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)
- ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
- ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
- อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์
- ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
- อัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
- ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน
* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
ราคาและรุ่น
ราคารอเปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.00 น. มารถเริ่มจับจอง NEW MG4 ELECTRIC ก่อนใคร ผ่านแอพพลิเคชัน MG THAILAND และเว็บไซต์ https://onlinebooking.mgcars.com ตั้งแต่เปิดตัวจนถึง วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นี้ 23.59 น.
NEW MG4 ELECTRIC ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ
- สีฟ้า (Brighton Blue)
- สีดำ (Black Knight)
- สีแดง (Scarlet Red)
- สีเทา (Andes Grey)
- สีขาว (Arctic White)
ลิงค์ดาวน์โหลด แอพพลิเคชัน MG THAILAND
- สำหรับ iOS https://apps.apple.com/th/app/mg-thailand/id1614430167
- สำหรับ Google Play Store https://play.google.com/store/apps/details?id=com.saicmotor.ismartthai
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่
- Website: MG Cars | MG SALES (THAILAND)
- Line: @MGThailand
- Facebook: MG Thailand | Facebook
- Twitter: @mg_thailand
- Instagram: @mgthailand
- Youtube: MG Thailand