Skoda Octavia Estate 1.4 TSI iV SE Technology
ราคา 31,775 ปอนด์ (ราว 1,588,750 บาท) ราคาเป้าหมาย 31,775 ปอนด์ (ราว 1,588,750 บาท) ราคาเป้าหมาย PCP na 0-62 กม./ชม. 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 218.82 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง 116.8 กม./ลิตร CO2 23 กรัม/กม.
หากต้องเลือกรุ่นเดียวที่เป็นตัวแทนของ Skoda ได้ดีที่สุด เราคิดว่าต้องเป็น Octavia Estate ไม่เพียงแต่มาพร้อมพื้นที่และความอเนกประสงค์ระดับชั้นนำแต่ยังประหยัดต้นทุนอย่างมากอีกด้วยและเวอร์ชัน Plug-in Hybrid iV ก็ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ
เรายอมรับว่าด้วยราคาขายที่เริ่มต้นเพียงไม่ถึง 1,600,000 บาท ในรุ่น iV นั้นมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรุ่นOctavia Estate ทั่วไปซึ่งเป็นเบนซิน สำหรับหลายๆ คน การลงทุนครั้งแรกจะจ่ายเงินปันผลคืนนั่นเป็นเพราะว่า iV ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.4 ลิตร แบบประหยัด มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เป็นแบบเดียวกับ Volkswagen Golf GTE รุ่นล่าสุด สามารถประหยัดถึง 116.83 กม./ลิตร
คุณจะต้องเสียบปลั๊ก iV ของคุณเป็นประจำเพื่อจะได้เห็นตัวเลขดังกล่าวแต่เราคิดว่าผู้ขับขี่หลายคนน่าจะชอบเพราะมันมาพร้อมระยะวิ่งไฟฟ้าอันน่าประทับใจที่ 65.97 กิโลเมตร ซึ่ง iV นั้นนิ่งเงียบเมื่อทำงานในโหมดไฟฟ้าอย่างเดียวและมอเตอร์ก็ทรงพลังพอที่จะทำให้คุณวิ่งบนมอเตอร์เวย์ด้วยความเร็วได้โดยไม่ยุ่งยาก ปัจจัยในการขับขี่ที่นุ่มนวลกว่าของ Seat Leon e-Hybrid และ Octavia ทำให้เป็นรถที่เดินทางได้อย่างผ่อนคลาย
หากคุณใช้เวลาอยู่หลังพวงมาลัยเป็นเวลานานคุณจะดีใจที่รู้ว่า Octavia มีตำแหน่งการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมพร้อมมาตรฐานคุณภาพภายในที่ถึงแม้จะไม่เท่า BMW 330e Touring ที่หรูหรากว่าแต่ก็ยังคงน่าประทับใจ ณ ราคานี้ มีพลาสติกหรูหราที่ตกแต่งประตูและแผงหน้าปัดให้สวยงามซึ่งถือเป็นจุดเด่นและแม้แต่วัสดุที่แข็งกว่าก็ยังมีพื้นผิวที่น่าพึงพอใจและส่วนใหญ่จำกัดอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยโดดเด่น
ระบบสาระบันเทิงของหน้าจอสัมผัสใช้งานได้ค่อนข้างยุ่ง แม้แต่การปรับอุณหภูมิ (ผ่านหน้าจอส่วนกลาง) ก็ทำให้เสียสมาธิมากกว่าที่ควรจะเป็นแต่แผงหน้าปัดแบบดิจิตอล ซึ่งใช้แทนแป้นหมุนปกติของรุ่น SE Technology ขึ้นไป อ่านง่ายและสามารถกำหนดค่าได้หลายวิธี
สิ่งที่ทำให้ Octavia ตกม้าตายคือพื้นที่ท้ายรถซึ่งมีขนาดใหญ่ตามมาตรฐานปลั๊กอินไฮบริดแต่คุณสูญเสียพื้นที่ปกติเล็กน้อยเนื่องจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ของ iV แต่คุณยังมีพื้นที่เก็บของใต้พื้นซึ่งเหมาะสำหรับเก็บสายชาร์จ
Octavia Estate iV มอบการขับขี่ที่ผ่อนคลายและการตกแต่งภายในที่ชาญฉลาดพร้อมอุปกรณ์ครบครัน
ภายในมีพื้นที่มากมายสำหรับผู้คนเช่นกัน ผู้โดยสารด้านหน้าจะไม่มีปัญหาในการนั่งให้สบาย ขณะที่ด้านหลังมีพื้นที่เหนือศีรษะและวางขากว้างขวางสำหรับผู้โดยสารตัวสูงสองคน
ผู้ใช้รถของบริษัทก็มีเหตุให้ต้องดีใจอีกนั้นคือระยะวิ่งไฟฟ้าที่ดีต่อนั้นนำไปสู่การปล่อย CO2 อย่างเป็นทางการเพียง 23 กรัม/กม. ทำให้ Octavia iV อยู่ในกรอบภาษีที่มอบผลประโยชน์ในประเภทเดียวกันที่ต่ำเป็นพิเศษ 6%
Volkswagen Passat Estate 1.4 TSI GTE
ระยะเวลาผลิต 2016 – ปัจจุบัน ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 ปอนด์ (ราว 500,000 บาท) 0-62 กม./ชม. 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 225.2 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง 66.7 กม./ลิตร CO2 40 กรัม/กม.
THE VOLKSWAGEN PASSAT Estate มีรูปแบบที่หลากหลายมานานทำให้เป็นตลาดหลักของตลาดรถยนต์มือสอง ซึ่งเวอร์ชันล่าสุดนี้มีขนาดใหญ่กว่าและมีราคาสูงกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัดและดาวเด่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้คือ GTE Plug-in Hybrid อย่างไม่ต้องสงสัย
ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.4 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า มันสามารถส่งกำลังสูงสุด 215 แรงม้า ซึ่งเพียงพอสำหรับเวลา 0-100 กม./ชม. ที่ 7.6 วินาที และสมรรถนะที่รวดเร็วพอควรในด้านอื่น ๆ
แต่สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดของ GTE คือระยะอย่างเป็นทางการที่ 49.88 กิโลเมตร ในโหมดไฟฟ้าหากการเดินทางของคุณส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่นานและคุณชาร์จแบตเตอรี่ไว้เต็มอยู่เสมอ อาจทำให้ค่าน้ำมันต่ำจนน่าประทับใจ จริงอยู่ที่คู่แข่งอย่าง BMW 330e และMercedes-Benz C300de สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลกว่านั้นเล็กน้อยแต่ทั้งสองมีราคาสูงกว่าในการซื้อและแทบจะมีความอเนกประสงค์น้อยกว่า
GTE มีการขับขี่ที่เป็นระเบียบ นุ่มนวลและสร้างเสียงรบกวนน้อยมาก
ภายในได้รับการออกแบบและประกอบอย่างสวยงาม เบาะนั่งคนขับมาพร้อมการปรับพนักพิงไฟฟ้าและระบบรองรับหลังส่วนล่าง ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไกล ผู้โดยสารไม่น่าจะบ่นเรื่องพื้นที่วางทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ในส่วนของท้ายรถมีขนาดใหญ่
พื้นที่ท้ายรถที่กว้างขวางของ GTE เป็นหนึ่งในรุ่นที่ใหญ่ที่สุดในทุกช่วงราคา
บางทีข่าวดีที่สุดของทั้งหมดก็คือ GTE มือสองมีขายตั้งแต่รุ่นปี 2016 สามารถหาซื้อได้ในราคาค่อนข้างถูกในตลาดมือสอง ตัวอย่างแรกที่มีระยะทางสูงสามารถพบได้ในราคาเพียง 500,000 บาท
อย่างไรก็ตามเราจะพิจารณารถยนต์จากปี 2017 ด้วยระยะทางเฉลี่ยสำหรับปี มีราคาระหว่าง 600,000 – 700,000 บาท หรือรุ่นปี 2018 ที่มีราคาระหว่าง 750,000 – 900,000 บาท