Ready player two?
Tesla Model S อาจจะรู้สึกหวั่นๆ กับผู้ท้าชิงในตำแหน่งเจ้าแห่งการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพนี้ซึ่งมีเพียงไม่กี่เจ้า ว่าแต่ Porsche Taycan พร้อมที่จะเข้าสู่สนามแล้วรึยัง?
NEW Porsche Taycan Turbo
ราคาปกติ 116,680 ปอนด์ (ราว 5,834,000 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 116,680 ปอนด์ (ราว 5,834,000 บาท)
มีจำหน่ายในไทย
Tesla Model S Dual Motor Performance
ราคาปกติ 92,980 ปอนด์ (ราว 4,649,000 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 92,980 ปอนด์ (ราว 4,649,000 บาท)
ยังไม่มีจำหน่ายในไทย
ไม่ใช่ว่าจะไม่มีน้ำมันเข้ามาเกี่ยวข้องอีกแต่ยังมีหัวฉีดน้ำมันแล้วหนึ่งอย่าง แม้รถยนต์ทั้งสองคันจะใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่ Tesla Model S Performance เป็นรถหรูที่มีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งมันมาพร้อมกับ Cheetah Mode ใหม่ ซึ่งพูดง่ายๆ ก็คือช่วยให้เร่งความเร็วได้เหมือน Billy-o
ดังนั้นการเปรียบเทียบกับ Porsche Taycan Turbo ใหม่ จึงเหมาะสมอย่างยิ่งด้วยความเร็วเป็นพิเศษเช่นเดียวกับ Model S
- เกาะถนนดี มีความสมดุลยอดเยี่ยมและการเลี้ยวแบบถ่วงน้ำหนัก
- Model S มีขนาดและน้ำหนักที่พอดีแต่สู้ความสามารถในการเข้าโค้งของคู่แข่งไม่ได้
Turbo ไม่ใช่ Taycan ที่ทรงพลังที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ แต่ถ้าคุณโชคดีพอที่จะมีเงินประมาณ 117,000 ปอนด์ (ราว 5,850,000 บาท) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วแรงต้องลองพิจารณา Model S ที่มาในราคา 93,000 ปอนด์ (ราว 4,650,000บาท) ด้วยเช่นกัน
การขับขี่
สมรรถนะ, ความรู้สึกในการขับขี่, ความประณีต
ประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้านั่นคือการตอบสนองในทันที การเหยียบคันเร่งในรถยนต์เบนซิน อาจจะต้องใช้เวลาสักครู่ ในทางกลับกันทั้งสองคันนี้สามารถเร่งความเร็วได้ราวกับกดเปิดสวิทช์ไฟ
เมื่อเริ่มต้นการใช้งาน Model S สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. เพียง 2.8 วินาที ในขณะที่ Taycan ตามติดมาในเวลา 3.1 วินาที ซึ่งการทดสอบนั้นเป็นไปภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน หากเร่งไปถึง 160 กม./ชม. Taycan ทำเวลาไว้ 6.9 วินาที ขณะที่ Model S เป็น 7.2 วินาที ในสถานการณ์จริงการทำเร่งความเร็วจาก 50 – 110 กม./ชม.ทั้งคู่สามารถทำเวลาเหมือนกันด้วยเวลา 2.4 วินาที
PORSCHE TAYCAN
ทั้งสองมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ดังนั้นในการวิ่งทางตรง คุณจะไม่ต้องขับเคี่ยวหนักเพื่อควบคุมรถ Model S มีความสามารถมากและเลี้ยวได้อย่างแม่นยำแสดงให้เห็นถึงการยึดเกาะที่แน่นมาก การบังคับเลี้ยวนั้นค่อนข้างแม่นยำเช่นกันโดยมีโหมดที่แตกต่างกันสามโหมดเพื่อให้คุณสามารถปรับแต่งน้ำหนักได้ตามใจ
Taycan ก้าวไปสู่อีกระดับด้วยพวงมาลัยมีเพียงการตั้งค่าเดียวแต่สมบูรณ์แบบนั่นคือมีน้ำหนักที่กำลังดีและให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีระบบช่วงล่างถุงลมเป็นมาตรฐานของรถ แต่รถของเรายังมีระบบ Porsche Dynamic Chassis Control Sport ที่เป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อให้แน่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในโหมดใด Taycan จะสงบเงียบมากกว่า กล่าวโดยสรุปคือการทรงตัวที่สง่างามของ Taycan นั้นไม่เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่เราเคยขับ
แน่นอนว่ามีสิ่งหนึ่งที่หายไปจากทั้งสองคันนั่นคือ V8 ที่กระหึ่มหรือ flat six soundtrack ที่ปลุกจิตวิญญาณในตัวคุณ เพื่อช่วยชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปนี้ Taycan ได้นำเสนอเครื่องปรับแต่งเสียงซึ่งจะช่วยเพิ่มเสียงที่เป็นธรรมชาติของรถด้วยเสียงเหมือนในอวกาศแทนที่จะพยายามเลียนแบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน
TESLA MODEL S
ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น บนพื้นผิวขรุขระยังมีเสียงดังจากยางของ Taycan แต่ก็ไม่ถึงจุดที่สร้างความรำคาญนัก อันที่จริง โดยรวมในการขับขี่ Taycan ไม่ได้มีเสียงดังมากนัก เมื่อเทียบกับ Model S ที่คุณจะได้ยินในช่วงหลัง
ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าทั้งคู่มีระบบเบรกที่ดี Taycan ได้ส่งพลังงานผ่านแบตเตอรี่เมื่อคุณเหยียบเบรกหรือยกคันเร่งเหมือนที่รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ทำแต่กลับให้ความรู้สึกเบา ระบบเบรกของ Model S ทำงานเหมือนกับรถยนต์ทั่วไป การเก็บพลังงานจะเกิดขึ้นเมื่อคุณยกออกเท่านั้น การชะลอความเร็วนั้นรุนแรงมากใน Model S จนคุณแทบไม่ต้องใช้เบรกเลย
แม้ว่าการขับขี่ของ Taycan จะเฟิร์มกว่า Model S แต่เมื่อผ่านหลุมบ่อก็เจอกับแรงสะเทือนไม่มากก็น้อย ในความจริง Model S นั้นไม่สะดวกเท่าไหร่ให้ความรู้สึกสะเทือนบนถนนที่ขรุขระโชคดีที่อาการเหล่านี้ไม่ค่อยชัดเมื่อใช้ความเร็วสูง
หลังพวงมาลัย
ตำแหน่งการขับขี่, ทัศนวิสัย, คุณภาพในการผลิต
แม้ว่าตำแหน่งการขับขี่ที่ลาดเอียงต่ำของ Taycan จะดึงดูดความสนใจมากกว่า Model S แต่นั้นก็เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัว และเบาะนั่งแบบสปอร์ตปรับด้วยระบบไฟฟ้า 18 ทิศทางของ Taycan นั้นดีกว่าอย่างแน่นอนเมื่อคุณต้องเข้าโค้งและขับขี่ในทางตรง Model S ก็มีเบาะนั่งแบบปรับได้ด้วยเช่นกันแต่ไม่มีการปรับเปลี่ยนที่หลากหลายและมีความกระชับด้านข้างน้อยกว่า
รถทั้งสองคันมีพวงมาลัยแบบปรับไฟฟ้า ด้านหลังเป็นจอแสดงผลแบบดิจิตอล ใน Taycan ใช้การควบคุมฟีเจอร์ต่าง ๆ ผ่านหน้าจอขนาด 8.4 นิ้ว ตรงกลางและหน้าจอสาระบันเทิงที่ติดอยู่ด้านบนขนาด 10.9 นิ้ว รถทั้งสองคันไม่มีปุ่มมากมายนั่นอาจจะเป็นเรื่องยากไปหน่อยสำหรับการค้นหาเมนูต่าง ๆ ถึงแม้ Tesla จะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ 17.0 นิ้วก็ตาม
สำหรับรุ่น S ได้ติดตั้งหลังคากระจกพาโนรามามาเป็นมาตรฐานจึงทำให้มีความรู้สึกโปร่งสบายมากขึ้นและตำแหน่งที่นั่งของTaycan นั้นค่อนข้างต่ำอาจจะทำให้คุณคิดว่ามันมองเห็นได้ยากขึ้นแต่ในความเป็นจริงรถทั้งสองรุ่นนี้มีเสาบังลมที่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นในขณะที่อยู่ตามทางแยกต่าง ๆ เช่นกัน
ถึงอย่างนั้นการจอดรถก็ไม่ใช่ปัญหามากนักเนื่องจากรถทั้งสองคันมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ด้านหน้าและด้านหลัง Taycan ติดตั้งไฟหน้า Matrix LED แบบปรับได้ซึ่งสามารถคงอยู่บนลำแสงหลักโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การควบคุม ในขณะที่ Model S มีเพียง LED ที่เรียบง่ายและไม่สามารถปรับได้
Model S ยึดตาม Taycan ในด้านคุณภาพภายในซึ่งอาจดูล้ำยุคแต่ช่องว่างของแดชบอร์ดนั้นประกอบไปด้วย ‘หนังวีแกน’ ให้ความรู้สึกถึงหนังสังเคราะห์และคอนโซลกลางนั้นให้ความรู้สึกบอบบางเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน Taycan ให้ความรู้สึกเหมือนทำจากวัสดุคุณภาพดีที่สุด
พื้นที่และการใช้งาน
พื้นที่ด้านหน้า, พื้นที่ด้านหลัง, ความยืดหยุ่นของที่นั่ง, ห้องเก็บสัมภาระ
Taycan มีพื้นที่เหนือศีรษะและส่วนวางขาด้านหน้ามากขึ้น และ Model S นั้นกว้างกว่าเล็กน้อยแต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะเดือดร้อนกับพื้นที่เพียงแค่นั้น ในขณะที่ Taycan มีพื้นที่เก็บของระหว่างเบาะหน้าน้อยกว่า ช่องใส่ของข้างประตูมีขนาดกำลังพอเหมาะ น่าเสียดายที่ Model S ไม่มีแม้แต่ช่องใส่ของที่ประตูเลย
อย่างไรก็ตาม Model S ชนะเรื่องพื้นที่ด้านหลังแม้ว่าผู้โดยสารสูงกว่า 180 ซม. ทั้ง 3 คน จะนั่งได้อย่างไม่มีปัญหามากนัก แล้วก็น่าเสียดายอีกที่พื้นค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับที่นั่ง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ Model S พลาดตำแหน่งนี้
ที่นั่งของ Taycan มีขนาดพอดีสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน แต่มีพื้นที่เหลือไม่มากนัก ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้เบาะแบบ threeseat แทนเบาะนั่งสองตัวที่เป็นมาตรฐานของรถได้ แต่เราคิดว่าน่าจะคับแคบเกินไปสำหรับผู้โดยสารตรงกลาง
รถทั้งสองคันมีห้องเก็บสัมภาระด้านหน้าและด้านหลังที่ใหญ่กว่ามาก Taycan สามารถนำกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องได้ทั้งหมดเจ็ดใบแต่ที่น่าประทับใจกว่าคือ Model S จุได้มากถึง 11 ใบ
การซื้อและการเป็นเจ้าของ
ค่าใช้จ่าย, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย
Model S มีราคาถูกกว่ามากเมื่อซื้อด้วยเงินสด แต่โดยภาพรวมแล้วทั้งค่าบริการและค่าประกันเท่ากันถึงแม้เราจะพบว่า Taycan ใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่า ในช่วงสามปีแรกนั้นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่ร้อยปอนด์ อันที่จริง Taycan ควรเสียค่าใช้จ่ายรวมเบ็ดเสร็จภายในครั้งเดียวจะดีกว่า
. .สิ่งที่พวกคุณต้องจ่าย. . ราคาทั้งหมดอยู่ในช่วงการทดสอบ
ราคาปกติ 116,680 ปอนด์
(ราว 5,834,000บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 116,680 ปอนด์
(ราว 5,834,000 บาท)
ราคาปกติ 92,980 ปอนด์
(ราว 4,649,000 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 92,980 ปอนด์
(ราว 4,649,000 บาท)
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เราไม่สามารถทำการทดสอบระยะจริงของคู่แข่งได้แต่คาดว่าระหว่างการชาร์จไฟใน Model S จะครอบคลุมประมาณ 434 กม. และ 321 กม. ใน Taycan เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้า Tesla มีสถานี Supercharger ราว 500 แห่งกระจายอยู่ทั่วสหราชอาณาจักร โดยที่สถานีเหล่านี้สามารถชาร์จได้ 10-80% ในเวลาเพียงไม่ถึง 40 นาที
สถานี Ionity 350kW จะอัดประจุจำนวนเท่ากันไปยัง Taycan ในเวลาเพียง 20 นาที แต่เนื่องจากปัจจุบันมีสถานีเพียงไม่กี่แห่งในสหราชอาณาจักร คุณอาจจะใช้เครื่องชาร์จแบบเร็ว 50kW ทั่วไปมากกว่า โดยเจ้าเครื่องนี้สามารถชาร์จให้ Taycan จาก 10-80% ในเวลาประมาณ 60 นาทีและ Model S 80 นาที หากเป็นตู้ชาร์จประจำบ้านขนาด 7kW Taycan จะใช้เวลา 13 ชม. 30 นาทีในการรับจาก 0-100% และ Model S ใช้เวลา 15 ชม. 15 นาที
แม้ว่า Model S จะมาพร้อมกับสายเคเบิลทั้งหมดที่คุณต้องการ แต่ Porsche ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 210 ปอนด์หรือราว ๆ 10,500บาท เพื่อสาย Type 2 ซึ่งคุณจำเป็นต้องใช้ในการชาร์จ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า Model S มีอุปกรณ์ที่ดีกว่าโดยทั่วไป รถทั้งสองคันมีระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้และเบาะนั่งแบบปรับความร้อนได้รอบด้าน Tesla ได้เพิ่มกระจกมองข้างพับได้ระบบไฟฟ้าและพวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้
รถทั้งสองคันมีระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยมากมายและ Model S จะมาพร้อมระบบการขับขี่อัตโนมัติแม้ว่าการอัปเกรดรุ่น S ต้องมีค่าใช้จ่าย 5,800 ปอนด์ ราว ๆ 290,000 บาทและนั่นหมายความว่าเราจะได้ฟังก์ชั่นนี้แบบจัดเต็มและหลากหลายมากขึ้น
. . WHATCAR? SAY . .
ปัจจุบัน Model S เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีกว่าหากคุณต้องเดินทางไกลเป็นส่วนมาก ที่โดดเด่นสุดเห็นจะเป็นสถานีในการชาร์จอันยอดเยี่ยมของ Tesla นอกจากนี้ยังราคาถูกกว่าเล็กน้อย (แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายตลอดชีวิต) มีพื้นที่กว้างขวางและมีอุปกรณ์ครบครันกว่า
อย่างไรก็ตามในฐานะรถสมรรถนะสูง Taycan กลายเป็นอีกตัวเลือกเพราะมันมีค่าใช้จ่ายมากกว่าถึงอย่างนั้นคุณภาพของมันก็เหมาะสมกับราคา แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ชนะ การขับเคลื่อนในทางตรงของ Model S สบายกว่า ซึ่งอาจเป็นแนวหน้าของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla แต่ Taycan ทำให้ Porsche กลายเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ดึงศักยภาพออกมาในฐานะเครื่องจักรของคนขับ
ข้อดี การจัดการยอดเยี่ยม นั่งสบาย การตกแต่งภายในที่มีดูดีระดับและมีคุณภาพสูง
ข้อเสีย ซื้อด้วยเงินสดในราคาที่แพงกว่า ไม่กว้างขวาง เครือข่ายการชาร์จไม่ดีเท่า
ออปชั่นเสริมที่แนะนำ กล้องมองหลัง (480 ปอนด์ หรือ 24,000 บาท), สายชาร์จ Type 2 (210 ปอนด์ หรือ 10,500 บาท)
ข้อดี มี Ultra-quick มีอุปกรณ์ครบครัน กว้างขวางและใช้งานได้จริง มีเครือข่าย Supercharger เต็มพื้นที่
ข้อเสีย ไม่สนับสนุนการขับรถบนถนนที่ขรุขระ คุณภาพภายในยังไม่เหมาะสม การควบคุมที่น่าตื่นเต้นน้อยกว่า ค่าเสื่อมราคาที่หนักกว่า
ออปชั่นเสริมที่แนะนำ ไม่มี