Full house
การมาของ Audi A3 Sportback รุ่นใหม่เป็นเสมือนการเริ่มเกมของตลาดรถยนต์สำหรับครอบครัวแบรนด์ดัง เรามาดูกันว่าน้องใหม่จะสามารถเทียบเคียงกับคู่แข่งรุ่นพี่อย่าง BMW และ Mercedes ได้หรือไม่
NEW Audi A3 Sportback 35 TFSI S line
ราคา 28,205 ปอนด์ (ราว1,410,250 บาท)
ราคาเป้าหมาย 26,841 ปอนด์ (ราว 1,342,050 บาท)
A3 รุ่นก่อนหน้าเกิดมาเพื่อเป็นคู่หูผู้ใช้งานอย่างรอบด้านและเป็นรถยนต์คันโปรดของเรามาอย่างยาวนาน มาดูกันว่า รุ่นใหม่นี้จะสามารถเทียบเคียงกับมาตรฐานเดิมได้หรือไม่นะ
BMW 1 Series 118i M Sport auto
ราคา 29,155 ปอนด์ (ราว 1,457,750 บาท)
ราคาเป้าหมาย 27,193 ปอนด์ (ราว 1,359,650 บาท)
The 1 Series เป็นรถยนต์แฮทช์แบ็กสำหรับครอบครัวสุดหรู หลายคนอาจจะเคยเห็นรุ่น A-Class ที่เป็นดีเซลมาบ้างแล้ว ลองมาดูรุ่นเบนซินกันบ้างดีกว่า
Mercedes-Benz A-Class A200 AMG Line auto
ราคา 29,905 ปอนด์ (ราว 1,495,250 บาท)
ราคาเป้าหมาย 26,599 ปอนด์ (ราว 1,329,950 บาท)
A-Class เป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กที่สุดแต่กลับแรงกว่าใครเพื่อน ผนวกกับการตกแต่งภายในที่หรูหราแฝงพลังแบรนด์ที่มีชื่อเสียง
การมีไพ่ดี ๆ ในมือถือเป็นการนำโชคลาภมาให้ นี่เป็นครั้งแรกที่เราสับไพ่กองรถยนต์แฮทช์แบ็กระดับพรีเมี่ยมและจั่วออกมาเป็นใบเอซสามตัวเรียงกัน
เรากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่หรอ ขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน เมื่อสองปีที่แล้ว Mercedes-Benz A-Class ได้รับการปรับโฉมใหม่ เปิดตัวมาด้วยการตกแต่งภายในสุดหรูพร้อมด้วยระบบสาระบันเทิงที่ทันสมัยที่สุดที่ยังไม่เคยมีมาก่อนบนรถยนต์สำหรับครอบครัวรุ่นไหน ๆ
AUDI A3 SPORTBACK
จนกระทั่งปีที่ผ่านมา BMW 1 Series ก็ได้ทำการเปิดตัวขึ้นพร้อมเป็นที่กล่าวถึงเรื่องระบบขับเคลื่อนล้อหลังและล้อหน้าที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ อีกทั้งยังมีรุ่นดีเซลที่เบียดเอาชนะ A-Class และช่วงชิงตำแหน่งไปได้
BMW 1 SERIES
แต่เราไม่ได้นำ Audi A3 Sportback มาร่วมทดสอบ เพราะเรากำลังรอคอยรุ่นใหม่อย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่า A3 เป็นรถยนต์ที่ไม่น่าสนใจ มันเป็นรถยนต์ในระดับต้น ๆ ของรถยนต์ระดับเดียวกัน แต่เราไม่รู้ว่ารุ่นใหม่จะมีของดีพอที่จะเอาชนะรุ่นพี่จากอีกสองแบรนด์คู่แข่งได้หรือไม่
กฏของการแข่งขันนี้คือ รถยนต์ทั้งสามคันต้องวิ่งด้วยน้ำมันและความแรงที่ 150-160 แรงม้า หากคุณต้องการซื้อด้วยเงินสด รถยนต์รุ่นท็อปจะต้องมีราคาประมาณ 30,000 ปอนด์ (ราว 1,500,000 บาท)
MERCEDES-BENZ A-CLASS
เราต้องขอบอกไว้ก่อนว่า A3 ตัวใหม่นี้จะเป็นเหมือนไพ่โจ๊กเกอร์เพราะเป็นคันเดียวที่ไม่ใช่เกียร์อัตโนมัติ และช่วยประหยัดเงินไปได้ประมาณ 1,500 ปอนด์ (ราว 75,000 บาท) เทียบกับรุ่นอื่่น ที่คุณสามารถเลือกเกียร์แบบอัตโนมัติได้ แต่สำหรับ A3 ทางบริษัทยังไม่มีนโยบายเปิดตัวรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
การขับขี่
สมรรถนะ, การขับขี่, สเถียรภาพ, ความประณีต
ไม่ว่าคุณต้องการที่จะนำรถหรูสุดหล่อของคุณไปวิ่งชิล ๆ ในเมืองหรือจะซิ่งบนมอเตอร์เวย์ ซึ่งไม่ว่าเลือกทางไหนคุณก็สามารถเร่งเครื่องได้แรงดั่งใจ โดย A-Class เป็นรุ่นที่ทำความเร็วได้มากที่สุด ทั้ง ๆ ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ขนาดเล็กที่สุด (1.3 ลิตร รุ่นอื่น 1.5 ลิตร) คุณจะสามารถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที ใช้เวลาน้อยกว่า A3 เพียงครึ่งหนึ่งและไวกว่า 1 Series 1 วินาที อีกทั้งยังเป็นรถยนต์ที่ไวที่สุดในช่วงระยะ 50 – 110 กม./ชม. อีกด้วย โดยใช้เวลาเพียง 7.3 วินาที ซึ่งไวกว่าคู่แข่งเกือบ 1 วินาที นั่นหมายความว่าคุณจะวิ่งฉิวแซงรถยนต์
ช้า ๆ บนมอเตอร์เวย์ได้อย่างสบาย ๆ
AUDI A3 SPORTBACK
ในขณะที่ 1 Series ให้ความรู้สึกดีใกล้เคียงกับ A3 ในระบบสปอร์ต สำหรับการตั้งค่าแบบ Comfort 1 Series จะคุมรอบให้ต่ำและใช้เกียร์สูง ทำให้เครื่องยนต์ดูทำงานหนัก แม้ว่าคุณจะเหยียบคันเร่งอย่างแรงก็ตาม ด้วยความที่เป็นเกียร์กระปุก A3 ช่วยให้คุณสัมผัสได้ถึงพลังและวิ่งด้วยรอบต่ำได้ดั่งใจ ในขณะเดียวกันเกียร์อัตโนมัติของ A-Class นั้นทำงานตรงข้ามกับ 1 Series ซึ่งจะทำการปัดเกียร์ลงอย่างน่าตื่นเต้น หากมองในแง่ดีเกียร์ของ 1 Series นุ่มนวลกว่าของ A-Class แต่การเปลี่ยนเกียร์ของ A3 นั้นง่ายและน่าประทับใจมากกว่า รถยนต์ทั้งสามคันสามารถเบรกความเร็วได้อย่างดี แต่ A3 และ A-Class มีความรู้สึกในการเบรกที่คมกว่า 1 Series ที่มีวิธีการเบรกที่นุ่มนวลยากกว่า เราสามารถบอกได้ว่า 1 Series มีการสตาร์ทและการเบรกที่ตะกุกตะกักมากที่สุด (ในขณะที่อีกสองแบรนด์ทำได้ราบรื่น) อย่างไรก็ตามเครื่องที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3 สูบ นั้นมอบการขับขี่ได้นุ่มนวลที่สุด เครื่องยนต์ 4 สูบของ A3 ไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ต่างจาก A-Class ที่มักจะปล่อยเสียงคล้ายชอล์กขูดกระดานออกมาเมื่อเครื่องทำงานหนัก
BMW 1 SERIES
เมื่อความเร็วคงที่ 100 กม./ชม. เครื่องยนต์ของทั้งสามจะเงียบลง แต่ 1 Series เป็นรถยนต์ที่เสียงดังที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสียงคำรามระหว่างล้อบดกับถนน A3 ทำงานเงียบกว่าเล็กน้อย แต่สำหรับ A-Class จะมีเสียงลมเข้ามาตามหน้าต่างบ้างแต่โดยรวมแล้วมันเป็นรถยนต์ที่เงียบสงบที่สุดคันหนึ่งเลยทีเดียว
A-Class ยังถือว่าเป็นรถที่มีช่วงล่างนุ่มที่สุดอีกด้วย เมื่อวิ่งบนมอเตอร์เวย์ ความนุ่มนี้ช่วยให้รู้สึกเหมือนคุณกำลังล่องลอยอยู่เหนือถนน B-road อาจมีการสะเทือนบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับทำให้คุณเวียนหัว
A3 มีการขับขี่และช่วงล่างที่เฟิร์มกว่า แต่ 1 Series เฟิร์มที่สุด ทั้งสองก็ยังสั่นสะเทือนจนนั่งไม่สบายหากคุณชอบการขับขี่ที่นุ่มสบาย 1 Series ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ก็ต้องแลกกับการเป็นรถยนต์ที่น่าหงุดหงิดที่สุดเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง A3 สามารถรับมือกับพื้นผิวถนนแบบต่าง ๆ ได้ดีกว่าและผู้ขับขี่หลายคนจะรู้สึกถึงความโดดเด่นของสมดุลระหว่างความสบายและการควบคุมที่ดี คุณสามารถเลือกที่จะไม่ติดตั้งช่วงล่างแบบสปอร์ตในรุ่น S line ที่ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐานแบบไม่มีค่าใช้จ่ายก็ได้
MERCEDES-BENZ A-CLASS
หากพูดถึงการขับขี่ด้วยช่วงล่างแบบสปอร์ต ยก A3 ให้เป็นรถยนต์ที่ขับสนุกที่สุด ด้วยพวงมาลัยที่มีความสอดคล้องกับการตอบสนองระหว่างน้ำหนักและความเร็วของรถ (ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับบนบนถนนที่คดเคี้ยว หักพวงมาลัยด้วยความแม่นยำจากฝีมือคุณเอง แต่อย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะขับสนุกเหมือน Ford Focus เมื่อได้ลองเทียบกับคู่แข่งระดับพรีเมี่ยมแล้ว A3 ก็ยังชนะใส ๆ
1 Series ให้ความรู้สึกสปอร์ตแค่ในช่วงแรก ด้วยการมีพวงมาลัยที่ตอบสนองไวที่สุดและมีการโยนตัวน้อยที่สุดแต่ล้อด้านหน้ากลับมาพร้อมแรงยึดเกาะอันน้อยนิดกว่าของ A3 และ A-Class โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่อากาศร้อนมากของการทดสอบ
อีกด้านหนึ่ง A-Class ก็ไม่ได้เป็นรถยนต์ที่มีความสปอร์ตเช่นกัน จากการถูกโยนตัวมากที่สุดขณะเลี้ยวและพวงมาลัยกับล้อหน้ามีความสัมพันธ์กันน้อยที่สุด นี่อาจจะฟังดูแย่ แต่จริง ๆ แล้ว A-Class เป็นรถยนต์ที่ขับด้วยความเร็วสูงง่ายที่สุด สามารถรักษาความเร็วขณะเลี้ยวได้ดี ถึงแม้ว่าอาจจะขับขี่ไม่สนุกเท่ารุ่นอื่นก็ตาม
หลังพวงมาลัย
ตำแหน่งคนขับ, ทัศนวิสัย, คุณภาพการผลิต
คุณภาพภายในของ A3 เป็นอะไรที่โดดเด่นที่สุดในหมู่รถยนต์ประเภทครอบครัวแต่เมื่อเทียบ A3 รุ่นใหม่กับรุ่นก่อนหน้า ภายในของ A3 รุ่นล่าสุดดูมีเทคโนโลยีที่พอเหมาะ แต่กลับแต่งด้วยวัสดุพลาสติกที่สามารถเป็นรอยได้หลายจุด รวมถึงปุ่มกดและสวิตช์ที่ไม่สามารถสั่งการได้ด้วยการสัมผัสในลักษณะเดิม
AUDI A3 SPORTBACK
ว่ากันว่า A-Class ทำได้ดีกว่าในด้านนี้ ทั้ง ๆ ที่ภายในของมันดูหรูหรากว่ามีการเล่นระหว่างพลาสติกมันวาวสีดำตัดขอบด้วยโลหะ ปรากฏว่าพลาสติกที่ใช้กลับไม่ได้เป็นพลาสติกที่คุณภาพดีไปกว่า A3 นัก และ A-Class กลับไม่ให้ความรู้สึกว่าส่วนต่าง ๆ ถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน เช่น เมื่อคุณกดปุ่มปรับอากาศ แผงควบคุมจะเบี่ยงไปอีกทางหนึ่ง
การตกแต่งภายในของ 1 Series อาจดูไม่น่าดึงดูดเท่าของแบรนด์คู่แข่ง แต่ก็ดูเป็นรถที่ใช้วัสดุที่ดูแข็งแรงทนทาน ซึ่งอาจจะมีบางจุดที่ดูใช้วัสดุคุณภาพต่ำบ้างแต่ก็มีหลายจุดที่มีการใช้วัสดุผิวสัมผัสนุ่ม ชวนให้คุณอยากไล่นิ้วไปตามจุดต่าง ๆ สวิตช์ถูกติดตั้งมาอย่างสวยงามกลมกลืน
BMW 1 SERIES
รถยนต์ทั้งสามคันมีตำแหน่งคันเร่งที่สอดคล้องกับพวงมาลัยและเบาะคนขับ ทำให้คุณสามารถนั่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ และคุณจะยังประทับใจความนุ่มของเบาะบนรถยนต์ทั้งสาม แม้ว่า A1 และ 1 Series มีการซัพพอร์ตด้านข้างขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงมากกว่า A-Class คุณอาจจะต้องการติดตั้งพนักพิงแบบปรับได้เพิ่มเติม โดยมีราคา 260 ปอนด์ (ราว 13,000บาท) และ 150 ปอนด์ (ราว 7,500 บาท) สำหรับ A3 และ 1 Series ตามลำดับ
คุณไม่สามารถเพิ่มอุปกรณ์เฉพาะอย่างได้ A-Class คุณจะต้องเพิ่มเงินซื้อ Premium Plus Pack ราคาสูงลิ่ว (225,000 บาท) แต่ข่าวดีคือเบาะของ A-Class มาพร้อมกับการซัพพอร์ทหลังช่วงล่างที่ดีเพียงพอแล้ว
คุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มเงินมากขนาดนั้นเพื่อเปลี่ยนหน้าจอจาก 7.0 นิ้ว เป็นจอดิจิตอล 10.3 นิ้วตามภาพ อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะต้องเพิ่มเงินประมาณ 3,000 ปอนด์ (ราว 150,000 บาท) สำหรับ Premium Pack ที่สามารถเพิ่มอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้คุณได้มากกว่า A3 ที่มาพร้อมหน้าจอดิจิตอลขนาด 10.3 นิ้ว แต่ 1 Series กลับติดตั้งหน้าจออะนาล็อกที่ค่อนข้างโบราณมาให้ ซึ่งคุณสามารถอัพเกรดได้ด้วยเงิน 1,000 ปอนด์ (ราว 50,000 บาท) เพื่อซื้อ BMW Live Cockpit Professional Pack
MERCEDES-BENZ A-CLASS
หน้าจอดิจิทัลทำงานอะไรได้บ้าง สำหรับ A3 และ A-Class คุณสามารถจัดการตั้งค่าหน้าจอได้ หน้าจอของรถยนต์ทั้งสามรุ่นแสดงการเดินทาง ข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงระบบการนำทาง ซึ่งการติดตั้งของ 1 Series ค่อนข้างง่ายแต่อ่านยากที่สุด A-Classอ่านข้อมูลได้ง่ายแต่ตั้งค่ากลับยากที่สุด แป้นกดแบบ sensitive-touch บนพวงมาลัยที่เชื่อมกับหน้าจอดูเหมือนจะอำนวยความสะดวกแต่เปล่าเลยมันให้คุณหัวเสียมากกว่าปุ่มกดแบบธรรมดาเสียอีก การแสดงผลของ A3 กลับใช้งานง่ายกว่า
รถยนต์ทั้งสามรุ่นมีขอบหน้าต่างที่บางจึงเป็นผลดีกับทัศนวิสัยการขับขี่ A3 เป็นรถยนต์ที่ขับถอยหลังง่ายที่สุดเพราะมีขอบกระจกหลังที่บางที่สุด ส่วนขอบกระจกหลังของ 1 Series บางและมองง่ายที่สุด สำหรับ A-Class เป็นรุ่นเดียวที่มาพร้อมกับกล้องหลังแต่กลับไม่มีเซนเซอร์ด้านหลัง (ซึ่งอยู่ในแพ็กเกจ Premium Pack) A3 มีเซนเซอร์ด้านหลังติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน และ 1 Series มีเซนเซอร์ทั้งสองด้าน
พื้นที่และการใช้งาน
เบาะหน้า, เบาะหลัง, ความยืดหยุ่นของที่นั่ง, ท้ายรถ
ทั้งสามรุ่นมีพื้นที่เหนือศีรษะและวางขามากพอสำหรับผู้โดยสารสูงหกฟุต แม้ว่าหากคุณสูงเหมือน Shaquille O’Neal คุณอาจจะประทับใจความกว้างที่เพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยของ 1 Series ทั้งสามรุ่นยังมีพื้นที่เก็บของด้านหน้า นอกจากกล่องเก็บของข้างเกียร์ (A-Class มีฝาปิด) และมีที่ตรงกลางวางแก้วแบบลึกและขนาดพอเหมาะ
AUDI A3 SPORTBACK
สำหรับห้องโดยสารด้านหลัง 1 Series มีพื้นที่วางขามากกว่าคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่มีพื้นที่สำหรับวางขาเลย บน A3 และ A-Class ทั้งสองรุ่นยังมีพื้นที่มากพอสำหรับผู้โดยสารสูงหกฟุตเพียงแค่มีพื้นที่ให้เหยียดขาน้อยกว่าเท่านั้น
เราขอแนะนำให้คุณเลี่ยงการติดตั้งหลังคาแบบพาโนรามิก (1,000 ปอนด์ ราว 50,000 บาท) บน 1 Series เพราะจะทำให้เหลือพื้นที่เหนือศีรษะน้อยลง โดยสรุปแล้ว 1 Series เป็นรถยนต์ที่มีพื้นที่ด้านหลังอึดอัดคับแคบที่สุดในรุ่น แต่ A3 มีพื้นที่มากกว่า และ A-Class มีพื้นที่มากที่สุด ผู้ใหญ่ 3 คนอาจจะนั่งเบียดกันเล็กน้อยบนรถยนต์ทั้งสามคัน โดย A-Class มีพื้นที่นูนน้อยที่สุด จึงทำให้ผู้โดยสารตรงกลางนั่งสบายที่สุด
BMW 1 SERIES
จากการวัดขนาดอย่างเป็นทางการ ทั้ง A3 และ 1 Series มีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถมากกว่า A-Class 10 ลิตร อย่างไรก็ตามในด้านการใช้งานจริง A-Class มีขนาดกว้างและยาวกว่าทำให้คุณสามารถเก็บสัมภาระได้มากกว่า โดยสามารถวางกระเป๋าเดินทางแบบ carry-on ได้ถึง 6 ใบ มากกว่า A3 และ 1 Series 1 ใบ
อย่างไรก็ตาม A3 และ 1 Series มีพื้นท้ายรถที่อัจฉริยะกว่า เพราะพื้นท้ายรถของ A3 สามารถปรับความสูงได้จึงสามารถช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระข้างใต้ได้อีก การยกพื้นยังทำให้ความสูงของขอบลดลงจึงง่ายต่อการยกของหนักเข้าและออก พื้นของ 1 Series อาจจะไม่สามารถยกได้สูงเท่าแต่สามารถยกขึ้นหรือหนีบให้พ้นทางได้ จึงทำให้มีพื้นที่ด้านล่างในการเก็บสัมภาระเพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์กับการเก็บของชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากการช้อปปิ้ง
MERCEDES-BENZ A-CLASS
A3 และ A-Class มาพร้อมกับเบาะนั่งแบบพับได้ในอัตราส่วน 40/20/40 ซึ่งสำหรับ 1 Series คุณจะต้องเพิ่มเงิน 150 ปอนด์ (ราว 7,500 บาท) หรือหากไม่ติดตั้งเพิ่มคุณจะได้เบาะพับได้แบบ 60/40 ที่มาเป็นมาตรฐาน โดยรวม A-Class มีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สุด
การซื้อและการเป็นเจ้าของ
ราคา, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือ, ความปลอดภัยและการป้องกันความปลอดภัย
หากคุณจะซื้อด้วยระบบการผ่อนแบบ PCP 1 Series เป็นรถยนต์ที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุด ในระยะ 4 ปี ด้วยเงินมัดจำ ราว 150,000 บาท และการจำกัดระยะทาง 12,872 กิโลเมตรต่อปี ทำให้คุณมีค่าผ่อนต่อเดือนที่ NaN 297 ปอนด์ (ราว 1,250 บาท) น้อยกว่า A3 อย่างไรก็ตาม A3 เป็นรถยนต์ที่ถูกที่สุดในการซื้อสำหรับเป็นรถยนต์ส่วนตัวและรถยนต์บริษัท
สำหรับผู้ที่ซื้อเป็นรถยนต์ส่วนตัว A3 ไม่เพียงแต่จะมีราคาถูกที่สุดแต่ยังเป็นรถยนต์ที่มีค่าใช้จ่ายตลอดการใช้งาน 3 ปี ถูกที่สุดอีกด้วย จากผลการทดสอบความประหยัดน้ำมันในการวิ่งจริงที่ 18 กม./ลิตร เทียบกับ A-Class ที่ 17.3 กม./ลิตร และ 1 Series ที่มีผลออกมาน่าผิดหวังที่ 15.3 กม./ลิตร ในขณะที่ A3 และ 1 Series มีค่าบริการไม่ต่างกันแต่ก็ยังถูกกว่า A-Class อยู่ดี A3 รักษามูลค่าไว้สูงกว่า A-Class ถึง10%
แต่ละคันมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว, ระบบปรับอากาศและเบาะหนัง โดยของ A-Class เป็นหนังเทียมคุณภาพสูงและหนังกลับ 1 Series กับ A-Class มีเบาะหน้าแบบปรับอุณหภูมิได้ ซึ่งคุณจะได้กระจกพับได้แบบพาวเวอร์บน A3 และ 1 Series นอกจากนี้คุณสามารถเลือกออปชั่นส่วนตัวได้บน 1 Series อีกด้วย
.. WHATCAR? SAY ..
A3 รุ่นใหม่หงายการ์ดขึ้นมาประชันรถยนต์แบรนด์หรูรุ่นพี่ทั้งจนทำให้ได้รับชัยคว้าตำแหน่งรถยนต์แฮทช์แบ็กพรีเมี่ยมที่ดีที่สุดไปครองแต่ก็น่าเสียดายที่คุณภาพของการตกแต่งภายในและประโยชน์ใช้สอยจากระบบสาระบันเทิงยังด้อยกว่า A3 รุ่นก่อนหน้า แต่น้องใหม่รายนี้ก็ยังเป็นรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมรอบด้านอยู่ดี
หากคุณต้องการรถยนต์ที่นั่งสบายและเงียบที่สุดในการเดินทางบนมอเตอร์เวย์หรือคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด A-Class ก็คงจะเป็นรถยนต์สำหรับคุณ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดที่เราเคยทดสอบมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามระดับความน่าเชื่อถือของมันกลับสวนทางอย่างน่าผิดหวังและออปชั่นพิเศษที่ควรเพิ่มเข้าไปก็ยิ่งดึงราคาให้สูงขึ้นไปอีก
แต่ทั้งหมดก็ยังสามารถเอาชนะ 1 Series ได้อย่างเฉียดฉิว เวอร์ชั่นดีเซลที่เราใช้ในการทดสอบนั้นสร้างความประทับใจมากกว่ารุ่นเบนซินที่ด้อยกว่ากันในด้านสมรรถนะ, ความประหยัดน้ำมันและความีรู้สึกในการขับขี่ 1 Series มีระบบสาระบันเทิงและการตกแต่งภายในที่โดดเด่น ยังไงรถยนต์รุ่นนี้ก็ยังเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าพอใจ
ข้อดี ขับขี่ดีที่สุด,ตำแหน่งคนขับดีที่สุด, ประหยัดน้ำมันมากที่สุด, ราคาขายต่อสูงที่สุดและภาษี BIK ต่ำที่สุด
ข้อเสีย ภายในไม่หรูหราเท่า A3 ในรุ่นก่อนหน้าและระบบสาระบันเทิงชวนสับสน
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ สีเมทัลลิค (28,750 บาท), พนักพิงปรับระดับได้ (13,000 บาท)
ข้อดี การขับขี่นุ่มนวลและเงียบที่สุด, ระบบเครื่องยนต์แข็งแกร่งที่สุด, ท้ายรถมีพื้นที่มากที่สุดรวมถึงระดับความปลอดภัยดีเยี่ยม
ข้อเสีย เป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงที่สุด,ไม่สามารถเพิ่มออปชั่นส่วนตัวอื่น ๆ ได้และระบบสาระบันเทิงค่อนข้างแย่
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ Premium Pack (150,000 บาท), สี metallic (29,750 บาท)
ข้อดี คุณภาพการผลิตดีที่สุด,ระบบสาระบันเทิงยอดเยี่ยมและค่าผ่อนแบบ PCP ถูกที่สุด
ข้อเสีย ช่วงล่างยังไม่ค่อยเกาะถนน, เครื่องยนต์ส่งกำลังน้อย, แต่การขับขี่เฟิร์มที่สุดและเสียงดังมากที่สุดเช่นกันเมื่อใช้ความเร็วสูง
อุปกรณ์เสริมที่แนะนำ สีเมทัลลิค (28,000 บาท), พนักพิงปรับระดับได้ (7,500 บาท)