Photography: John Bradshaw
It’s a 3 country
Jaguar I-Pace EV400 S
ราคาขาย 64,495 ปอนด์ (ราว 3,224,750 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 64,495 ปอนด์ (ราว 3,224,750 บาท)
ราคาจำหน่ายในไทย 5,499,000 บาท
NEW Tesla Model 3 Performance with Performance Upgrade
ราคาขาย 56,640 ปอนด์ (ราว 2,832,000 บาท)
ราคาที่น่าลงทุน 56,640 ปอนด์ (ราว 2,832,000 บาท)
ไม่มีจำหน่ายในไทย
หากจะมียานยนต์ที่เทียบเท่ากับสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่าง iPhone รุ่นใหม่, หนังสือ Harry Potter และอะไรก็ตามที่เทรนเนอร์ของ Kanye West เป็น สิ่งนั้นต้องเป็น Model 3 ย้อนกลับไปในปี 2016 ก่อนที่เราจะชายตามอง Tesla Model 3 มันเคยมียอดจอง 117,000 คันจากผู้คนทั่วโลก Tesla เริ่มต้นในฐานะแบรนด์ปริศนาที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำสมัยและเต็มไปด้วยเทคโนโลยีซึ่งไม่สามารถขายได้กับคนที่ไม่มีกำลังซื้อ แต่ Model 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับมวลชน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่าสมาชิกร่วมค่ายอย่าง Model S และ Model X มันจึงกลายเป็นของที่ต้องมีในปี 2019
แน่นอนว่าในตลาดมีรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาถูกกว่าจำนวนมาก เช่น Renault Zoe และ Kia e-Niro แต่ไม่มีรุ่นไหนที่มีระยะทางขับขี่, สมรรถนะ หรือความน่าเชื่อถือดีเท่า Model 3
หลังจากที่ล่าช้าไปบ้าง ในที่สุดตอนนี้มันก็มาถึงมือเราแล้ว เราได้ลองขับ Model 3 Performance ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตัวท้อปที่จับคู่กับ Performance Upgrade ซึ่งเพิ่มล้อ 20 นิ้ว ระบบกันสะเทือนที่เตี้ยลงกว่าปกติ และระบบเบรกที่ถูกอัพเกรด ความเร็วสูงสุดของรถเพิ่มจาก 233 เป็น 260 กม./ชม. ไม่มีคู่แข่งโดยตรงในช่วงราคาของมันดังนั้นการเปรียบเทียบที่ยุติธรรมที่สุดคือการเทียบกับแชมป์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมของเรานั่นคือ Jaguar I-Pace ที่มีราคาแพงกว่า มาดูกันว่า Model 3 จะสมกับที่เป็นกระแสร้อนแรงอยู่หรือไม่
การขับขี่
สมรรถนะ, การขับขี่, การควบคุม, รายละเอียด
ก้าวเท้าขวาของคุณเข้าไปใน Model 3 แล้วคุณจะละสายตาจากทุกสิ่ง คุณจะพยายามค้นหาว่ามันมีสมรรถนะการทำงานอย่างไรบ้าง ในวันที่ฝนตกของฤดูร้อนในอังกฤษ เราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.7 วินาที และ 0-160 กม./ชม.ได้ในเวลา 9.3 วินาที
I-Pace อาจช้ากว่าแต่คุณจะไม่เรียกมันว่าช้าเพราะมันทำสถิติ 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.6 วินาที ช้ากว่าเพียงไม่กี่เศษเสี้ยวของ Jaguar F-Pace SVR เครื่องยนต์ V8
อย่าคิดว่า Model 3 เก่งแต่ทางตรง มันโดดเด่นบนถนนสายรองที่คดเคี้ยวและเป็นหลุมเป็นบ่อ ระบบกันสะเทือนที่เตี้ยกว่าของ Performance Upgrade ช่วยให้รถวิ่งในทางราบได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับล้อขนาด 20 นิ้วที่รัดด้วยยาง Michelin ก็ยึดเกาะได้ดี การยึดเกาะด้านข้างจึงยอดเยี่ยมและแรงฉุดออกจากโค้งนั้นทำให้คุณสามารถใช้พลังได้เต็มๆ จากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อโดยมีปัญหาน้อยที่สุด
JAGUAR I-PACE
‘I-Pace ปราดเปรียวกว่ารถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่’
เมื่อเปรียบเทียบแล้ว I-Pace ไม่ได้สงบนิ่งมากนักคุณจึงโยกไปมาเล็กน้อย แต่มันก็ยังทำได้ดีกว่ารถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่
Model 3 ยังมีพวงมาลัยที่ดีกว่าอีกด้วย นี่เป็นจุดแข็งที่แท้จริงเมื่อเทียบกับคันอื่นๆ ในคลาสแม้ว่ามันจะดีไม่เท่าพวงมาลัยของซาลูนหรูที่ดีที่สุดอย่าง BMW 3 Series มันมีน้ำหนักพอดีและมีความแม่นยำสูงแม้ว่าจะไม่ให้ความรู้สึกมากนัก มันทำงานเร็วกว่าของ I-Pace จึงช่วยให้รถดูคล่องตัว
พวงมาลัยของ I-Pace ก็ยังคงแม่นยำแต่มันดีดกลับค่อนข้างเร็ว ดังนั้นคุณจึงต้องออกแรงมากขึ้นเล็กน้อยขณะเข้าโค้ง แต่มันก็ยังดีกว่าพวงมาลัยของรถร่วมสมัยอย่าง Audi E-tron
ที่ความเร็วในเมือง ความทื่อของระบบกันสะเทือนของ Model 3 บ่งบอกได้ว่า I-Pace นุ่มบายมากกว่า อย่างไรก็ตามหากเป็นเรื่องการวิ่งบนทางด่วน Tesla ทำได้น่าพอใจ, การขับก็ราบรื่น, และจะถูกรบกวนจากแค่เนินหรือหลุมบ่อขนาดใหญ่เท่านั้น
TESLA MODEL 3
‘Model 3 เร่งได้ไวอย่างไม่น่าเชื่อ’
I-Pace ดูมั่นคงน้อยกว่าเล็กน้อยเมื่อใช้ความเร็วสูงและจะกระแทกมากกว่าเมื่อเจอเนินบนถนนสายรอง อย่างไรก็ตามรถทดสอบของเราใส่ออปชั่นล้อ 20 นิ้วและระบบกันสะเทือนถุงลม ประสบการณ์ของเราบอกเราว่าระบบกันสะเทือนแบบปกติและล้อมาตรฐานขนาด 18 นิ้วจะให้การยึดเกาะได้ดีกว่าตราบเท่าที่คุณไม่ขับเร็ว
การขับอาจไม่สมบูรณ์แบบนักแต่สิ่งที่แย่ที่สุดของของ I-Pace คือฟีลลิ่ง การเบรก ไม่แปลกใจเลยที่ Model 3 ที่ตัวเบากว่าพร้อมเบรกที่อัพเกรดแล้วจะหยุดรถจากความเร็ว 110 กม./ชม. ได้ในระยะทางที่สั้นกว่า แรงต้านของแป้นเบรกใน I-Pace ก็มีผล มันไม่เสมอต้นเสมอปลายนัก ทำให้ยากที่จะชะลอความเร็วได้อย่างราบรื่น นี่เป็นเพราะการเหยียบแป้นจะไปเพิ่มการทำงานในระบบคืนกำลังเบรกที่คืนพลังป้อนกลับเข้าแบตเตอรี่ มันเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องเผชิญกับรถยนต์ระบบไฟฟ้าแต่ Model 3 ทำงานได้ดีกว่ามากในการตอบสนองต่อการคืนกำลังขณะเบรก
ระยะทางขับขี่นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ในการทดสอบ Real Range ของเรา I-Pace (บนล้อมาตรฐาน 18 นิ้ว) ทำได้ 407 กม. ส่วน Model 3 ทำได้ 384 กม.
หลังพวงมาลัย
ตำแหน่งการขับ, ทัศนวิสัย, คุณภาพการผลิต
JAGUAR I-PACE
การเข้าไปนั่งใน Model 3 ครั้งแรกอาจดูน่าสับสนโดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นนักอนุรักษ์นิยมของเดิมๆ สำหรับผู้เริ่มขับในการปลดล็อกประตู คุณจะต้องแตะสมาร์ทการ์ดตรงเสากระจกกลางและแตะอีกครั้งบนที่พักแขนตรงกลางเพื่อสตาร์ทรถ โชคดีที่มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น คุณสามารถดาวน์โหลดแอพฯ ในโทรศัพท์ของคุณที่จะเปลี่ยนมันเป็นระบบดิจิตอล ประตูรถจะปลดล็อคเมื่อคุณเข้าใกล้ แอพฯ นี้ยังสามารถใช้งานระบบปรับอากาศจากระยะไกลได้ และยังช่วยบีบแตรเพื่อให้คุณหารถง่ายขึ้นด้วย
Jaguar เสนอระบบทั่วไปที่เป็นระบบเปิดประตูและสตาร์ทรถโดยไม่ใช้กุญแจ ตัวแอพฯ มีข้อจำกัดมากกว่าเล็กน้อย
เมื่อคุณอยู่ใน Model 3 คุณจะสังเกตได้ว่าการตกแต่งภายในนั้นเรียบง่ายเหมือนชุดเดรสในงานวันเกิดของนักธรรมชาติวิทยา จอสัมผัสขนาดใหญ่ตรงกลางและปุ่มควบคุมแบบหมุน 2 ปุ่มบนพวงมาลัยสามารถควบคุมได้เกือบทุกอย่าง มันแทบจะไม่มีปุ่มใดๆ ให้รกสายตา
TESLA MODEL 3
ในขณะเดียวกัน I-Pace นั้นมีความธรรมดากว่า มันมีทั้งปุ่มกดและแป้นควบคุมแบบหมุนเต็มไปหมด พวกมันทำให้การใช้งานง่ายขึ้นในบางครั้ง เพราะการปรับพวงมาลัยและกระจกมองข้างใน Model 3 ต้องทำผ่านทางหน้าจอสัมผัสและตัวควบคุมบนพวงมาลัยเท่านั้น
การตกแต่งภายในของทั้ง 2 คันดูหรูหราในรูปแบบที่แตกต่างกันและมั่นใจได้เลยว่า Model 3 จะมีคุณภาพการผลิตสร้างที่ดีที่สุดในบรรดารถ Tesla ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม I-Pace ดูจะลงตัวมากกว่าแม้ว่าจะไม่ได้มีวัสดุที่ดูดีเหมือนที่คุณจะพบใน E-tron
เสา A-pillar ที่มีมุมแหลมของ Model 3 ลดวิสัยทัศน์การมองเห็นของคุณในบางครั้ง แต่ทัศนวิสัยด้านหลังของมันโดดเด่นกว่า I-Pace มาก หลังคาที่ลาดเอียงทำให้เมื่อมองไปในกระจกหลังมันเหมือนกับการส่องเข้าไปในตู้รับจดหมายแต่อย่างน้อยคุณก็ยังมีกล้องมองหลัง (หรือกล้อง 360 องศา เป็นออปชั่นเสริม) ฟังก์ชั่นจอดอัตโนมัติมีเป็นมาตรฐานใน I-Pace แต่เป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจออปชั่นเสริมราคาแพงใน Model 3 แม้จะมีกล้องหลายตัวสำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับแต่ Tesla กลับไม่มีกล้อง 360 องศา สำหรับช่วยจอด รวมถึงเซ็นเซอร์ช่วยจอดด้านหน้าและด้านหลัง
MODEL 3 VERSUS ID 3
นอกจากรุ่น Performance ที่เราทดสอบในวันนี้แล้ว Tesla ยังนำเสนอ Model 3 รุ่น Standard Range Plus ซึ่งมีราคาถูกกว่า ราคาของมันพอๆ กับ Volkswagen ID 3 สเป็คกลาง ยิ่งไปกว่านั้นทั้งคู่ยังมีระยะทางขับขี่พอๆ กัน ID 3 วิ่งได้ 420 กม. ในการทดสอบ WLTP อย่างเป็นทางการ ขณะที่ Model 3 วิ่งได้ 415 กม.
พื้นที่และการใช้งานได้จริง
พื้นที่ด้านหน้า, พื้นที่ด้านหลัง, ความยืดหยุ่นในการนั่ง, ห้องเก็บสัมภาระ
Model 3 มาในแบบกระเป๋าเดินทางของชาวเยอรมัน ขนาดของมันอาจพอเหมาะตามมาตรฐานรถสมัยใหม่ แต่ก็ถือว่ากว้างขวางมากสำหรับซาลูนหรู จริงๆ แล้วเราสามารถยัดกระเป๋าเดินทางได้ 10 ใบโดยใช้ทั้งห้องเก็บสัมภาระหลักและช่องเก็บของใต้พื้น
JAGUAR I-PACE
เราสามารถจุกระเป๋าเดินทางได้เพียง 7 ใบในห้องเก็บสัมภาระของ I-Pace โดยมีช่องใต้พื้นสำหรับเก็บได้แค่สายชาร์จเท่านั้น ในขณะที่ Model 3 มีพื้นที่วางของมากกว่า I-Pace กลับมีประตูทางเข้าห้องเก็บสัมภาระที่ใหญ่กว่า ทำให้มันง่ายกว่าในการขนถ่ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่
ด้านหน้าของรถทั้งสองคันนั้นมีพื้นที่กว้างแต่ Model 3 มีพื้นที่วางเท้าที่กว้างกว่าสำหรับคนที่ตัวสูงมาก ในขณะที่ I-Pace ทั้งกว้างและสูงกว่า
TESLA MODEL 3
ผู้โดยสารด้านหลังที่ตัวสูงจะมีพื้นที่เพียงพอในการยืดตัวในรถทั้ง 2 คัน คนที่สูงมากๆ จะชอบ I-Pace มากกว่า นอกจากนี้ Model 3 ยังมีพื้น
ห้องโดยสารที่ค่อนข้างสูงเพื่อรองรับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างใต้ ดังนั้นตำแหน่งที่นั่งด้านหลังจึงอาจไม่สบายนัก
การซื้อและการเป็นเจ้าของ
ราคา, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือ, ความปลอดภัย
Model 3 Performance รุ่นท็อปมาพร้อมกับ Performance Upgrade ที่ถูกกว่า I-Pace S รุ่นเริ่มต้น Model 3 ราคาถูกกว่ารถบริษัทเล็กน้อย และน่าจะคงมูลค่าไว้ได้ดีกว่า ทำให้มันมีราคาถูกกว่าในระยะยาวสำหรับผู้ซื้อเป็นรถส่วนตัว สัญญาเช่าของทั้ง 2 คันเหมือนกัน I-Pace มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนน้อยกว่า Model 3 ในการผ่อนแบบ PCP ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดหวังไว้เนื่องจากราคาแนะนำที่สูงกว่าและค่าเสื่อมที่เร็วกว่า
ราคาที่คุณต้องจ่าย
Jaguar I-Pace
ราคาถูกกว่าเมื่อซื้อเงินผ่อนเทียบเท่ารถบริษัท
Tesla Model 3
ราคาถูกกว่าและเสื่อมคุณภาพช้ากว่า
รถทั้ง 2 คันมีอุปกรณ์มาตรฐานใกล้เคียงกัน ต้องให้เครดิต Jaguar เนื่องจาก I-Pace รุ่นเริ่มต้นกลับให้อุปกรณ์มามากมายเช่น ระบบเปิดประตูโดยไม่ใช้กุญแจ, ระบบปรับอากาศแบบดูอัลโซน, กระจกหน้าทำความร้อน และพวงมาลัยทำความร้อน
Model 3 มีอะแด็ปทีฟครูสคอนโทรลซึ่งหมายความว่ามันจะรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าได้โดยอัตโนมัติและยังสามารถควบคุมตัวเองบนทางด่วนได้ด้วย จริงๆ แล้วระบบ Autopilot ของ Tesla นั้นดีที่สุด คุณสามารถอัพเกรดเป็น Full Self-Driving Capability ได้ มันสามารถนำทางคุณบนทางด่วนได้ รวมถึงการแซงรถที่ช้ากว่า นอกจากนี้มันยังช่วยคุณขยับรถอย่างช้าๆ จากระยะไกลผ่านโทรศัพท์ของคุณได้ด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่า Summon Tesla มันจะถูกอัพเกรดในปีนี้พร้อมความสามารถในการรับรู้และตอบสนองต่อสัญญาณไฟจราจรซึ่งทำให้การขับขี่ในเมืองเป็นแบบกึ่งอิสระ
ในทางตรงกันข้าม เทคโนโลยีช่วยเหลือคนขับที่เป็นมาตรฐานของ I-Pace นั้นจำกัดอยู่ที่ฟังก์ชั่นจอดรถอัตโนมัติ, ระบบช่วยให้อยู่ในเลน, และครูสคอนโทรลปกติ อะแด็ปทีฟครูสคอนโทรลเป็นส่วนหนึ่งของออปชั่นเสริม Drive Pack หรือ Drive Assist Pack หากคุณต้องการระบบในการนำทางด้วย
รถทั้ง 2 คันได้รับคะแนน 5 ดาวจาก Euro NCAP แต่ Model 3 ทำคะแนนชนะ I-Pace ในทุกด้าน นอกจากนี้มันยังมีโหมด Sentry ซึ่งใช้กล้องภายนอกตัวรถเพื่อถ่ายภาพการบุกรุกหรือการชนขณะที่มันจอดอยู่แล้วบันทึกลงใน USB
ผู้ผลิตจากทั้ง 2 ค่ายไม่ได้มีชื่อเสียงในด้านความน่าเชื่อถือมากนัก ในการสำรวจล่าสุดของเรา Jaguar ได้ที่ 28 จาก 31 ในขณะที่ Tesla รั้งอยู่ท้ายๆ ของตาราง กล่าวได้ว่าเราไม่มีข้อมูลมากนักสำหรับ I-Pace หรือ Model 3 เพราะพวกมันยังใหม่มาก
การรับประกันของพวกมันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ Model 3 มีระยะเวลารับประกัน 4 ปีหรือ 80,000 กม. ขณะที่ I-Pace รับประกันเพียง 3 ปีแต่ไม่จำกัดระยะทาง Jaguar รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์แยกกันอย่างละ 8 ปีหรือ 160,000 กม. ขณะที่ Tesla ก็รับประกัน 8 ปีหรือ 190,000 กม. รถทั้ง 2 รุ่นยืนยันว่าแบตเตอรี่จะยังคงสมรรถนะไว้ได้อย่างน้อย 70% เมื่อถึงช่วงเวลานั้น
I-Pace และ Model 3 ชาร์จโดยใช้ปลั๊ก CCS, Model 3 รองรับการชาร์จได้สูงถึง 200 kW มันจึงชาร์จจาก 0-80% ได้ในเวลาครึ่งชั่วโมง I-Pace ชาร์จได้ไม่เกิน 100 kW ซึ่งต้องใช้เวลาชั่วโมงครึ่งในการชาร์จ 0-80%
- Model 3 ค่อนข้างแข็งในเมืองแต่ก็ยังนุ่มกว่า I-Pace บนทางด่วนและถนนสายรอง
. . WHATCAR SAYS . .
หากเราอยู่ในอดีตที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นนี้จะให้ความมั่นใจได้ว่าจะมีสิ่งมากมายรออยู่ข้างหน้าในอนาคต
อย่าเปลี่ยนอะไรใน Jaguar I-Pace มันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมที่ยอดเยี่ยมพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่น่าประทับใจ, การตกแต่งภายในที่สวยงาม, และระยะทางขับขี่จริงที่ยอดเยี่ยม
แต่ Tesla Model 3 นั้นดีสมกับที่ผู้ซื้อทุกคนคาดหวังไว้ คงไม่เป็นการพูดเกินจริงที่ว่าอนาคตของ Tesla นั้นขึ้นอยู่กับความสำเร็จของรถคันนี้ มันได้สร้างมาตรฐานใหม่ในช่วงราคานี้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้เป็นเหตุผลที่น่าสนใจสำหรับการเปลี่ยนคู่แข่งจากคู่แข่งที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
มันว่องไว, การขับเหมาะสม, นุ่มสบายบนทางด่วน, และค่อนข้างใช้งานได้จริง ยิ่งไปกว่านั้นมันมีราคาที่น่าประทับใจ
ข้อดี สมรรถนะยอดเยี่ยม; การควบคุมอัจฉริยะ, พื้นที่เก็บสัมภาระมากมาย, ชาร์จเร็วกว่า, ค่าเสื่อมราคาน่าจะช้ากว่า
ข้อเสีย การขับที่ความเร็วต่ำไม่นุ่มนวล, ค่าผ่อนแพง, ข้อกังวลด้านความน่าเชื่อถือของ Tesla
ออปชั่นเสริมที่แนะนำ Full Self-Driving Capability
ข้อดี ระยะทางขับขี่จริงยอดเยี่ยม, ห้องเก็บสัมภาระใหญ่กว่า, ค่าผ่อน PCP ถูกกว่า; การขับยอดเยี่ยม
ข้อเสีย ไม่ค่อยคล่องแคล่ว, พึ่งพาเครือข่ายชาร์จสาธารณะได้น้อยกว่า
ออปชั่นเสริมที่แนะนำ Drive Assist Pack