ปอร์เช่ร่วมประชันความอลังการจากแนวทางการพัฒนายานยนต์ล้ำอนาคต ด้วยรถยนต์ต้นแบบ Mission R concept ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีระดับศาสตร์แห่งศิลป์และวัสดุที่สะท้อนภาพความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ
ภายนอก
เสริมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ตามแนวคิด battery-electric drive ตัวถังของรถสปอร์ตต้นแบบผลิตขึ้นโดยคำนึงถึงการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้รับการสร้างขึ้นจาก natural fibre reinforced plastic (NFRP) เป็นส่วนใหญ่รวมถึงวัสดุพื้นฐานที่ได้จาก flax fibres ซึ่งถือกำเนิดจากกระบวนการทางเกษตร นอกจากนี้วัสดุธรรมชาติดังกล่าวยังได้รับการนำมาผลิตเป็นชิ้นส่วนลิ้นกันชนล่างด้านหน้า ชุดดิฟฟิวเซอร์ และสเกิร์ตข้าง NFRP ยังใช้เป็นส่วนประกอบหลักของอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารของ Mission R อาทิ แผงประตู รอยต่อห้องโดยสารหลัง และที่นั่ง นอกจากนี้บริเวณชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้า และปีกหลัง อุปกรณ์ดังกล่าวประกอบด้วยครีบ 3 ชั้นในแต่ละฝั่งของช่องรับอากาศกันชนหน้า เช่นเดียวกับปีกหลังสองชั้นที่สามารถปรับระดับได้
ภายใน
งานออกแบบภายในห้องโดยสารมุ่งเน้นไปยังผู้ขับขี่ในทุกองค์ประกอบ ติดตั้งหน้าจอแสดงผลตามหลักสรีรศาสตร์ บริเวณกึ่งกลางระหว่างแผงควบคุมของวงพวงมาลัย ถ่ายทอดข้อมูลที่จำเป็นเมื่อขับขี่บนสนามอย่างครบถ้วน หน้าจอมอนิเตอร์บริเวณด้านบนของคอพวงมาลัย แสดงภาพจากกล้องด้านข้าง และกล้องด้านท้ายรถ หน้าจอสัมผัสบริเวณฝั่งขวาของที่นั่งสามารถเรียกดูข้อมูลทางกายภาพของผู้ขับขี่ได้ทันทีที่ต้องการ กล้องจำนวนมากรายรอบห้องโดยสารเป็นประโยชน์ในการถ่ายทอดสัญญาณภาพสดแบบ live stream ให้บรรยากาศการรับชมสุดตื่นเต้นเร้าใจ
ระบบความปลอดภัย
โครงสร้างนิรภัยผลิตจากวัสดุ carbon fibre composite material ผสมผสานระหว่างการปกป้องระดับสูงกับน้ำหนักที่ลดลง แถมด้วยความสวยงามอันแตกต่าง วิศวกร และดีไซเนอร์ของปอร์เช่ขนานนามโครงสร้างหลังคาคาร์บอนที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดว่า “exoskeleton” มันคือการรวมตัวกันของโครงสร้างนิรภัย safety cage และพื้นหลังคารถ
สมรรถนะ
รถแข่งปอร์เช่ Mission R concept study ให้พละกำลังต่อเนื่องในระดับ 680 แรงม้า (500 กิโลวัตต์) เมื่อขับขี่ใน race mode ปัญหาการสูญเสียพลังขับเคลื่อนของแบตเตอรี่เนื่องจากสภาพอุณหภูมิได้ถูกแก้ไขจนหมด มอเตอร์ไฟฟ้าของเพลาขับหน้าให้กำลังสูงสุด 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าของเพลาขับหลังให้กำลังสูงสุดถึง 653 แรงม้า (480 กิโลวัตต์) ผลลัพธ์จากเทคโนโลยีแรงเคลื่อนไฟฟ้า 900-โวลต์ และระบบชาร์จพลังงาน Porsche Turbo Charging อาศัยเวลาเพียง 15-นาที หลังจากหยุดวิ่งสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่จากความจุ 5 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ SoC (state of charge) โดยรองรับกำลังไฟฟ้าสูงสุด 340 กิโลวัตต์ ปอร์เช่ Mission R ยังได้รับการเสริมสมรรถนะในด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยระบบ Porsche Active Aerodynamics (PAA) พร้อมระบบ Drag Reduction System (DRS)
มิติความยาวตัวถัง 4,326 มิลลิเมตร ส่งผลให้ปอร์เช่ Mission R มีขนาดสั้นกว่า 718 เคย์แมน (718 Cayman) เล็กน้อย แต่สิ่งที่โดดเด่นจนสังเกตได้ชัดคือความกว้างตัวถังที่มากกว่าถึง 1,990 มิลลิเมตร และระดับความสูงตัวถังภายนอกซึ่งต่ำกว่าที่ 1,190 มิลลิเมตร
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเผยโฉมของรถยนต์ต้นแบบ Mission E (2015) และ Mission E Cross Turismo (2018) concept studies คือเวทีโหมโรงที่สร้างความตื่นตะลึงให้แก่การปรากฎตัวของรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันแรก ปอร์เช่ ไทคานน์ สปอร์ต ซาลูน (Taycan sports saloon) (2019) และ ไทคานน์ ครอส ทัวริสโม (Taycan Cross Turismo) รถยนต์ไฟฟ้า cross-utility (2021) ซึ่งมีความใกล้เคียงอย่างมากกับรถยนต์ต้นแบบทั้งสองคัน ทั้งในแง่ของรูปทรง และเทคโนโลยี ได้ผ่านการพิสูจน์แล้วด้วยความสำเร็จล้นหลามหลังเปิดตัวในตลาดทั่วโลก กล่าวได้ว่าโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ตามแผนที่วางไว้ ปัจจุบัน ด้วย Mission R ปอร์เช่กำลังนำเสนอวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของยานยนต์เพื่อลูกค้ามอเตอร์สปอร์ต รถยนต์ต้นแบบได้เผยโฉมต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกแล้ว ที่งานแสดงนวัตกรรมยานยนต์ IAA MOBILITY เมืองมิวนิก
เชื่อมต่อไปยัง digital press kit ปอร์เช่ Mission R ได้ที่: https://porsche.link/mission-r-en
ติดตามข้อมูลข่าวสาร ภาพยนตร์ และภาพถ่ายได้ที่ Porsche Newsroom: newsroom.porsche.com