ฟอร์ด ประเทศไทย ขยายไลน์อัพ Ranger ด้วยรุ่นย่อยใหม่ Open Cab 2.2L XL+ Sport 4×2 Hi-Rider เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และยกระดับความหรูหรากับ Everest Titatium+ กับสีภายในใหม่ด้วยเบาะสีน้ำตาลคอนยัค (Cognac)
Ranger รุ่นย่อยใหม่ได้รับแรงบันดาลใจและต่อยอดความแกร่งมาจาก Ranger Open Cab 2.2L XL+ 4×2 Hi-Rider เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้มีความสปอร์ตปราดเปรียวแต่ยังคงเอกลักษณ์กระบะพันธุ์แกร่ง ด้วยขุมพลังขนาด 2.2 ลิตร ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว VG เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ มอบกำลังสูงสุดถึง 160 แรงม้า และแรงบิด 385 นิวตันเมตร พร้อมซับแรงสะเทือนด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบซ้อน
Ranger Open Cab 2.2L XL+ Sport 4×2 Hi-Rider เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รุ่นใหม่ มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น เช่น
- พวงมาลัยพาวเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
- เซ็นทรัลล็อก
- กระจกมองข้างแบบปรับไฟฟ้า
- กระจกหน้าต่างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบเปิด-ปิดแบบสัมผัสเดียวด้านคนขับ
- วิทยุพร้อมช่องต่อ AUX และ USB / ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ / ช่องต่อไฟ 12V
- ถุงลมนิรภัย คู่หน้า (Front Airbags)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
Ranger Open Cab 2.2L XL+ Sport 4×2 Hi-Rider เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ตกแต่งกระจังหน้าสีดำ ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว และกันชนหลังเป็นสีดำแบบมันเงา (Glossy Black Paint) ที่สะท้อนความเป็นรถกระบะพันธุ์แกร่งสไตล์สปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวได้อย่างแท้จริง โดยมีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวอาร์กติก ไวท์ และสีแดงทรู เรด วางจำหน่ายในราคา 669,000 บาท
ด้าน Ford Everest มีการปรับลุคภายในด้วยการตกแต่งด้วยเบาะหนังสีน้ำตาลคอนยัค (Cognac) เฉพาะในรุ่น Titanium+ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ตัวถังภายนอกสีขาวอาร์กติก ไวท์ เพื่อยกระดับความหรูหราขึ้นไปอีกขั้น
Ford Everest Titanium+ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่อย่างเหนือชั้นทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด เช่น
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0L Bi-Turbo
- ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management
- เฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ผสานระบบเบรกแบบ Autonomous Emergency Braking (AEB) เข้ากับระบบตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะอื่นๆ รอบตัวรถ
- ระบบ SYNC 3 พร้อมระบบจดจำเสียง และระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทย รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง และระบบแผนที่นำทาง
Ford Everest Titanium+ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ภายนอกสีขาวอาร์กติก ไวท์ ภายในเบาะสีน้ำตาลคอนยัค (Cognac) วางจำหน่ายในราคา 1,799,000 บาท