BMW X1 ได้รับการปรับโฉมใหม่ มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัยและดุดันยิ่งขึ้น พร้อมกับมีเวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริดเป็นครั้งแรกสำหรับตลาดนอกประเทศจีน
X1 เป็นเอสยูวีที่ขายดีที่สุดของ BMW โดยเมื่อปีที่แล้วกวาดยอดขายไปได้กว่า 287,000 คันทั่วโลก นำเป็นอันดับหนึ่งในเซกเมนต์อย่างสวยงาม แต่เจนเนอเรชั่นนี้เปิดตัวมานานพอสมควรแล้ว วันนี้จึงถึงเวลาที่ต้องมีการปรับโฉมครั้งใหญ่
อันดับแรกที่เห็นได้ชัดคือดีไซน์หน้ารถที่ชวนให้นึกถึง X5 ตัวใหม่ กระจังหน้าไตคู่ถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น ไฟหน้าปรับรูปทรงใหม่ กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ โดยรวมทำให้ภาพลักษณ์ของ X1 ดูใหญ่โต ปลายท่อไอเสียก็ถูกขยายใหญ่ขึ้นจาก 70 เป็น 90 มม. ด้วยเช่นกัน
รุ่นย่อย M Sport ปรับเปลี่ยนนอกเหนือจากที่ว่ามาอีกหลายอย่าง ประกอบด้วย ความสูงตัวรถที่ต่ำลง 10 มม. ช่องรับอากาศหน้าขนาดใหญ่ และสีตัวถังเฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีจานเบรกขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกับลวดลายของล้ออัลลอยและสีสันที่มีให้เลือกมากขึ้น
ภายในมีการปรับมาใช้วัสดุแบบใหม่ที่มอบสัมผัสหรูหราและมีคุณภาพมากขึ้น ตะเบสีตัดกับเบาะมีอยู่ในรุ่นสูง โทนสีภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 3 สี ออปชั่นเสริม Lighting Package มาพร้อมไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร 6 สี หน้าจอระบบสาระบันเทิงมีตั้งแต่ 6.5 นิ้ว 8.8 นิ้ว และ 10.25 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับสเปก)
จุดที่มีการเปลี่ยนแปลงใหญี่สุดคือขุมพลังใต้ฝากระโปรงนั่นก็คือการแนะนำเวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริด xDrive25e เวอร์ชั่นนี้ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 123 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 94 แรงม้า แรงบิด 152 นิวตันเมตร มอเตอร์จะคอยขับเคลื่อนล้อหลัง เครื่องยนต์สันดาปจะขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ความจุ 9.7 kWh สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ 50 กม. อัตราสิ้นเปลืองและค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา
นอกจากนี้ BMW ยังเสริมทัพด้วยโมเดล xDrive25i เครื่องเบนซิน 228 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.5 วินาที แต่ตลาด UK น่าจะไม่ได้ลิ้มลองโมเดลนี้ เพราะรุ่นสูงสุดในปัจจุบันเป็นโมเดล xDrive20i สำหรับราคาเริ่มต้นของ X1 ใหม่อยู่ที่ 28,795 ปอนด์ (1.43 ล้านบาท)
Gallery