• About
  • Advertise
  • Terms & Conditions
  • Privacy & Policy
  • Team
  • Contact
What Car? Thailand
Mazda-CX-3-Banner-whatcar-728x90-102023
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact
No Result
View All Result
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact
No Result
View All Result
What Car? Thailand
No Result
View All Result
Home New Car

Ford Everest MY2018 เครื่อง Bi-Turbo 213 แรงม้า เกียร์ 10 สปีด เริ่มต้น 1.299 ล้านบาท!

July 11, 2018
in New Car
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

         ฟอร์ดเปิดตัว Everest MY2018 อย่างเป็นทางการ ภายนอกปรับไม่มาก ภายในเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ยัดหัวใจใหม่ เติมเต็มความปลอดภัยและความสะดวกสบายยิ่งขึ้น

         Everest โฉมปัจจุบันครองใจผู้ใช้รถชาวไทยมาตั้งแต่ปี 2015 เอสยูวีรุ่นนี้ถือเป็นรถที่ครบเครื่องและตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างแท้จริง มาวันนี้ถึงเวลาที่ต้องไมเนอร์เชนจ์ เป็นการไมเนอร์เชนจ์ที่เรียกได้ว่าพลิกวงการ สร้างความอือฮาอย่างใหญ่โตจนค่ายอื่นต้องสะดุ้ง

       Everest ใหม่ คือการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางไปอีกขั้น ด้วยประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่อย่างเหนือชั้นทั้งทางเรียบและออฟโรด ผสานกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น และห้องโดยสารที่หรูหราและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ดีไซน์เพื่อการใช้งาน

         รูปลักษณ์ภายนอกของ Everest ใหม่ มีการปรับปรุงไม่มาก มาพร้อมกับกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ให้ความดุดันและหรูหรายิ่งขึ้น โดยในรุ่นเริ่มต้น Trend เป็นสีดำ รุ่นสูงขึ้นเป็นโครเมียม ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบก้านคู่ (Split-Spoke) ขนาด 20 นิ้วพร้อมยางขนาด 265/50 R20 ไฟหน้า HID เลนส์โปรเจกเตอร์ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติที่ส่องสว่างกว่าไฟหน้าทั่วไป

         เสริมภาพความพรีเมี่ยมด้วยหลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, ไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ แบบ LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้าย LED ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างบริเวณข้างตัวรถ

         ห้องโดยสารของ Everest ใหม่ ตกแต่งด้วยโทนสีดำ มอบความหรูหราให้แก่ห้องโดยสาร และยังเสริมความโดดเด่นด้วยเส้นสายรอบคัน อีกทั้งเพิ่มความนุ่มนวลของจุดสัมผัสต่างๆ ในห้องโดยสาร เพื่อความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายในการใช้งาน

         เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ เบาะนั่งคนขับและเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 พับแยกอิสระ 60:40 ปรับเอนและปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ เบาะนั่งแถวที่ 3 พับแยกอิสระ 50:50 ปรับพับด้วยระบบไฟฟ้า

ขุมพลังที่เหนือกว่า

         Everest ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ที่สามารถกระจายแรงบิดได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกำลังและเร่งความเร็ว ช่วยให้การขับรถบนทางลาดชันเช่นการขับรถขึ้นภูเขาที่ลื่นและลาดชัน ง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยแบ่งเป็น 2 รุ่นและตัดเครื่องยนต์ดีเซล 3.2 และ 2.2 ลิตรเดิมออกไป

          รุ่นแรกเป็นเครื่องดีเซล 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที

          อีกรุ่นที่สร้างความฮือฮาให้วงการเป็นอย่างมากคือเครื่องดีเซล 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร Bi-Turbo เทอร์โบ 2 ตัวแบ่งการทำงานที่ความดันต่ำและความดันสูง ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดมหาศาลที่ 500 นิวตันเมตร

          ทั้ง 2 เครื่องยนต์ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ Manual Mode + – ที่หัวเกียร์ นอกจากนี้รุ่นเครื่อง 2.0 ลิตร Bi-Turbo ยังมาพร้อมขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time พร้อมระบบ Terrain Management System และเฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential

อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี

         Everest ใหม่ มอบความแข็งแกร่งของรถยนต์อเนกประสงค์ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ คุณภาพของอุปกรณ์อันยอดเยี่ยม และสมรรถนะที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อมอบประสิทธิภาพและความคล่องตัวเมื่อขับขี่ในเมือง แต่ยังคงความแข็งแกร่งสมบุกสมบันอย่างเหนือชั้นเมื่อขับขี่ออฟโรด

         โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำประกอบด้วย ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ผสานระบบเบรกแบบ Inter-Urban Autonomous Emergency Braking (AEB) เข้ากับระบบตรวจจับคนเดินถนน (Pedestrian Detection) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) บริเวณรอบตัวรถ เพื่อหยุดรถ และช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป

         ระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ทำหน้าที่คอยตรวจวัดความดันลมในยางล้อทั้ง 4 ล้อ และเตือนผู้ใช้งานเมื่อความดันลมเปลี่ยนแปลง ระบบนี้นอกจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย

         ระบบประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี เพียงยื่นเท้าไปที่ใต้กันชนท้าย ประตูท้ายจะเปิดโดยอัตโนมัติ

          ตลอดจนกุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทรถได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และขึ้นลงรถได้สะดวกสบายกว่าเดิม

         นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว Everest ใหม่ ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่นนี้ ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System) ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (BLIS – Blind Spot Information System) ที่มาพร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) และกล้องมองหลังขณะถอยจอดและสัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า (Rear View Camera and Sensors)

        รวมถึงระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Active Noise Cancellation) ที่มอบห้องโดยสารที่ปราศจากเสียงรบกวน ซึ่งวิศวกรรมออกแบบให้ความสำคัญกับการลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์และระบบเกียร์ พร้อมพัฒนาซีลกันเสียงและวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

อัพเกรดระบบสาระบันเทิง

        Everest ใหม่ทุกรุ่นย่อยได้รับการติดตั้งระบบสาระบันเทิง SYNC 3 รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบบลูทูธและ USB แสดงผลผ่านหน้าจอทัชสกรีนฟูลคัลเลอร์ขนาด 8.0 นิ้ว และแสดงภาพกล้องมองหลังในตัว ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ได้อีกด้วย SYNC 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น

            นอกจากนี้ระบบ SYNC 3 ยังได้รับการพัฒนามาขึ้นไปอีกขั้น ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที

       Everest ใหม่ได้เพิ่มรุ่น Trend เข้ามาสำหรับตีตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการความคุ้มค่า รวมแล้ววางจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อยดังนี้

– รุ่น Titanium+ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,799,000 บาท

– รุ่น Titanium+ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,599,000 บาท

– รุ่น Titanium เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,439,000 บาท

– รุ่น Trend เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,299,000 บาท

       สีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี รวมถึงสีใหม่ Diffused Silver Metallic และสีมาตรฐาน ได้แก่ Aluminum Metallic,  Absolute Black Metallic,  Arctic White, Sunset Metallic และ Blue Reflex Metallic

รายละเอียดของแต่ละรุ่นย่อย

รุ่น Trend เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ

อุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่

  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ
  • ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์ธรรมดา
  • ระบบกันสะเทือนหน้า: อิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
  • ระบบกันสะเทือนหลัง: คอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์และเหล็กกัน
  • ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
  • ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์
  • ราวหลังคาและบันไดข้าง
  • ล้ออัลลอย 17” พร้อมยางขนาด 265/65 R17
  • กุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
  • เบาะหนังสีดำ
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM 3 ภาษาไทย หน้าจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว พร้อม Bluetooth และ Wi-Fi
  • ลำโพง 9 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟลายเออร์
  • ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
  • ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ / และม่านถุงลมนิรภัย
  • กล้องมองหลังขณะถอยจอด

รุ่น Titanium เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ

อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่นเทรนด์) ได้แก่

  • ไฟหน้าแบบ HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ
  • ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
  • ไฟท้าย LED
  • ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนฟรี
  • อัลลอย 18″ พร้อมยางขนาด 265/60 R18
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

รุ่น Titanium+ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ

อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่นไทเทเนี่ยม) ได้แก่

  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนน
  • เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ
  •  ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
  • ระบบแจ้งเตือนการขับขี่
  • หลังคา Panoramic Moonroof
  • อัลลอย 20″ พร้อมยางขนาด 265/50 R20
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
  • ระบบแผนที่นำทาง
  • ระบบตรวจจับลมยาง
  • ระบบตรวจจับรถในจุดอับสายตา
  • ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด

รุ่น Titanium+ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ)

  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0L Bi-Turbo (เทอร์โบคู่)
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management
  • เฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน

        ลูกค้าที่ซื้อ Everest ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบายด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี

        Ford Everest MY2018 เปิดให้จับจองแล้ววันนี้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ดทั่วประเทศ และพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 เป็นต้นไป

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.ford.co.th, www.facebook.com/fordthailand, www.twitter.com/fordthailand

Gallery

 

1 of 34
- +

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7.

8.

9.

10.

11.

12.

13.

14.

15.

16.

17.

18.

19.

20.

21.

22.

23.

24.

25.

26.

27.

28.

29.

30.

31.

32.

33.

34.

Tags: EVERESTfordPPVSUV

Related Posts

New Car

New Porsche Macan all-electric SUV  มาคันน์ เอสยูวี ไฟฟ้า 100 % น้องใหม่จากค่าย ปอร์เช่

January 27, 2024
New Car

Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic  2024 (Facelift) 

January 26, 2024
New Car

Mazda6 20th Anniversary Edition

December 2, 2023
New Car

‘MAZDA ICONIC SP’ รถต้นแบบสปอร์ตคอมแพ็คคาร์

November 1, 2023
New Car

Volkswagen ID.X Performance Concept เปิดตัว  EV 550 แรงม้า พร้อม Aggressive Aero

September 10, 2023
New Car

ใหม่ 2024 Lotus Emeya ซาลูนไฟฟ้าเผยโฉมด้วยกำลัง 905 แรงม้า รถยนต์ซาลูนสมรรถนะสูงแห่งแรกของแบรนด์อังกฤษนับตั้งแต่ Carlton มาถึงในรูปแบบ EV กำลังสูง

September 8, 2023
Leave Comment

What Car? Thailand

 

นิตยสารและเว็บไซต์ whatcar.co.th เนื้อหาลิขสิทธิ์รถยนต์ที่แรกที่เดียวในไทย เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ จาก What Car? whatcar.com ประเทศอังกฤษซึ่งได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกมายาวนานกว่า 45 ปี.

Follow us

Categories

  • Awards
  • Big Bike
  • Comparison
  • CSR
  • Feature
  • First Drive
  • Insights
  • Inter News
  • New Car
  • News
  • PR
  • Promotion
  • Reviews
  • Road Test
  • Road Trips
  • Tip Technic
  • Uncategorized
  • Your Cars

Instagram

  • ลาก่อน EQS สวัสดี S-Class รถยนต์ไฟฟ้า : Mercedes จะรวมทั้งสองรุ่นเข้าด้วยกันในปี 2030 ⚡
  • พักเบรกกับค่ายจีน 🇨🇳ที่กำลังลงมาเล่นตลาด ⚡🔋
รถยนต์ไฮบริด (Hybird) นั่งกันไม่ติดและ ญี่ปุ่น 🇯🇵
.
ไม่รู้ว่านุดมีแมว...หรือแมวมีนุดกันแน่ 😆
 "ประกาศิต" ก็เป็นทาสจ๊ะ 555
.
แม่น้ำตาลเป็นแมวที่อายุใกล้ 20 ปี ก็จะดูวัยรุ่นหน่อย 😸
โลกนี้ให้ความสำคัญกับแมวอยู่นะ.... “วันแมวโลก”  International Cat Day 
8 สิงหาคมของทุกปี
.
#InternationalCatDay 
#แม่น้ำตาลหวานเจียบ
  • เดินทางด้วยรถ Benz E 220 d AMG Line 😆🌊🌴
จากเส้นทางภูเก็ต - พังงา ถึง รร.เยาววิทย์ 
ทริป /CSR เมอร์เซเดสเบนซ์ ประเทศไทย
.
ขนาดตัวถัง
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,935 x 1,852 x 1,460 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,939 มิลลิเมตร
.
เครื่องยนต์
.
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก EQ Boost พละกำลัง 23 แรงม้า 205 นิวตันเมตร Mild Hybrid 48V ช่วยในการออกตัว จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง
.
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.6 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed 238 km/h
.
ภายนอก
- ชุดตกแต่งภายนอก AMG Body Styling
- ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว
- ไฟหน้า LED High Performance
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist
- ระบบกุญแจ Keyless-GO
- ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบเปิด-ปิด ฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate
- ระบบช่วยปิดประตู Power Closing Doors (ประตูดูด)
.
ภายใน และระบบอำนวยความสะดวก
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อม Memory Seat
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อม Memory Seat
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 2-Zones
- ระบบปรับสมดุลอากาศ - ฟอกอากาศ ENERGIZING AIR CONTROL (HEPA)
- ม่านบังแดดประตูคู่หลัง
- ม่านบังแดดกระจกบังลมหลัง
- หน้าจอ MBUX Multimedia HyperScreen และ หน้าจอมาตรวัดแบบ 3D
- Passenger Screen หน้าจอแยก สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ที่แยกควบคุมกับจอกลางได้ โดยไม่รบกวนการควบคุมของส่วนกลางภายในรถ
- ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist
- กล้องรอบคัน 360 องศา
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Assist
- ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูลงจากรถ Exit Warning
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารตอนหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Active Distance Assist DISTRONIC with Stop&Go
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Lane Tracing Package
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร Active Lane Keeping Assist
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Collision Warning
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Advanced Driving Assistance System
.
.
#MercedesBenz #EClass #E220d #E220dAMGLine
  • สีดำ....หล่อแบบเข้ม เข้ม 😆
เผยโฉม ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด
ด้วยการตกแต่งภายนอกสีดำสุดเท่ ประกอบด้วย ไดนามิก ชีลด์และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา บันไดข้างตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ 
.
เครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ให้กำลังสูงสุดที่ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ผสานช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น 
.
เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) 
-ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System: FCM) 
-ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) 
-ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA) 
-ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) 
-ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto High Beam: AHB) 
-กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) 
-พร้อมระบบตรวจจับและแจ้งเตือนวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection: MOD) 
.
ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะทั้งหมดนี้ สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ ด้วยเซ็นเซอร์และเรดาร์ที่ละเอียด แม่นยำ พร้อมปกป้องคุณให้ปลอดภัยในทุกเส้นทางที่ไปในแบบ 360 องศา
.
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน อาทิ หน้าจอขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay ที่พร้อมเชื่อมต่อแบบไร้สาย และ Android Auto 
.
#WHATCARThailand
#MitsubishiMotorsThailand #mitsubishitritonblackedition
#triton #blackedition
  • A5 Sedan ใหม่ ตัวแทน Audi A4 Sedan คู่แข่งใหม่ BMW 3 Series และ Mercedes C-Class
.
ภายนอกออกแบบใหม่ด้วยกระจังหน้าเพรียวขึ้น ไฟหน้าแบบ LED daytime running และไฟท้ายแบบ OLED ที่สามารถปรับการแสดงผลได้สูงสุด 8 รูปแบบ ที่นอกจากจะแสดงความแตกต่างเพื่อความสวยงามแล้ว สำหรับไฟท้ายยังสามารถใช้เป็นการสื่อสารกับรถคันหลังได้อีกด้วย
.
ภายในออกแบบหน้าจอ  3 ชิ้น โดยเลือกใช้แนวคิดการยึดหลักผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ virtual Cockpit ใช้เทคโนโลยีหลอดไฟแบบ OLED ขนาด 11.9 นิ้ว ทำงานร่วมกับหน้าจอกลางขนาด 14.5 นิ้ว เป็นระบบสัมผัส ทั้งยังมีออฟชั่นหน้าจอสำหรับความบันเทิงของผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 10.9 นิ้ว
ความพิเศษยังอยู่ที่ A5 Sedan ที่ติดตั้งฝากระโปรงท้ายแบบยกเปิด เสมือนเป็นรุ่น Sportback จากโรงงาน
.
เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง เบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด
2.0 TDI
เครื่องยนต์ดีเซล TDI แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร  สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch
.
2.0 TFSI
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อคู่หน้าเท่านั้น และรุ่นอัพเกรด 204 แรงม้า (PS) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ultra ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ dual-clutch
.
รุ่น S5
เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ V6 ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 367 แรงม้า (PS) พร้อมด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48-volt เพื่อลดมลพิษสำหรับการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ
.
#WHATCARThailand
#AUDI #A5Sedan
  • #Promotion #Toyota ข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ซื้อรถในงาน #MOTORSHOW2024
#PR #promote #whatcar #whatcarthailnd 🥳👍🫰
  • #Tesla #Cybertruck ลองกระสุนเบอร์ไหนเข้า...? คุ้มนะถ้า 2.5m Baht คนไทยพร้อมซื้อ (รวย)😆🥳😃🧐🤓
#whatcar #whatcarthailand
  • พาชม #Porsche ในงาน Motor Show 2024
#whtacarthailand #whatcar
  • พาชม #Mitsubishi ในงาน Motor Show 2024
#whatcar #whatcarthailnd

Newsletter

© 2022 What Car? Thailand - Designed by Coinfinity Power.

  • About
  • Advertise
  • Terms & Conditions
  • Privacy & Policy
  • Team
  • Contact

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และอำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ รวมถึงช่วยให้เราปรับปรุงการนำเสนอเนื้อหาตรงตามความต้องการของท่าน โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้นโยบายคุกกี้ กด “ยอมรับ”
Cookie settingsยอมรับ
Manage consent

Privacy Overview

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.
Necessary
Always Enabled
Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. These cookies ensure basic functionalities and security features of the website, anonymously.
CookieDurationDescription
cookielawinfo-checkbox-advertisement1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Advertisement" category .
cookielawinfo-checkbox-analytics1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Analytics" category .
cookielawinfo-checkbox-functional1 yearThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessary1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to record the user consent for the cookies in the "Necessary" category .
cookielawinfo-checkbox-others1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to store the user consent for cookies in the category "Others".
cookielawinfo-checkbox-performance1 yearSet by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie is used to store the user consent for cookies in the category "Performance".
CookieLawInfoConsent1 yearRecords the default button state of the corresponding category & the status of CCPA. It works only in coordination with the primary cookie.
Functional
Functional cookies help to perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collect feedbacks, and other third-party features.
Performance
Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.
CookieDurationDescription
_lscache_vary2 daysNo description available.
Analytics
Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.
CookieDurationDescription
_ga2 yearsThe _ga cookie, installed by Google Analytics, calculates visitor, session and campaign data and also keeps track of site usage for the site's analytics report. The cookie stores information anonymously and assigns a randomly generated number to recognize unique visitors.
_gat_gtag_UA_51917967_11 minuteSet by Google to distinguish users.
_gid1 dayInstalled by Google Analytics, _gid cookie stores information on how visitors use a website, while also creating an analytics report of the website's performance. Some of the data that are collected include the number of visitors, their source, and the pages they visit anonymously.
Advertisement
Advertisement cookies are used to provide visitors with relevant ads and marketing campaigns. These cookies track visitors across websites and collect information to provide customized ads.
CookieDurationDescription
_fbpsessionThis cookie is set by Facebook to display advertisements when either on Facebook or on a digital platform powered by Facebook advertising, after visiting the website.
advanced_ads_browser_width1 monthThis cookie is set by Advanced ads plugin.This cookie is used to measure and store the user browser width for adverts.
personalization_id2 yearsTwitter sets this cookie to integrate and share features for social media and also store information about how the user uses the website, for tracking and targeting.
Others
Other uncategorized cookies are those that are being analyzed and have not been classified into a category as yet.
CookieDurationDescription
jnews_view_counter_visits[0]2 months 2 days 15 hoursNo description
muc_ads2 yearsNo description
pvc_visits[0]1 dayThis cookie is created by post-views-counter. This cookie is used to count the number of visits to a post. It also helps in preventing repeat views of a post by a visitor.
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo
No Result
View All Result
  • Home
  • Reviews
    • First Drive
    • Road Test
    • Road Trips
    • Comparison
  • New Car
  • Awards
  • Column
    • Editor’s Talk
    • Insights
    • Your Cars
    • Feature
    • Advice
    • Tip Technic
  • News
    • PR
    • Inter News
    • Promotion
    • Big Bike
    • CSR
  • About
  • Contact

© 2021 What Car? Thailand - Designed by Coinfinity Power.