กลับมาอีกครั้งกับมหกรรมยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก Geneva Motor Show 2018 เป็นที่ทราบกันดีว่างานนี้เป็นเหมือนเวทีสำหรับปล่อยของของค่ายรถยนต์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นใหม่ รถต้นแบบสุดล้ำ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเหนือสุดจินตนาการ รวมถึงทิศทางในอนาคตของอุตสาหกรรมนี้ พร้อมแล้วที่จะอวดสายตาผู้คนทั่วโลกอีกครั้ง
ปีนี้ไฮไลท์สำคัญของงานก็คือกลุ่มรถเอสยูวีและรถยนต์ไฟฟ้าที่นับวันเริ่มจับต้องได้ง่ายขึ้น การจับเอาทั้งสองกลุ่มดังกล่าวมารวมกันกำลังเป็นแนวทางใหม่ที่เริ่มเป็นที่นิยมของค่ายรถชั้นนำ อาทิเช่น Audi E-tron และ Jaguar I-Pace เป็นต้น ขณะเดียวกันกลุ่มรถยนต์ประเภทอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน วันนี้ Whatcar? Thailand จะแนะนำ 30 รถเด่นน่าจับตาในงานครั้งนี้มาให้ทุกท่านได้ชมกัน ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลย
1. Audi A6
นี่คือคู่ปรับตลอดกาลของ BMW 5 Series การกลับมาครั้งนี้ชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและภายในที่หยิบยกมาจาก A8 รุ่นพี่ เครื่องยนต์มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid ในทุกรุ่นย่อย
2. Audi E-tron
เอสยูวีไฟฟ้าล้วนคันแรกของ Audi นี่คือคู่ปรับของ Tesla Model X และ Jaguar I-Pace มาพร้อมกับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.5 วินาที กับระยะทางที่วิ่งได้ไกลสุดกว่า 500 กม.
3. Bentley Bentayga PHEV
พี่บิ๊กอย่าง Bentley ก็หันหน้าเข้าสู่ยุคของไฟฟ้าเช่นกัน เอสยูวีหรูลำยักษ์คันนี้ทรงพลังด้วยเครื่องเบนซิน V6 3.0 ลิตรจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้พลังรวมกว่า 410 แรงม้า Bentayga PHEV เป็นโมเดลแรกของค่ายที่มาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริด
4. BMW X4
คู่ปรับของ Mercedes-Benz GLC Coupé แข็งแกร่งและน้ำหนักเบากว่าเดิม เครื่องยนต์ใช้ร่วมกับ X3 ภายในมาพร้อมระบบสาระบันเทิง iDrive เวอร์ชันล่าสุด มีให้เลือก 3 ระดับตกแต่งตามความชอบ คือ xLine, M Sport และ M Sport X
5. Citroën Berlingo Multispace
เอ็มพีวีพื้นฐานรถตู้จากค่ายรถแดนน้ำหอมมาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลาย ภายในกว้างขวางพร้อมกับห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ จัดเต็มด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมาย เหมาะมากสำหรับครอบครัวนักเดินทางขาลุย
6. Ford Edge
เอสยูวีขนาดใหญ่ของ Ford รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดุดันขึ้น กระจังหน้าขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ยังใช้ของตัวปัจจุบัน แต่มีการเพิ่มระบบป้องกันการชนแบบใหม่ Adaptive Cruise Control และ Post-collision braking เป็นครั้งแรก
7. Ford Ka+
โมเดลราคาถูกที่สุดของ Ford ได้รับการอัพเดตใหม่พร้อมกับเพิ่มรุ่น Ka+ Active เวอร์ชันที่สมบุกสมบันมากขึ้นด้วยราวหลังคา กันชนใหม่ และเพิ่มความสูงของตำแหน่งนั่งขับ เหมาะสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการรถที่ลุยไปได้ทุกที่ในราคาสบายกระเป๋า
8. Honda CR-V
ไม่ต้องตกใจเพราะ CR-V ในยุโรปเปิดตัวช้ากว่าบ้านเรา สเปกทั่วไปไม่ต่างกันมาก ภายในมีหน้าปัดดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว เครื่องยนต์มีเบนซิน 1.5 ลิตร และเครื่องไฮบริดเบนซิน 2.0 ลิตรจับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเครื่องดีเซล ขับเคลื่อน 4 ล้อทั้งสองเครื่องยนต์
9. Hyundai Kona Electric
เอสยูวีไฟฟ้าจากเกาหลีมีแบตเตอรีให้เลือก 2 ขนาด รุ่นแพงสุดสามารถวิ่งได้ไกลถึง 470 กม. รุ่นเริ่มต้นมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าพลัง 133 แรงม้า ขับขี่ได้ 300 กม. ชาร์จ 80% ใน 54 นาที ด้วยตัวชาร์จเร็ว ฟีเจอร์เด่นได้แก่หน้าปัดดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว และ Head-up display
10. Hyundai Santa Fe
มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดุดันมากขึ้น เส้นสายเฉียบคม คู่ปรับได้แก่ Kia Sorento และ Peugeot 5008 ฟีเจอร์เด่นได้แก่ระบบเตือนผู้ขับเมื่อมีผู้โดยสารตอนหลังออกจากรถ และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
11. Jaguar I-Pace
เอสยูวีไฟฟ้าล้วนคันแรกจากค่ายพี่เสือ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แยกกันทำงานที่เพลาหน้าและเพลาหลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ระยะวิ่งไกลสุด 480 กม. ภายในมาพร้อมระบบสาระบันเทิง 2 จอ จาก Range Rover Velar
12. Kia Ceed
คู่ปรับของ Ford Focus และ Vauxhall Astra โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้าย LED เป็นมาตรฐาน ภายในมาพร้อมระบบสาระบันเทิงสุดล้ำและห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ เครื่องยนต์มีเบนซิน 1.4 ลิตร และดีเซล 1.6 ลิตร
13. Kia Optima
มาพร้อมเครื่องดีเซล 1.6 ลิตร 134 แรงม้า และเบนซิน 1.6 ลิตร 178 แรงม้า มี 4 โหมดการขับขี่ได้แก่ eco, comfort, sport และ smart อุปกรณ์ความปลอดภัยมีระบบตรวจจับความเมื่อล้าของผู้ขับ และกล้องรอบคัน
14. Lexus UX
พัฒนาต่อยอดมาจากรถต้นแบบ UX Concept ในปี 2016 และเตรียมเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้ คู่แข่งคือ Jaguar E-Pace รายละเอียดทางเทคนิคยังไม่เผยออกมา คาดว่าต้องมีเวอร์ชันไฮบริดแน่นอน
15. Mercedes A-Class
แฮทช์แบ็กรุ่นเล็กสุดของ Mercedes พร้อมขายแล้วในปีนี้ นี่คือ A-Class ที่หรูหราที่สุด ภายในโดดเด่นด้วยจอระบบสาระบันเทิงแนวยาวที่หยิบยกมาจาก E และ S Class พร้อมกับพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่มีมากขึ้น
16. Mercedes-AMG GT four-door
เวอร์ชัน 4 ประตูของสปอร์ตตระกูล Mercedes-AMG GT เครื่องยนต์มีให้เลือกหลากหลายรวมทั้งเวอร์ชันไฮบริดด้วย รุ่นท็อปสุด GT-R จะมีพละกำลังมากกว่า 800 แรงม้าจากเครื่องยนต์ V8
17. Mercedes C-Class
ปรับปรุงรูปโฉมใหม่ให้ดุดันขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ บล็อกใหม่ ภายในมาพร้อมจอระบบสาระบันเทิงขนาดใหญ่ขึ้น รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้เป็นครั้งแรก
18. Peugeot 508
ซีดานขนาดกลางรุ่นใหม่กับรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจาก 3008 และ 5008 เอสยูวีร่วมค่าย เครื่องยนต์มีให้เลือกหลากหลายทั้งดีเซลและเบนซินแต่ไฮบริดยังเป็นปริศนาอยู่ ภายในมาพร้อม i-Cockpit รุ่นล่าสุด
19. Polestar 1
สปอร์ตรุ่นแรกของค่ายหลังจากแยกตัวออกมาจาก Volvo คูเป้ 4 ที่นั่งคันนี้ขับเคลื่อนขุมพลังไฮบริดเบนซิน 2.0 ลิตรจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พลังรวม 592 แรงม้า วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 150 กม. ภายในยกมาจาก S90 และ V90
20. Range Rover SV Coupé
Land Rover ฉลองอายุครบ 70 ปี ด้วย Range Rover เวอร์ชัน 2 ประตู ผลิตเพียง 999 คันเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V8 5.0 ลิตร 557 แรงม้า คาดว่าราคาจะสูงเกินกว่า 150,000 ปอนด์ (7.5 ล้านบาท)
21. Renault Zoe
หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมของยุโรปไม่ปล่อยให้คู่แข่งอย่าง BMW i3 ลอยหน้าลอยตาได้นาน Zoe ใหม่จึงมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าพลัง 107 แรงม้า ทำให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้น พร้อมกับราคาค่าตัวที่มากขึ้นเล็กน้อย
22. Seat Cupra Ateca
สปอร์ตเอสยูวีคันนี้มาพร้อมขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร 296 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นมาตรฐาน เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.4 วินาที! ด้านราคายังไม่เผยออกมาแต่ดูแล้วไม่เบาแน่นอน
23. Skoda Fabia
Fabia ใหม่มาพร้อมกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ ไฟหน้า LED และการปรับแต่งส่วนบุคคลที่มีให้เลือกหลากหลาย เครื่องยนต์มีเฉพาะเบนซิน 1.0 ลิตรเท่านั้น เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยใหม่คือ ระบบป้องกันการชนด้านหลัง และระบบเตือนจุดอับสายตา
24. Skoda Vision X
คอนเซ็ปต์คาร์ที่จะมาเป็นต้นแบบของเอสยูวีขนาดเล็กรุ่นใหม่ของค่าย ภายในมาพร้อมระบบสาระบันเทิงจอสัมผัส เวอร์ชันผลิตจริงจะมี 5 ที่นั่ง เครื่องยนต์เป็นเบนซิน 1.5 ลิตรจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.3 วินาที ปล่อย CO2 89 กรัม/กม.
25. Ssangyong e-SIV
อีกหนึ่งคอนเซ็ปต์คาร์จากค่ายรถแดนโสมที่จะมาแทนที่ korando ในอนาคตอันใกล้ e-SIV จะเข้าสู่การผลิตในปี 2020 และจะมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วน 185 แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ระยะทางที่วิ่งได้คือ 478 กม.
26. Toyota Aygo
ซิติ้คาร์จิ๋วหน้าตาน่ารักคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร 71 แรงม้า พ่วงตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ 25.6 กม./ลิตร ปล่อย CO2 ต่ำเพียง 95 กรัม/กม. พวงมาลัยและช่วงล่างถูกปรับเซ็ตใหม่ให้ปราดเปรียวและขับสนุกยิ่งขึ้น
27. Toyota Auris
Auris ใหม่ เกิดมาเพื่อแบทเทิลกับ Skoda Octavia and Volkswagen Golf มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่น่าตื่นเต้น และระบบขับเคลื่อนไฮบริด เบนซิน 2.0 ลิตร คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า
28. Toyota Supra
สปอร์ต 2 ประตูยุค 90 ในตำนาน ที่หลายคนเฝ้ารอที่จะได้ยลโฉมตัวจริงและในงานครั้งนี้ทุกท่านจะไม่ผิดหวัง Supra ใหม่เป็นการพัฒนาร่วมกันกับ BMW Z4 ตัวใหม่ ขายภายใต้ชื่อ Gazoo ซับแบรนด์ของโตโยต้า รายละเอียดสุดท้ายยังไม่เปิดเผย คาดว่าสปอร์ตในตำนานคันนี้จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร เทอร์โบ 340 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง
29. Volkswagen ID Vizzion
Vizzion เป็นโมเดลล่าสุดของคอนเซ็ปต์คาร์ตระกูล ID จากภาพยังดูไม่ออกว่ามันจะเป็นเอสยูวี เป็นแฮทช์แบ็ก หรือซีดาน คอนเซ็ปต์คาร์คันนี้เป็นรถไฟฟ้าและขับขี่อัตโนมัติ 100% มอเตอร์ของมันมีกำลัง 29 แรงม้า วิ่งได้ไกลสุด 665 กม. ภายในไม่มีส่วนของคนขับ มีเพียง 4 ที่นั่งและสั่งการระบบต่างๆ ด้วยเสียง
30. Volvo V60
สปอร์ตเอสเตทดีไซน์คล้ายคลึงกับ S90 และ V90 ขุมพลังมีทั้งเบนซิน ดีเซล และปลั๊กอินไฮบริด ระดับตกแต่งมีเหมือนโมเดลร่วมค่ายรุ่นอื่นๆ ที่สำคัญนี่คือรถที่ปลอดภัยที่สุดในปัจจุบันจากการทดสอบของ Euro NCAP
และทั้งหมดนี่ก็คือดาวเด่นที่น่าสนใจในงานปีนี้ เห็นได้ว่าระแสของเอสยูวีและรถยนต์ไฟฟ้ามาแรงมากทีเดียว อีกไม่นานเกินรอผู้ใช้รถทั่วไปก็จะเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง สำหรับงาน Geneva Motor Show 2018 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8-18 มีนาคมนี้ ติดตามอัพเดตข่าวสารได้ที่เว็บไซต์และแฟนเพจของเราได้เลย