Polestar แบรนด์รถยนต์ประสิทธิภาพสูงใต้ชายคา Volvo เปิดตัวรถยนต์โมเดลแรกของค่าย Polestar 1 คูเป้พลังไฮบริด 592 แรงม้า
Polestar 1 เป็นคูเป้ทรง GT 4 ที่นั่ง พละกำลัง 592 แรงม้า รถคันนี้เป็นอนาคตแห่งวงการรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง มันจะขายผ่านการสมัครสมาชิกเท่านั้น Hakan Samuelson CEO ของ Volvo อธิบายว่า Polestar เป็น “แบรนด์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์สำคัญของ Volvo Group เราต้องการเป็นผู้นำในรถยนต์ไฟฟ้าและ Polestar จะมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์นี้”
Thomas Ingenlath บอสใหญ่ของ Polestar กล่าวว่า “Polstar 1 เป็นรถไฟฟ้าที่ซัพพอร์ตโดยเครื่องยนต์สันดาปภายใน มันจะเป็นรถไฮบริดเพียงรุ่นเดียวของแบรนด์ หลังจากนี้ Polestar รุ่นใหม่ๆ ในอนาคตทั้งหมดจะเริ่มต้นด้วยการเป็นคู่แข่งของ Tesla Model 3 และเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEVs)”
ดีไซน์ของ Polestar 1 เหมือนหยิบยกมาจาก Volvo Concept Coupe ที่เปิดตัวในปี 2012 อย่างไรก็ตามดีไซน์ด้านหน้าก็ยังคงมาในแนวเดียวกับรถยนต์ Volvo ตราโลโก้ Iron Mark ถูกถอดออกไปแล้วแทนที่ด้วยตราโลโก้ของ Polestar ที่ฝากระโปรงหน้า กระจังหน้าของมันเป็นแบบกริดที่ออกแบบมาเพื่อติดตั้งเซ็นเซอร์ทั้งหลาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมแถบไฟทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
Polestar 1 สร้างบนพื้นฐาน SPA Platform แต่ผู้ผลิตยืนยันว่า 50% เป็นการสร้างขึ้นมาใหม่ ตัวรถมีความยาว 4.5 เมตร สั้นกว่า S90 เพียง 0.5 เมตร ทำให้ฐานล้อสั้นกว่า 320 มม. และด้านท้ายสั้นลง 200 มม. ตัวถังส่วนใหญ่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ลดน้ำหนักได้ถึง 230 กิโลกรัม ทนต่อการบิดตัวเพิ่มขึ้น 45% มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ S90 การกระจายน้ำหนักด้านหน้า 48 ด้านหลัง 52
ภายในของ Polestar 1 มีดีไซน์ใกล้เคียงกับ S90 และ V90 โดดเด่นด้วยหน้าจอระบบสาระบันเทิงทรงตั้งคล้ายแท็บเล็ต แผงหน้าปัดดิจิตอลเต็มรูปแบบที่แสดงผลข้อมูลการขับขี่ครบครัน นอกจากนี้ยังรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto สำหรับเชื่อต่อสมาร์ทโฟน
Polstar 1 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ล้อหลัง สร้างกำลังรวมกัน 215 แรงม้า พร้อมผลิตไฟฟ้าในตัว รถสามารถวิ่งได้ไกลสุดราว 150 กิโลเมตรในโหมดไฟฟ้าล้วนหรือโหมดขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบมอเตอร์นี้ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิ Drive-E 4 สูบ 2.0 ลิตร ส่งกำลัง 377 แรงม้าลงสู่ล้อคู่หน้า เมื่อรวมทั้งหมดแล้วระบบไฮบริดสามารถสร้างแรงบิดได้สูงถึง 999 นิวตันเมตร
Polestar 1 ติดตั้งระบบกันสะเทือนควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่จาก Ohlins ในระบบนี้โช้คอัพแต่ละตัวจะติดตั้งวาล์วอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจะคอยตรวจสอบและปรับแข็งอ่อนให้เข้ากับการขับขี่และพื้นผิวถนนอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบแรกของ Ohlins ที่ผู้ขับสามารถปรับเปลี่ยนได้เองจากภายในรถ ระบบเบรกเป็นคาลิปเปอร์ 6 ลูกสูบ จาก Akenobo พร้อมจานเบรก 400 มม. นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ Torque Vectoring กระจายแรงบิดล้อทั้ง 4 ในขณะเข้าโค้ง และอีกหนึ่งเทคโนโลยีใน Polestar 1 คือ ‘Phone-as-Key’ ที่จะช่วยให้ผู้ขับสามารถใช้งานรถยนต์ได้โดยไม่มีคีย์หรือให้คีย์ เสมือนแก่ผู้ใช้รายอื่นเมื่อจำเป็น
Polestar 1 มีกำหนดเริ่มการผลิตในช่วงกลางปี 2019 ผลิตไม่เกิน 500 คันต่อปี และจะผลิตเฉพาะเวอร์ชันพวงมาลัยซ้ายเท่านั้น เนื่องจากสเกลการผลิตไม่ได้ใหญ่โตมากมาย รถยนต์ทั้งหมดพร้อมกับโมเดลในอนาคตของแบรนด์จะผลิตที่ศูนย์การผลิต Polestar ที่กำลังสร้างในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน
Polestar 1 จะขายออนไลน์ผ่านการสมัครสมาชิกโดย Polestar Spaces จะก่อตั้งขึ้นสำหรับผู้ซื้อรายบุคคล การสมัครสมาชิกจะมีระยะเวลา 2 หรือ 3 ปี ถ้ารถพร้อมขายมีมันจะมีค่าตัวราว 116,000 ปอนด์ (5.8 ล้านบาท) ตอนนี้ Polestar เปิดให้จับจองแล้วหลังจากงานเปิดตัวรถยนต์ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในอนาคต Polestar ตั้งเป้าเปิดตัวอีก 2 โมเดลหรือมากกว่าก็คือ Polestar 2 และ 3 และตั้งใจที่จะเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังร้อนแรงเพื่อแข่งขันกับ Tesla Model 3 โดยตรง