BMW ประเทศไทย เปิดตัวยนตกรรมหรูตระกูล 7 Series พร้อมกัน 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ BMW 730Ld Pure Excellence ซีดานระดับพรีเมียมเครื่องยนต์ดีเซล และ BMW 740Le xDrive Pure Excellence ซีดานหรูปลั๊กอินไฮบริดหัวใจรักษ์โลก ทั้งคู่ประกอบในประเทศ ราคาถูกลงกว่าเดิม
BMW 730Ld Pure Excellence
ราคา 5,839,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
730Ld Pure Excellence มาพร้อมโครงสร้างตัวถังเทคโนโลยี BMW EfficientLightweight ทำให้น้ำหนักรวมของตัวรถเบาลงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 130 กิโลกรัม มิติตัวรถยาว ยาว 5,238 มม. กว้าง 1,902 มม. สูง 1,485 มม. ระยะฐานล้อ 3,210 มิลลิเมตร ความจุห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย 515 ลิตร
โครงสร้างตัวถังผลิตจาก Carbon Core ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ใน BMW i8 และผสมผสานวัสดุพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (CFRP) เข้ากับเหล็กกล้าและอลูมิเนียม ทำให้ตัวถังมีความแข็งแรงและมั่นคงในส่วนห้องโดยสารมากกว่ารุ่นก่อน ทั้งยังลดน้ำหนักของตัวรถลงไปพร้อมๆ กัน
730Ld Pure Excellence ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียงขนาด 3.0 ลิตร ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 6.2 วินาที
ดีไซน์ภายนอกหรูหราสง่างามเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมไฟหน้า LED ปรับทิศทางตามการหมุนของพวงมาลัยพร้อมระบบปรับการทำงานไฟสูงแบบอัตโนมัติ ไฟตัดหมอก LED ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว สวมด้วยยางรันแฟลต คู่หน้า ขนาด 245/45 R19 คู่หลังขนาด 275/40 R19
มาพร้อมระบบ Air Flap Control ที่จะเปิดช่องระบายอากาศโดยอัตโนมัติเมื่อตัวรถต้องการระบายความร้อน นอกจากจะเพิ่มสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ให้กับรถแล้ว ยังเสริมความสะดุดตาให้กับส่วนหน้าของรถด้วยจำนวนซี่ของกระจังหน้าทรงไตคู่ที่เพิ่มขึ้น
ภายในของ 730Ld Pure Excellence มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ควบคุมผ่านปุ่มหมุน iDrive อีกหนึ่งฟังก์ชั่นใหม่ของการใช้งานร่วมกับระบบ iDrive คือ การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ หรือ BMW Gesture Control เซ็นเซอร์ 3 มิติจะจับการเคลื่อนไหวของการสั่งงานระบบควบคุมความบันเทิงและการสื่อสาร ซึ่งใช้งานได้อย่างง่าย เช่น การปรับระดับเสียง การรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าโทรศัพท์ เป็นต้น
730Ld Pure Excellence มาพร้อมพวงมาลัยไฟฟ้า Servotronic ช่วงล่างแบบถุงลม ปรับระดับอัตโนมัติ ระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ระบบควบคุมความนุ่มนวลช็อคอัพแบบแปรผัน Dynamic Damper Control โหมดการขับขี่รูปแบบต่างๆ พร้อมโหมดขับขี่ Adaptive ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็ว
BMW 740Le xDrive Pure Excellence
ราคา 6,339,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)
strong>
740Le xDrive Pure Excellence มาพร้อมโครงสร้างตัวถัง Carbon Core ที่มาคู่กับแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูง บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence จึงรักษาประสบการณ์การขับขี่อันเหนือชั้นตามแบบฉบับซีรีส์ 7 ได้อย่างไร้ที่ติ และยังยกระดับเทคโนโลยี Efficient Dynamics ให้ก้าวล้ำเหนือกว่าความสำเร็จในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นก่อนหน้าอีกด้วย
มิติตัวถังเท่ากับ 730Ld Pure Excellence ความจุห้องเก็บสัมภาระ 420 ลิตร มาพร้อมล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สวมด้วยยางคู่หน้า 245/40 R20 คู่หลัง 275/35 R20 ไฟหน้า Adaptive LED Headlamp ไฟตัดหมอก LED ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ High-beam Assist
ขุมพลังของ 740Le xDrive Pure Excellence เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin Power Turbo ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,550 – 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า synchronous electric motor ให้กำลังสูงสุด 113 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร
รวมการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้กำลังสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,250 – 4,600 รอบ/นาที แบตเตอรี่ lithium-ion ความจุ 9.2 kWh (gross) แรงดันไฟฟ้า 351 V และความจุถังน้ำมัน 46 ลิตร
740Le xDrive Pure Excellence มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบถาวร xDrive สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 41 กิโลเมตรเมื่อขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าอย่างเดียว ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.3 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 47.6 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 49 กรัม/กิโลเมตร เมื่อขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง
740Le xDrive Pure Excellence ยังมาพร้อมกับสวิทช์ปรับโหมดขับขี่ที่ออกแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งติดตั้งอยู่บนคอนโซล ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มเพื่อเลือกโหมดการขับขี่ SPORT / SPORT + / COMFORT / COMFORT + และ ECO PRO ได้ตามใจชอบ ยิ่งไปกว่านั้น สวิทช์ปรับโหมดดังกล่าวยังเสนออีกหนึ่งทางเลือกด้วยโหมด ADAPTIVE ซึ่งสามารถตอบสนองต่อสไตล์การขับขี่และสภาพเส้นทางได้อย่างชาญฉลาด
ทั้งนี้ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงกับเต้าเสียบที่บ้านได้เต็มภายในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ระบบการชาร์จไฟที่บ้านภายใต้ BMW 360° ELECTRIC ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อคงไว้ซึ่งความปลอดภัย ใช้งานสะดวก และความรวดเร็วสูงสุด ในขณะที่แท่นชาร์จบีเอ็มดับเบิลยู i Wallbox สามารถชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูงได้ในอัตรา 3.5 กิโลวัตต์ (16 แอมป์/ 230 โวลต์) จึงสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง 40 นาที
ระบบความปลอดภัยใน 740Le xDrive Pure Excellence จัดเต็มด้วยระบบเบรก ABS, กระจายแรงเบรก EBD, เสริมแรงเบรก BA, ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ DSC, ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน DTC, ถุงลมนิรภัย 6 ลูก, กล้องมองภาพรอบคัน Surround View, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Parking Assistant, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control พร้อม Speed limit, ประตูดูด, รวมถึงกุญแจรีโมท BMW Display Key
ทั้ง BMW 730Ld Pure Excellence และ BMW 740Le xDrive Pure Excellence ยังมอบมาตรฐานเหนือชั้นด้วยกุญแจ BMW Display Key ระบบนำทางแบบ Professional และระบบปฏิบัติการ iDrive ที่รวมถึงฟังก์ชั่นทัชสกรีนบนหน้าจอ และ BMW Gesture Control การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ บริเวณห้องโดยสารด้านหน้าและด้านหลังมาพร้อมกับเบาะนั่งที่สะดวกสบายด้วยระบบระบายอากาศในเบาะและฟังก์ชั่นนวดเพื่อสุขภาพ และฟังก์ชั่นในการปรับเบาะให้อุ่นได้ ทั้งยังเติมเต็มที่สุดแห่งความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารด้านหลังด้วยเบาะที่นั่ง Executive Lounge Seating และหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama
BMW 730Ld Pure Excellence และ 740Le xDrive Pure Excellence เตรียมอวดโฉมที่งาน BMW Xpo 2017 ที่ศูนย์การสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 7-10 กันยายน 2560 พร้อมกับยนตกรรม BMW รุ่นอื่นๆ อาทิ M4 DTM Champion Edition และ i8 (Protonic Frozen Black Edition) พร้อมด้วยข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถยนต์ BMW รุ่นที่เข้าร่วมรายการภายในงาน
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.bmw.co.th