อินช์เคป (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Jaguar อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัว Jaguar E-Pace คอมแพ็คเอสยูวีสไตล์สปอร์ต สมาชิดลำดับล่าสุดในตระกูลเอสยูวีของค่ายพี่เสือ เตรียมโชว์ตัวในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 ปลายเดือนนี้
Jaguar E-Pace เป็นคอมแพกต์เอสยูวีที่มาในรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวแบบรถสปอร์ตที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก F-Pace สปอร์ตเอสยูวีรุ่นพี่ และ F-Type สปอร์ตคาร์ร่วมค่าย ผสานสมรรถนะครบครันตามแบบฉบับรถยนต์เอสยูวี ทั้งยังเชื่อมโยงเทคโนโลยียานยนต์อันทันสมัยตอบโจทย์การเป็นรถยนต์สำหรับทุกครอบครัว
การออกแบบ
การออกแบบภายนอกของ E-Pace ถ่ายทอดความเป็นจากัวร์ออกมาอย่างเด่นชัดด้วยกระจังหน้ารังผึ้งสีดำที่เป็นเอกลักษณ์ รับกับไฟหน้า LED และไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ ทรง J Blade ให้ความสวยงามลงตัว ช่วงหน้าสั้นแต่มีสัดส่วนโค้งเว้าของตัวรถที่ดูแข็งแกร่งทรงพลัง สื่อความหมายในสมรรถนะการขับเคลื่อนอันยอดเยี่ยม อีกทั้งความลาดเอียงของโครงหลังคาที่สอดรับกับหน้าต่างด้านข้างที่ให้อารมณ์แบบรถสปอร์ตคูเป้
ด้านท้ายโดดเด่นด้วยไฟท้าย Signatue LED เป็นเส้นคล้ายกับ F-Type มองกลางคืนก็รู้ว่าเป็นจากัวร์ เสริมความสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยปลายท่อไอเสียคู่ที่กันชนหลัง และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
E-Pace ถูกออกแบบให้เป็นรถขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักเบา มิติตัวรถยาว 4,395 มม. กว้าง 2088 มม. สูง 1649 มม. ความยาวช่วงจากล้อถึงปลายกันชนหน้าและหลังคือ 882 มม. และ 832 มม. ตามลำดับ ด้วยระยะล้อที่มีมากถึง 2,681 มม. ทำให้ภายในห้องโดยสารสามารถรองรับได้สูงสุด 5 ที่นั่งมีความกว้างขวางสะดวกสบายด้วยพื้นที่วางขาถึง 892 มม. ห้องเก็บสัมภาระมีความจุ 577 ลิตร
โครงสร้างตัวถังแบบใหม่ถูกพัฒนาเพื่อให้ E-Pace มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้นอีกทั้งเพื่อให้มีความแข็งแกร่งรองรับสมรรถนะการขับขี่ในทุกสภาพพื้นผิวถนน ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอินทิกรัลลิงค์ที่วิศวรกรของจากัวร์ออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวลสะดวกสบาย ด้วยความแข็งแกร่งของตัวถังทำให้สามารถต่อพ่วงอุปกรณ์อื่นๆ เข้ากับตัวรถได้น้ำหนักสูงสุดถึง 1,800 กิโลกรัม ตอบโจทย์ได้ในทุกไลฟ์สไตล์ทั้งเวลาทำงานและเวลาพักผ่อนของเจ้าของรถ
ภายในสายพันธุ์สปอร์ต
ภายในของ E-Pace แสดงให้เห็นถึงสายพันธุ์สปอร์ตของจากัวร์ F-Type ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นคันเกียร์สไตล์จอยสติ๊ก แผงคอนโซลหน้า แผงประตู และเบาะนั่งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความสปอร์ตในทุกลมหายใจ
มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ เครื่องปรับอากาศ 2 โซน เบาะหนังคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมฟังก์ชันจดจำตำแหน่ง พวงมาลัยหุ่มหนังดีไซน์สปอร์ต หน้าปัดดิจิตอล Partial Virtual ระบบประตูท้ายไฟฟ้าเปิด-ปิดไม่ต้องใช้มือ และสะดวกสบายขั้นสุดด้วยระบบกุญแจ Jaguar Smart Key System
ด้านระบบสาระบันเทิงเป็นหน้าจอสัมผัส Touch Pro ขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบนำทาง และมาพร้อมชุดเครื่องเสียง Jaguar Sound System
ขุมพลังใต้ฝากระโปรง
E-Pace มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Ingenium 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายใน 10.5 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 193 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง 5.6 ลิตร/100กม. หรือราว 17.8 กม./ลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 147 กรัม/กม.
นับเป็นครั้งแรกของจากัวร์ ในการติดตั้งระบบขับเคลื่อน Active Driveline ให้กับ E-Pace การตั้งค่าอัจฉริยะนี้จะลดจุดบกพร่องระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ให้แรงบิดเต็มสมรรถนะและมีเสถียรภาพสูงสุดรวมทั้งให้ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้ดีที่สุดในทุกสภาวะ
ความปลอดภัย
อีกคุณสมบัติของ E-Pace คือเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ด้วยเซนเซอร์ช่วยจอดหน้า-หลัง โดยกล้องวิดีโอที่ตัวรถยังทำงานเชื่อมต่อกับระบบบังคับควบคุมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ลดจุดอับสายตาและลดความเสี่ยงในการเฉี่ยวชนจากด้านข้างเมื่อขับขี่บนถนนที่มีหลายเลน และยังมีถุงลมนิรภัยสำหรับคนเดินถนนในกรณีที่เกิดการชน ซึ่งติดตั้งอยู่ใต้ขอบของฝากระโปรงหน้า ทั้งหมดเป็นคุณสมบัติและอุปกรณ์มาตรฐานที่มีอยู่ใน E-Pace ทุกคัน
นอกจากนี้ E-Pace ยังมาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบเสริมแรงเบรก EBA และระบบควบคุมการทรงตัว DSC พร้อมด้วย Trace DSC Mode
Jaguar E-Pace มาในราคาค่าตัว 3,600,000 บาท พิเศษในช่วงแนะนำ 3,500,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่วันนี้ – 8 เม.ย 2561 หรือในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.jaguar.co.th หรือ www.facebook.com/jaguarlandroverthailand/