มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถยนต์อเนกประสงค์แบบเอ็มพีวี นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคมปี พ.ศ. 2561 โดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ทุกรุ่นมียอดจำหน่ายสะสมรวมกันแล้วมากกว่า 44,000 คัน พร้อมการันตีความสำเร็จด้วยการคว้ารางวัล ‘รถยอดเยี่ยมแห่งปีของประเทศไทย’ ในประเภท ‘รถอเนกประสงค์ เอ็มพีวี เครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,600 ซีซี ยอดเยี่ยม’ เป็นระยะเวลา 4 ปีติดต่อกัน มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ จึงถือเป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านการออกแบบและความทันสมัย ซึ่งเหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการรถยนต์ที่มีความอเนกประสงค์ มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ มีความทนทาน ปลอดภัย สะดวกสบาย พร้อมด้วยสมรรถนะการใช้งานในแบบรถเอสยูวี
การยกระดับดีไซน์ภายนอกแบบ SUV
- ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Advanced Dynamic Shield ที่บ่งบอกถึงพละกำลังและความมั่นใจ
- ด้านหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมติดตั้งกันชนท้ายและแผ่นกันกระแทกแบบใหม่ ดีไซน์แบบ 3 มิติ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่
- ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว ที่แสดงถึงความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่น
- ไฟหน้าใหม่รูปทรง T-Shape และไฟหรี่ LED แบบคริสตัล
- ไฟท้ายดีไซน์รูปตัว T แบบ LED-illumination Tube ติดตั้งทั้งอยู่กับตัวรถ
- เหนือระดับยิ่งขึ้นขนาดตัวถังรถมีดีไซน์ขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ด้วยความสูงจากพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 15 มม. จึงทำให้รถมีความสูงมากถึง 220 มม. ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่และพร้อมลุยทุกเส้นทาง
ประณีตเหนือระดับด้วยดีไซน์ภายในใหม่
- ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่แบบ Horizontal Axis ให้ความรู้สึกกว้างขวาง
- พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ทรงสปอร์ตและรูปแบบทรงพลัง กระชับมือมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะขับขี่ มาพร้อมสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง พร้อมปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์
- เบาะนั่งออกแบบใหม่มาที่มาพร้อมคุณสมบัติกันความร้อนหรือ Heat Guard
- ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่แบบสีทูโทน สีน้ำตาล-ดำ หรูหรายิ่งขึ้นด้วยด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์หุ้มเบาะนั่ง และมีการเย็บตะเข็บจริงสำหรับที่พักแขน และแผงประตูข้าง
- เพิ่มความสะดวกสบายด้วยช่องเก็บของสำหรับการใช้งานที่ง่ายดายยิ่งขึ้น เช่น ดีไซน์คอนโซลกลางใหม่ ที่มีถาดเก็บของแบบเปิดขนาดใหญ่ ที่พักแขนที่สามารถเก็บขวดน้ำขนาด 600 มิลลิลิตร
- สะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นด้วยช่อง USB 2 ช่องสำหรับเบาะแถวที่สอง แบบ Type-A และ Type-C พร้อมช่องจ่ายกระแส ไฟ DC ขนาด 12 โวลต์ บริเวณคอนโซลหน้าและเบาะนั่งแถวที่สาม พร้อมติดตั้งเพิ่มที่วางแก้วน้ำบนที่พักแขนเบาะแถวที่สอง
- ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล พร้อมฟังก์ชัน Max Cool และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วน
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลังแบบพับได้
ระบบสาระบันเทิง
หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9” พร้อมรองรับ Bluetooth, Apple CarPlay และ Android Auto เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างง่ายดาย (เฉพาะรุ่น GT)
เทคโนโลยีความปลอดภัยที่พร้อมปกป้องทุกเส้นทาง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- กล้องมองภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด * เฉพาะรุ่น GT
- Pedestrian Protection ด้วยเอกลักษณ์การออกแบบตัวถังด้านหน้าช่วยลดความรุนแรงจากแรงกระแทกของรถที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนนให้น้อยลง หากเกิดอุบัติเหตุ
- Rise Body ปลอดภัยสูงสุด ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัยเหล็กกล้า ที่ใช้เหล็กแรงดึงสูง (HIGH TENSILE STEEL) ช่วยลดการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- คานเหล็กนิรภัยบริเวณแผงประตู เพื่อลดแรงปะทะจากด้านข้างให้กับผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถมีความเร็ว (15 กม. / ชม.)
- ACTIVE STABILITY CONTROL (ASC) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในสภาวะที่รถเสียสมดุล เพื่อช่วยควบคุมกรณีที่เกิดการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง เช่น กรณีหลุดโค้งเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ถนนลื่นหรือหักหลบกะทันหัน
- TRACTION CONTROL SYSTEM (TCL) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ช่วยควบคุมการหมุนของล้ออย่างสมดุลในสภาวะถนนลื่น เพื่อไม่ให้รถสูญเสียการยึดเกาะถนน
- HILL START ASSIST (HSA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ช่วยป้องกันรถไหลเมื่อต้องออกตัวบนทางลาดชัน
- ANTI-LOCK BRAKING SYSTEM (ABS) ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก จะทำงานทันทีที่เหยียบเบรกกะทันหัน ช่วยให้คุณหักหลบสิ่งกีดขวางในขณะเหยียบเบรกได้อย่างทันท่วงที
- ELECTRONIC BRAKE FORCE DISTRIBUTION (EBD) ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ทำงานประสานกับระบบเบรก ABS เพื่อให้เกิดการกระจายแรงเบรก อย่างเหมาะสมทั้ง 4 ล้อ ช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลง
- BRAKE ASSIST (BA) ระบบเสริมแรงเบรกจะทำงานทันทีที่เหยียบเบรกกะทันหัน ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้การหยุดรถเป็นไปอย่างรวดเร็ว
- COMING HOME LIGHT ระบบไฟนําทางหลังดับเครื่องยนต์ เมื่อดึงก้านไฟเลี้ยว เข้าหาตัวภายใน 60 วินาที หลังดับเครื่องยนต์ ไฟหน้าจะอยู่ในตำแหน่ง ไฟต่ำ และทํางานเป็นเวลา 30 วินาที
- WELCOME LIGHT ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อก เมื่อกดปุ่มปลดล็อกบนกุญแจรีโมทไฟหรี่ และไฟท้ายจะทำงานเป็นเวลา 30 วินาที (ระบบจะทำงานเมื่อสวิตช์ ชุดไฟหน้าอยู่ในตำแหน่ง OFF)
- EMERGENCY STOP SIGNAL SYSTEM-ESS ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบจะทํางานเมื่อเบรกกะทันหัน เพื่อแจ้งเตือนรถที่อยู่ด้านหลัง
สมรรถนะการขับขี่ที่ “นุ่มนวลและสะดวกสบาย”
สัมผัสอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ที่มาพร้อมกับความประหยัดน้ำมันด้วยเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ด้านไอดี MIVEC (Mitsubishi Innovative Value Timing Electronic Control System) มาพร้อมช่วงล่างและระบบกันสะเทือนด้านล่างใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ ให้ความนุ่มนวล นั่งสบาย และยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเร่งแซงได้ดั่งใจ และราบรื่น ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่องรุ่นใหม่ Eco-dynamic CVT เมื่อเหยียบคันเร่ง ระบบฯ จะตอบสนองด้วยอัตราเร่งที่รวดเร็ว ทรงพลัง และราบรื่น และเมื่อเหยียบคันเร่งเพียงเล็กน้อย ผู้ขับขี่จะสามารถสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลที่เป็นเอกลักษณ์ของระบบฯ ดังกล่าว รวมทั้งการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยความประหยัดและความเงียบ อีกทั้งยังมีระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติพร้อมระบบ Brake Auto Hold ลดความเมื่อยล้า ไม่ต้องเหยียบเบรกค้างเมื่อเจอสภาพการจราจรติดขัด (เฉพาะรุ่น GT) ระบบกันสะเทือนแบบใหม่ โดยที่ด้านหน้ามีการติดตั้งเหล็กกันโคลงและเหล็กค้ำหัวโช้คเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและที่ด้านหลังมีการปรับเปลี่ยนขนาดของโช้คอัพให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มความนุ่มนวลทุกการขับขี่
ราคาและรุ่น New Mitsubishi Xpander ขยายความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด เพื่อชีวิตที่เหนือกว่าทุกข้อจำกัด ราคาเริ่มต้น 799,000 บาท