ทดสอบสมรรถนะ New Honda Accord e:HEV บนเส้นทางสายใต้จากจังหวัดภูเก็ต – พังงา – กระบี่ รวมระยะทาง ไป-กลับกว่า 270 กม.
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/1710079327890-1-1.jpg)
ภายนอก
ขนาดตัวรถที่ใหญ่ขึ้นและวีลเบสที่สั้นลง ช่วยให้มีการออกแบบภายนอกที่มีความสปอร์ตมากขึ้น โดยเน้นไปที่รูปทรงที่เพรียวยาวและหลังคาแบบลาดเอียง ซึ่งให้ความรู้สึกของรถยนต์แบบคูเป้ การใช้เส้นสายที่เฉียบคมผสมผสานกับมิติตัวถังที่สวยงาม พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายที่มีการออกแบบใหม่ ทำให้รถมีลุคที่ทันสมัยและสะกดทุกสายตา มิติตัวถังมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย โดยมีความยาว 4,971 มิลลิเมตร กว้าง 1,862 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,830 มิลลิเมตร ยาวกว่า G10 รุ่นที่ผ่านมา 71 มิลลิเมตร ล้ออัลลอย ขอบ 18 นิ้ว 235/45R18
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Exterior_019-1.jpg)
การออกแบบใหม่ทั้งคัน ภายใต้แนวคิด “Creative Black Tie” ที่สื่อถึงภาพลักษณ์ที่เป็นทางการ แต่ก็แฝงด้วยลูกเล่นที่สนุกสนาน สะท้อนถึงการออกแบบ แอคคอร์ด ใหม่ ให้มีเสน่ห์ น่าหลงใหล ลงตัวด้วยความเป็นสากลและความมีเอกลักษณ์ โดยเริ่มจากตัวถังที่มีความยาวเพิ่มขึ้น 68 มม. สันฝากระโปรงหน้าที่ลาดเอียงและยาวขึ้น ผสานกับตัวรถด้านหน้าที่ดูเฉียบคม แข็งแกร่ง เชื่อมต่อกับเส้นสายด้านข้างตัวรถที่ยังคงเอกลักษณ์การใช้เส้นสายแนวนอน เพื่อเน้นโครงสร้างตัวถังในคอนเซปต์ Low & Wide
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Exterior_001-1.jpg)
ส่วนหน้าใหม่พร้อมกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมคล้ายรถอเมริกันสวยงาม ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) ไฟท้าย LED แบบเชื่อมต่อกันทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวาดูลงตัว และเสาอากาศแบบครีบฉลาม
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/Event-Photos-001-1-1.jpg)
Accord e:HEV EL มีอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้นจากรุ่น E ดังนี้
ล้ออัลลอย ขนาด 18 x 8 นิ้ว สีทูโทน ยาง ขนาด 235/45 R18 กระจกมองข้างฝั่งซ้ายปรับลดมุมอัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง ภายในโทนสีดำล้วน ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Ambient Light ปรับได้ 7 สี สวิตช์ปรับพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า บริเวณด้านข้างเบาะ ระบบฟอกอากาศ PlasmaCluster กล้องมองภาพรอบทิศทาง Multi-view Camera System ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า Head-up Display ขนาด 11.5 นิ้ว
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Exterior_018-1.jpg)
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,993 ซีซี. ฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection จุดระเบิดแบบ Atkinson Cycle กำลังสูงสุด 147 แรงม้า (PS) ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 182 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที รองรับน้ำมันสูงสุด Gasohol E20 ความจุถังน้ำมัน 48.5 ลิตร
หลักการทำงานของเครื่องยนต์
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Permanent Magnet Electric Motor 2 ตัว ประกอบด้วยมอเตอร์ Generator และมอเตอร์ขับเคลื่อน พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion พละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร ที่ 0-2,000 รอบ/นาที (Civic e:HEV มอเตอร์ 184 แรงม้า 315 นิวตันเมตร) รวมพละกำลังสูงสุดทั้งระบบ 207 แรงม้า (PS)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_009-1.jpg)
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ทุกรุ่นย่อย ให้การตอบสนองที่ทันใจและทรงพลังด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวในระบบเกียร์ E-CVT ที่มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC มอบพลังการขับเคลื่อนที่ไร้กังวลในทุกเส้นทาง โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งสามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า กับสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ได้รับการพัฒนาโดยเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรก ในแอคคอร์ด
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_083-1.jpg)
มาพร้อมโหมดการขับขี่ Drive Mode 6 รูปแบบ ได้แก่
Econ / Normal / Sport / Individual / EV / Charge
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า อิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง อิสระ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบห้ามล้อ
ด้านหน้า จานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน (Ventilated Disc) ด้านหลัง จานเบรกแบบธรรมดา
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_082-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_109-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_131-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_144-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_126-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_128-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_143-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_141-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_150-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_136-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_136-2.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_133-1.jpg)
ภายในห้องโดยสาร
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย โดยได้รับการออกแบบเพื่อมอบทัศนวิสัยที่ดี โดยเน้นการส่งมอบคุณภาพระดับพรีเมียมภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ Comfort ที่เน้นให้ทุกองค์ประกอบเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวอย่างลงตัว เช่น แผงด้านหน้าและแผงประตู ที่เชื่อมต่อกันในแนวนอน Intelligence หรือการจัดวางฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น สะดวกสบาย เช่น การจัดการข้อมูลบนหน้าจอ Display Audio ที่มีขนาดใหญ่ให้อยู่ตรงกลาง และ Advance ความเรียบหรูล้ำสมัย เช่น การออกแบบบริเวณแผงคอนโซลกลาง หรือที่วางแขน ให้สะท้อนภาพลักษณ์ที่มีระดับของรถ ผสานด้วยการใช้ finishing ที่ให้ความหรูหรา ประณีต เสริมด้วยการใช้วัสดุบุนุ่มในจุดที่มีการสัมผัสบ่อย มอบความสะดวกสบายและผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร อีกทั้งโดดเด่นด้วยพื้นที่ช่วงขาและช่วงเข่า และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_015-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Exterior_037-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_110-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_070-1.jpg)
ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า กับปุ่ม Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ได้ ซึ่งจะแสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 ผู้ใช้งาน
ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งใน ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ เป็นครั้งแรก (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) โดยสามารถเลือกโหมดการเปลี่ยนสีของไฟได้ ดังนี้
o โหมด Recommended Color ไฟจะสามารถปรับเปลี่ยนสีได้โดยอัตโนมัติตามชุดสีที่เลือก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
o โหมด Theme Color ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับไฟสีที่ต้องการได้ โดยมีสีให้เลือก 10 เฉดสี
• ใหม่ ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย
• ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
• เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
• ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ
• ใหม่ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
• ใหม่ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card
(รุ่น e:HEV RS)
• ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
• ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_080-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_092-1.jpg)
การขับขี่
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ในทุกรุ่นย่อย
• ให้การตอบสนองที่ทันใจและทรงพลัง ด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว โดยระบบจะมอบสมดุลระหว่างสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง แรง ตอบสนองดั่งใจ มอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่เยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/1710079327890-1-2.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/1710079327867-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2023/12/IMG_20231110_183256.jpg)
• ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด (Intelligent Multi-mode drive) ประกอบไปด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) นอกจากนี้ ในขณะลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการลดความเร็วนั้นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ (Regeneration)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/1710079327826-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/TN102894-scaled-2.jpg)
• นอกจากนี้ แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ยังมาพร้อมสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามสไตล์ เพียงกดปุ่มที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ ได้แก่ ใหม่ โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ระบบ Adaptive cruise control และสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระ อีกทั้งโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และ โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Exterior_036-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Exterior_052-1.jpg)
ระบบความปลอดภัย
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ได้รับการพัฒนาใหม่เพื่อมอบประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ผสานการทำงานของกล้องมุมกว้างด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) โดยระบบยังสามารถปรับลักษณะการเร่งความเร็วได้ตามโหมด ACC ที่เลือก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกใน แอคคอร์ด ใหม่
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
• ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_025-1.jpg)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ
• สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า โดยมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกใน แอคคอร์ด ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน โดยการวิ่ง 1 นาทีที่ความเร็ว 100 กม./ชม. จะสามารถชาร์จไฟเพิ่ม เพื่อสามารถขับเคลื่อนด้วยระบบ EV เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มแรงขับเคลื่อนของ EV ในช่วงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ซึ่งเหมาะแก่การวิ่งในย่านชุมชน เพื่อยืดระยะของการวิ่งด้วย EV ให้ยาวนานขึ้น
• ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
• ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
• ใหม่ ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)
• ถุงลม 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และ ใหม่ ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
• เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
• ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
• ใหม่ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
• ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และ ใหม่ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง
• ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) และ ใหม่ รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)
• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_053-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_020-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_064-1.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/eHEV-EL_Interior_099-2.jpg)
ระบบสาระบันเทิง
เชื่อมต่ออันล้ำสมัย รองรับสมาร์ตไลฟ์สไตล์ ผสานผู้ใช้งานกับรถได้อย่างลงตัว
• ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ที่มาพร้อม Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google ได้แก่ Google Assistant, Google Maps และ Google Play
• ใหม่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
• ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 11.5 นิ้ว (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ซึ่งเป็นจอแบบ Full Graphic LCD ที่สามารถแสดงผลทั้งการทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ข้อมูลการขับขี่ และข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถ ในรูปแบบของกราฟิกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลการทำงานของ Maps ได้เต็มหน้าจออีกด้วย ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย แม้จะมีการทำงานของระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ก็ไม่รบกวนการนำทางบนหน้าจอ
• ใหม่ ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
• ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า กับฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ Over-The-Air (OTA) ช่วยให้ผู้ใช้รถไม่เพียงสามารถอัปเดตระบบ Infotainment แต่ยังสามารถอัปเดตการทำงานของ ECU จากทางไกลได้ ผ่านทางระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และผ่านทางแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน เพิ่มความสะดวกสบายโดยที่ไม่ต้องเข้าไปยังศูนย์บริการ
• ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ที่ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Key โดย ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงานที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ได้แก่
1. My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
2. Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และ บันทึกการเดินทาง ที่สามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ เป็นต้น
3. Wi-Fi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง
5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ด้วยการช่วยเหลือจากฟีเจอร์ Google built-in (Google Assistant, Google Maps และ Google Play)
*ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
4. Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
5. Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
6. Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อก และปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และสั่งการดับเครื่องยนต์
ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย และ ใหม่ สามารถสั่งการเปิดเสียงแตรรถยนต์ โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน
7. Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
8. Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผล
บนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
9. ใหม่ Light Collision Notification การแจ้งเตือนการชนเบา/ไม่รุนแรง ช่วยแจ้งเตือนและให้ความช่วยเหลือผู้ขับขี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
10. ใหม่ Navigation Data Wipe การล้างข้อมูลการนำทาง โดยสามารถล้างข้อมูลส่วนตัวที่ถูกบันทึกไว้ในรถ เช่น ข้อมูลเสียง ข้อมูลระบบนำทาง หรือ รีเซ็ตการตั้งค่าให้กลับไปเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
11. ใหม่ Recall notification การแจ้งเตือนและเรียกคืนผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาคุณภาพจากลูกค้า
12. ใหม่ Remote Immobilizer ระบบกุญแจนิรภัย IMMOBILIZER พร้อมสัญญาณกันขโมย ช่วยป้องกันรถถูกโจรกรรม และในกรณีที่รถถูกโจรกรรม สามารถระงับการสตาร์ตเครื่องยนต์และการเคลื่อนที่ของรถผ่านทางแอปพลิเคชันได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
13. ใหม่ Digital Key กุญแจอัจฉริยะ ช่วยอำนวยความสะดวกให้สามารถสั่งการต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Honda CONNECT บนสมาร์ตโฟนได้ เช่น ใช้สมาร์ตโฟนเป็นเสมือนกุญแจรถ โดยลูกค้าสามารถสั่งงานปลดล็อกประตูหรือสตาร์ตเครื่องยนต์ผ่านฟีเจอร์นี้ได้ แจ้งเตือนลูกค้าในกรณีลืมล็อกประตูและกำลังเดินออกห่างจากตัวรถ เป็นต้น
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/IMG_20231109_102910.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/IMG_20231109_152913.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/IMG_20231109_104902.jpg)
![](https://whatcar.co.th/wp-content/uploads/2024/03/1710079327955-1.jpg)
รุ่นและสี
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
• รุ่น e:HEV RS ราคา 1,799,000 บาท
• รุ่น e:HEV EL ราคา 1,669,000 บาท (คันทดสอบ)
• รุ่น e:HEV E ราคา 1,529,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) เสริมความมั่นใจในการใช้งานยิ่งขึ้น ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ด้าน e:HEV (e:HEV Expert) จากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ