มาสด้าเผยความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจปี 2561 ยอดขายพุ่งสูงสุดทะลุ 7 หมื่นคัน เติบโต 37% ทำลายทุกสถิติ มั่นใจปี 2562 ตลาดรถยนต์คึกคักกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีก 6 รุ่น พร้อมดีไซน์ใหม่ และเทคโนโลยี SKYACTIV-X ตั้งเป้ายอดขายปีนี้มากกว่า 75,000 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6.7%
ปี 2561 ที่ผ่านมา มาสด้ายังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ แต่จากความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อโปรดักซ์และกิจกรมทางการตลาดที่ทำมาอย่างต่อเนื่องตลอดปี ส่งผลให้มาสด้าทำยอดขายรวมทะลุ 70,475 คัน เติบโตขึ้นถึง 37% ส่งผลให้มาสด้าสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 6.7% ซึ่งถือเป็นส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดของมาสด้าทั่วโลก
ยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำปี 2561 มีรายละเอียดดังนี้
รถยนต์ | มกราคม – ธันวาคม 2560 | มกราคม – ธันวาคม 2561 | เปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลง |
Mazda 2 | 31,760 | 45,972 | + 45 |
Mazda 3 | 4,979 | 5,255 | + 6 |
Mazda CX-3 | 3,812 | 3,536 | – 7 |
Mazda CX-5 | 4,835 | 8,184 | + 69 |
Mazda BT-50 Pro | 5,939 | 7,498 | + 26 |
Mazda MX-5 | 30 | 30 | ไม่เปลี่ยนแปลง |
ยอดรวม | 51,355 | 70,475 | + 37 |
สำหรับแผนการพัฒนาธุรกิจของมาสด้าในปี 2562 คาดว่าตลาดรถยนต์จะทรงตัวหรือเติบโตขึ้นเล็กน้อย โดยประมาณการตัวเลขอยู่ที่ 1.03 – 1.06 ล้านคัน ส่วนยอดขายมาสด้ามองว่าปีนี้ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 75,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5 – 10% และส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 6.7%
ปีนี้ มาสด้าประกาศว่าจะเปิดตัวรถใหม่ 6 รุ่น ได้แก่ All-New Mazda 3 ที่จะมาพร้อมกับ Kodo Design เจนเนอเรชั่นที่ 2, Mazda CX-8 ครอสโอเวอร์รุ่นใหญ่ และรุ่นปรับโฉมอื่นๆ พร้อมกับการเผยโฉมเครื่องยนต์ SKYACTIV-X (แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะอยู่ในรถรุ่นไหนบ้าง)
ด้านการตลาด มาสด้าเน้นการพัฒนาการสื่อสารในทุกช่องทางโดยเฉพาะออนไลน์ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ปีนี้มาสด้าจะกำหนด Mazda Brand Style เพื่อให้เกิดการจดจำและสร้างการรับรู้ของแบรนด์ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนทั้งในส่วนของโลโก้ รูปแบบตัวอักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งการวางองค์ประกอบของภาพถ่าย และพื้นที่ในการจัดแสดงรถทั้งภายในโชว์รูมและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ มาสด้าจะทำการปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ให้มีความเป็นมิตรกับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น โดยจะได้เห็นกันในเร็วๆ นี้
ด้านการบริการหลังการขายจะดำเนินการทั้งปรับทั้งเปลี่ยนเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด โดยมาสด้ามีแผนที่จะขยายศูนย์ซ่อมสีและตัวถังทั่วประเทศจาก 21 เป็น 28 แห่งภายในปีนี้ ต่อมาคือเพิ่มประสิทธิภาพของช่องซ่อมให้รองรับได้สูงสุด 4 งานต่อ 1 วัน ปรับราคาอะไหล่ให้สามารถแข่งขันได้ การจัดส่งอะไหล่ต้องรวดเร็ว ปัจจุบันเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการจัดส่งอะไหล่ถึง 3 ครั้งต่อวัน ส่วนต่างจังหวัดจัดส่ง 1 ครั้ง ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งการปรับปรุงคุณภาพศูนย์บริการ การนัดหมาย ระยะเวลาเวลาในการซ่อม และประสิทธิภาพบุคลากรของผู้จำหน่ายต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
ด้านกิจกรรมส่งเสริมการขาย ปีนี้มาสด้ามุ่งเน้นเพิ่มปริมาณการจัดกิจกรรมบนโชว์รูม และกิจกรรมโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ ทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็น การจัดงานที่โชว์รูม ภายใต้ชื่องาน คือ “MAZDA NEXT EXPERIENCE” และการจัดงานที่ห้างสรรพสินค้า คือ “MAZDA SKYACTIV FESTIVAL” โดยกิจกรรมทั้งหมดจะจัดต่อเนื่องในเกือบทุกสัปดาห์ หมุนเวียนไปทั่วประเทศ
ปัจจุบันนี้มาสด้ามีโชว์รูมทั้งหมด 139 แห่ง จะขยายเพิ่มขึ้นอีก 5 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2561 มีการปรับปรุงโชว์รูมภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ไปแล้ว 81 แห่ง และจะเพิ่มขึ้นเป็น 115 แห่ง โดยจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปีงบประมาณ 2562
และทั่งหมดนี้คือความเคลื่อนไหวและยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของมาสด้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2562 มาติตตามกันต่อไปว่าในปีนี้ ค่าย Zoom-Zoom จะสร้างเซอร์ไพรส์อะไรอีกให้กับคนไทย