มาสด้าเปิดตัว CX-3 2018 Collection คอมแพ็คเอสยูวีดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม โดนใจด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยระดับโลก พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน
Mazda CX-3 2018 Collection เป็นการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ทั้งภายนอกและภายในให้ทันสมัย เพิ่มออปชันที่น่าสนใจเข้ามาหลายอย่าง มีการปรับอุปกรณ์ความปลอดภัยให้ครอบคลุมรุ่นล่างๆ มากขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงช่วงล่าง ระบบกันสะเทือน และการป้องการเสียงรบกวนให้กว่าเดิม
ปรับรูปโฉมภายนอก
ดีไซน์ภายนอกแบบ Kodo Design ถูกปรับปรุงใหม่ให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นในทุกมุมมอง โดยมีการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ให้ดูเฉียบคมและมีมิติมากขึ้น กรอบไฟตัดหมอกที่กันชนหน้าสีดำเงา แถบเส้นโครเมียมที่ชายล่างกันชนหน้า ด้านข้างมีการเพิ่มเส้นโครเมียมที่ชายล่างใต้ประตู และปรับเปลี่ยนเสากลางเป็นสีดำเงา ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่แบบวงแหวนประกอบกับเส้นแนวนอน โดดเด่นสวยงามยิ่งขึ้น มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวพร้อมยางขนาด 215/50R18
CX-3 ใหม่ มาพร้อมสีตัวถังใหม่ 2 สีได้แก่ สีแดง โซล เรด คริสตัล และสีเทา แมชชีน เกรย์ รวมกับสีเดิมอีก 5 สี ได้แก่ สีน้ำตาล ไทเทเนียม แฟลช, สีดำ เจ็ทแบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีขาว เซรามิก เมทัลลิค และสีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู
ออกแบบภายในอย่างประณีตบรรจง
ภายในของ CX-3 ใหม่ มาพร้อมความพิถีพิถันด้วยวัสดุเกรดพรีเมียม แดชบอร์ดหน้ามีการปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูเหมือนรถยุโรปพร้อมด้วยส่วนวงแหวนที่ล้อมรอบช่องแอร์สีแดงเข้ม ตกแต่งด้วยผ้า Grand Lude Suede ลักษณะคล้ายหนังกลับสีเทาพร้อมเดินตะเข็บด้วยด้ายสีเทา รวมทั้งแผงประตูด้วยเช่นกัน
คอนโซลกลางได้รับการออกแบบใหม่โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบเบรกมือไฟฟ้า เพิ่มพนักวางแขน ปุ่ม CENTER COMMANDER ได้ถูกย้ายตำแหน่งไปข้างหน้าเพื่อการใช้งานที่ลงตัวขึ้น ที่วางแก้วถูกย้ายตำแหน่งเพื่อการใช้งานที่ง่ายมากขึ้น รวมไปถึงช่องเก็บของแบบอเนกประสงค์ใต้พนักวางแขนที่ปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบสำหรับวางเครื่องดื่มและสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ รุ่น 2.0 SP และ 1.5 XDL จะได้หลังคาซันรูฟไฟฟ้า
มีการเพิ่มพนักวางแขนสำหรับเบาะหลังช่วยให้ผู้โดยสารนั่งได้อย่างมั่นคง และอยู่ในท่าที่สบาย ที่วางแก้วได้รับการออกแบบมาเพื่อวางกระป๋องน้ำอัดลมหรือแก้วน้ำที่มีขนาดหลากหลาย พนักพิงเบาะหลังสามารถพับลงได้ในอัตราส่วน 60:40
CX-3 ใหม่ เปลี่ยนจากคันเบรกมือแบบธรรมดาเป็นระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB) เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานเพียงแค่ดึงสวิตช์ พร้อมเพิ่มระบบ Auto Hold ช่วยให้รถหยุดอยู่กับที่หลังจากถอนเท้าออกจากแป้นเบรก ออกแบบเพื่อลดภาระของผู้ขับเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่รถเคลื่อนที่เพียงเล็กน้อยสลับกับหยุดนิ่ง เช่น เมื่อรอสัญญาณไฟจราจรหรือเคลื่อนตัวช้าๆ ในสภาวะรถติด ระบบนี้สามารถเปิด-ปิดด้วยสวิตช์บนคอนโซลกลาง ทั้งสองอย่างนี้มีเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
CX-3 ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบความบันเทิง MZD Connect หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธและการสั่งการด้วยเสียง ฟังก์ชันใช้งานมีหลากหลายรวมถึงระบบนำทาง Navigator นอกจากนี้ยังมีจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี้บนสกรีนใสเหนือพวงมาลัย
ขุมพลังเครื่องยนต์
CX-3 ใหม่ มีเครื่องยนต์ 2 ประเภทให้เลือกคือ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,500 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 204 นิวตันเมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที รองรับน้ำมัน E85 ทั้ง 2 เครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมโหมดแมนวล ขับเคลื่อนล้อหน้า
ระบบช่วงล่างได้รับการปรับแต่งอย่างดีเยี่ยม มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (GVC) ที่ช่วยทำให้ช่วงล่างทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงคอยล์สปริงที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ปรับใช้เหล็กกันโคลงด้านหน้าที่มีขนาดที่เหมาะสม และใช้แดมเปอร์ด้านหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูดซับแรงสั่นสะเทือน และช่วยให้ระบบช่วงล่างทำงานผสานกันได้ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบช่วงล่าง และยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพทั้งในการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลในการขับขี่ ยิ่งไปกว่านั้นการตอบสนองของพวงมาลัยในการเข้าโค้งยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการปรับปรุงคุณลักษณะในการควบคุมของระบบพวงมาลัยไฟฟ้า
ยางขนาด 215/50R18 ที่ได้พัฒนาขึ้นใหม่นี้จะช่วยซับแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนจากพื้นถนน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น
CX-3 ใหม่มีการปรับปรุงสมรรถนะด้าน NVH เพื่อเพิ่มความเงียบในห้องโดยสารโดยการเพิ่มความหนาของวัสดุประตูคู่หน้า-หลัง และกระจกของประตูท้าย รวมถึงการเพิ่มวัสดุซับเสียงบริเวณประตู ภายในห้องโดยสารนั้นได้เพิ่มวัสดุซับเสียงและลดเสียงสะท้อนบริเวณหลังคา และปรับให้เสียงปิดประตูมีความนุ่มนวลมากขึ้น
อุปกรณ์ความปลอดภัย
CX-3 ใหม่ ปรับปรุงเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าและตอบสนองการใช้งานได้มากขึ้น ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring – ABSM) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) จะถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
ในรุ่น 2.0 SP และ 1.5 XDL จะมาระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) แสดงพื้นที่รอบตัวรถผ่านจอแสดงผลกลางภายในรถ โดยการใช้กล้อง 4 ตัวที่ติดตั้งบริเวณด้านหน้า ด้านข้างซ้าย-ขวา และด้านหลังของตัวรถ เซนเซอร์กะระยะทั้งแปดจุดบริเวณกันชนหน้าและหลังจะช่วยตรวจจับระยะห่างจากสิ่งกีดขวาง และส่งเสียงสัญญาณเตือนเมื่อเข้าใกล้วัตถุนั้นมากเกินไป
ระบบจะแสดงภาพบริเวณด้านหน้าหรือด้านหลังรถโดยรอบจากมุมสูง โดยกล้องด้านหน้าและด้านหลังจะแสดงภาพเป็นมุมกว้างถึง 177 องศา เพื่อให้เห็นพื้นที่ในบริเวณที่กว้างมากขึ้น เช่นเดียวกับกล้องด้านข้างที่แสดงภาพเป็นมุมกว้าง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นล้อด้านหน้าของรถได้ หลังจากกล้องได้เปิดใช้งาน ภาพที่แสดงบนหน้าจอในแต่ละมุมมอง สามารถควบคุมได้จากหน้าจอสัมผัสหรือจากปุ่มควบคุม
นอกจากระบบแสดงภาพ 360 องศาแล้ว CX-3 ใหม่ยังคงเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ที่ประกอบด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลกหลายอย่าง อาทิ Mazda Radar Cruise Control (MRCC), Adaptive LED Headlamps (ALH), Lane Departure Warning System (LDWS), Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM), & Rear Cross Traffic Alert (RCTA), Driver Attention Alert (DAA) และ Smart Brake Support (SBS)
ราคารถยนต์
- รุ่น 2.0 E ราคา 879,000 บาท
- รุ่น 2.0 C ราคา 955,000 บาท
- รุ่น 2.0 S ราคา 1,029,000 บาท
- รุ่น 2.0 SP ราคา 1,083,000 บาท
- รุ่น 1.5 XDL ราคา 1,189,000 บาท (เครื่องดีเซล)
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th หรือ www.facebook.com/MazdaThailandOfficial
Gallery