Volkswagen Golf Mk8 มาแล้ว ทันสมัย ไฮเทคด้วยระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ พร้อมขุมพลัง Mild Hybrid

       Volkswagen เผยโฉม Golf เจนเนอเรชั่นที่ 8 ปฏิวัติดีไซน์ใหม่หมด โฉบเฉี่ยว ทันสมัย เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ นี่คือการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของผู้นำแห่งคลาส Family car

        45 ปีที่แล้ว Golf รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ 35 ล้านคันคือจำนวนยอดขายทั้งหมดตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวจนถึงรุ่นล่าสุด Golf เจนเนอเรชั่นที่ 8 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ เตรียมวางจำหน่ายปีหน้า เบื้องต้นมีเฉพาะตัวถัง 5 ประตูเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญคือมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ Mild Hybrid รุ่นใหม่ พ่วงด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลเต็มคันรถ

         Golf Mk8 ถูกเปิดตัวที่สำนักงานใหญ่ของ Volkswagen เมืองโวล์ฟสบวร์ก ประเทศเยอรมนี เรือนร่างภายนอกถูกออกแบบใหม่หมดแต่ยังคงเป็นดีไซน์ที่เราๆ คุ้นเคย แนวหลังคาต่ำลงเล็กน้อย ไฟหน้าใหม่ดีไซน์เพรียวบาง ข้างตัวรถมีเสา C-pillar ขนาดใหญ่ให้ความทะมัดทะแมง ไฟท้าย LED ใหม่มีความสวยงามทันสมัยสอดรับกับประตูท้ายอย่างลงตัว และที่เปลี่ยนไปจาก Golf รุ่นก่อนๆ คือชื่อ GOLF จะย้ายมาอยู่กึ่งกลางประตูใต้โลโก้ VW

         

        Golf Mk8 พัฒนาบน MQB Platform เวอร์ชั่นล่าสุด มิติตัวรถไม่ได้ใหญ่โตจากรุ่นก่นหน้ามากนัก ยาว 4,284 มม. กว้าง 1,789 มม. สูง 1,456 มม. ระยะฐานล้อ 2,636 มม. กันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท กันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ ทำงานร่วมกับระบบควบคุมโช๊คอัพแบบแปรผันและพวงมาลัยที่ได้รับการปรับอัตราทดใหม่ให้ตอบสนองดียิ่งขึ้น

         ภายในของ Golf Mk8 เป็นการปฏิวัติด้านดีไซน์ครั้งใหญ่ โดดเด่นด้วยหน้าจอปัดดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว จับคู่กับหน้าจอสัมผัสของระบบสาระบันเทิงที่กลางแดชบอร์ดขนาด 10 นิ้ว มี Head-up display เป็นออปชั่นเสริมให้เลือกติดตั้ง ระบบปรับอากาศสามารถปรับได้จากหน้าจอสัมผัสโดยตรง หรือใช้แถบเลื่อนใต้หน้าจอคอยควบคุมอุณหภูมิ ที่เพดานยังมีแผงควบคุมการเปิด-ปิดซันรูฟที่ใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วย

       

        ระบบสาระบันเทิงของ Golf Mk8 มีชื่อว่า MIB3 มันรองรับการสั่งการทั้งแบบสัมผัสและคำสั่งเสียง เชื่อมต่อกับ Amazon Alexa ได้ ระบบนี้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตถาวรผ่าน eSIM ทำให้สามารถฟังเพลงออนไลน์ได้ รวมถึงแสดงข้อมูลการจราจร และข้อมูลแหล่งช้อปปิ้ง

        ตำแหน่งของปุ่มกดต่างๆ ถูกปรับใหม่ หลายๆ ปุ่มรวมอยู่ด้วยกันในตำแหน่งที่สูงและใกล้กับพวงมาลัยมากขึ้น ทำให้ผู้ขับเข้าถึงการใช้งานได้ง่ายขึ้น บริเวณรอบตัวดูโล่งตามากขึ้น สวยขึ้น หรูขึ้น มีพื้นที่ใช้สอยที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ช่องแอร์ออกแบบใหม่ รวมถึงบนแดชบอร์ดมีไฟ Ambient light แล้ว ทั้งหมดทำให้บรรยากาศภายในรถดูพรีเมี่ยมกว่า Golf รุ่นก่อนหลายเท่าตัว

         Golf Mk8 รุ่นเริ่มต้นจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร TSI มีกำลัง 89 และ 109 แรงม้า สูงขึ้นมาหน่อยจะเป็นเครื่องเบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร TFSI มีกำลัง 129 และ 148 แรงม้า ทุกเครื่องยนต์ติดตั้งเกียร์ธรรมดาเป็นมาตรฐาน ฝั่งดีเซลมีรุ่น 2.0 ลิตร TDI 114 แรงม้า รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ

         ไฮไลท์อยู่ที่รหัส eTSI ที่เป็นเครื่องยนต์ Mild Hybrid ใช้สตาร์ทเตอร์/เจนเนอเรเตอร์ 48V กับแบตเตอรี่ 48V มาช่วยในการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งกำลังด้วยเกียร์ DSG 7 สปีด VW บอกว่าเครื่องยนต์ชุดนี้มีกำลังตั้งแต่ 109, 129 และ 148 แรงม้า ลดอัตราการกินน้ำมันลง 10% แถมยังเพิ่มอัตราเร่งและการตอบสนองได้ดีกว่าเครื่องเบนซินปกติ         

        Golf Mk8 ที่ทรงพลังที่สุดคือรุ่น GTE เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด เบนซิน 1.4 ลิตร TSI ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุดกว่า 241 แรงม้า แบตเตอรี่ความจุ 13kWh มากกว่า GTE รุ่นก่อนหน้าถึง 50% นอกจากนี้ VW จะนำเสนอรุ่นที่มีพลังรองลงมาคือ eHybrid PHEV 201 แรงม้า วางขายในบางตลาด (ไม่ใช่อังกฤษ) รวมถึงรุ่น TGI เครื่องใช้แก๊สจะมีวางขายในยุโรปบางประเทศ สำหรับเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วน e-Golf น่าจะตามมาไม่นานหลังจากนี้

        VW เน้นไปที่การอัพเกรดเทคโนโลยีใหม่ๆ เนื่องจากต้องการให้ Golf Mk8 เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีดิจิตอล มันจึงมาพร้อมกับระบบสุดล้ำมากมาย เช่น Travel Assist เป็นระบบช่วยขับกึ่งอัตโนมัติที่รวมความสามารถของ Adaptive Cruise Control เข้ากับระบบ Lane Assist เพื่อช่วย เร่ง เบรก รักษาระยะห่าง และช่วยให้รถอยู่กึ่งกลางเลน ที่ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.

         Golf Mk8 ยังเป็นรถรุ่นแรกของ VW ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Car2X ความสามารถของมันคือสามารถเชื่อมต่อรถยนต์เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ (เช่นไฟจราจร) ผ่าน Wi-Fi และสัญญาณ 4G หรือ 5G เพื่อแชร์ข้อมูลการจราจรและส่งสัญญาณเตือนไปยังรถอีกคันหนึ่ง

         Golf ใหม่ยังมาพร้อมกับระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจเจอยานพาหนะที่กำลังตรงเข้ามาหา ไฟหน้า LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีออปชั่นเสริมเป็นระบบไฟ IQ Light ที่บางส่วนของไฟหน้า Matrix LED จะดับเมื่อตรวจพบรถยนต์ที่กำลังขับสวนมา หรือเพื่อลดแสงสะท้อนจากป้ายจราจร ปรับมุมการส่องตามการหมุนพวงมาลัย และปรับการส่องสว่างในสภาพอากาศไม่ดี

         eSIM ของ Golf ใหม่ยังช่วยให้สามารถอัพเดตซอฟต์แวร์ของรถและของระบบสาระบันเทิงแบบไร้สายได้ ผู้ซื้อจะได้รับการสมัครสมาชิก We Connect Plus ที่มาพร้อมกับบริการออนไลน์มากมาย อาทิ ฟังเพลง การคำนวณเส้นทาง แจ้งสถานะรถยนต์ ข้อมูลการขับขี่ แผนที่ออนไลน์ และข้อมูลของสถานีชาร์จสำหรับรุ่น GTE นอกจากนี้ VW ก็ได้พัฒนาระบบกุญแจเคลื่อนที่แบบใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถควบคุมสั่งล็อก-ปลดล็อกรถได้ผ่านสมาร์ทโฟน

         Golf ใหม่จะมีทั้งหมด 4 ระดับตกแต่ง ประกอบด้วน S, SE, SEL และ R-Line รุ่นต่ำสุดจะมาพร้อมล้ออัลลอย 16 นิ้ว รุ่นสูงขึ้นมาจะได้ล้อ 17 นิ้ว, ไฟบรรยากาศในห้องโดยสาร, ท่อไอเสียโครเมี่ยม และภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ รุ่น R-Line จะมาพร้อมกันชนดีไซน์สปอร์ต ชิ้นส่วนตกแต่งใหม่ๆ และเบาะนั่งแบบสปอร์ต ออปชั่นเสริมอย่าง Adaptive cruise control, Light Assist และ Wi-Fi Hotspot ก็จะมีให้เลือกเช่นกัน

          Golf Mk8 มีกำหนดวางขายในอังกฤษช่วงต้นปีหน้า ราคายังไม่มีการประกาศออกมาแต่คาดว่าจะแพงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย ในส่วนของเวอร์ชั่น GTI และ GTD มีกำหนดจะตามออกมาช่วงปลายปีหน้า โดย GTI จะใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 241 แรงม้าที่ถูกอัพเกรดใหม่ ในส่วนของ Golf R จะตามมาในปี 2021 คู่กับ Golf R Plus ตัวท็อปพลัง 400 แรงม้า

Gallery

Exit mobile version