Twin Test – Kia Rio vs Skoda Fabia

         ลองจินตนาการย้อนกลับไป 30 ปีที่แล้วตอนคุณนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถขนาดเล็กเป็นส่วนมาก ซึ่งตอนนั้นรถไซส์เล็กย่อมมักมีเสียงรบกวนดัง ไม่ปลอดภัย อุปกรณ์ด้อยคุณภาพ และปล่อยมลพิษมากเป็นเรื่องปกติ

         ปัจจุบันรถขนาดเล็กได้พัฒนาอย่างมาก โดยเฉพาะกับ Kia Rio รุ่นล่าสุดที่พร้อมต่อสู้กับคู่แข่ง ซึ่งมันถูกสร้างบนพื้นฐานใหม่แล้วจับคู่กับเครื่องเบนซิน 1.0 ลิตร ทว่าสิ่งเหล่านี้จะดีพอจะเอาชนะรถคันอื่นหรือเปล่า…

         คำว่า “ดีที่สุด” ในที่นี้เราหมายถึง Skoda Fabia ยอดรถขนาดเล็กแห่งปี 2017 เพราะมันผสานทุกสิ่งอย่างไว้ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังเปล่งรัศมีไปได้อีกสองถึงสามปี ว่าแต่มันจะสามารถรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้หรือไม่?

การขับขี่เป็นอย่างไร?

         เราพอใจขุมพลังเบนซิน 1.2 ลิตร 89 แรงม้า ของ Fabia ที่แม้จะไม่ได้พุ่งแรงทันใจ แต่ก็เร่งจากรอบต่ำได้กระฉับกระเฉงรวมถึงการขับบนทางด่วน
ก็พุ่งไปได้แบบไม่อืดอาด ขณะที่เครื่อง 1.0 ลิตร ของ Rio มีกำลังม้ามากกว่าที่ 99 ตัว ซึ่งมีพลังแรงในรอบต่ำทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยเมื่อวิ่งในเมือง ยิ่งกว่านั้นการขับทางไกลก็จัดว่าแรงกว่าคู่แข่งชัดเจน

         รถทั้งคู่มีเกียร์ที่เปลี่ยนได้เบามือและแม่นยำช่วยให้การขับในเมืองผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม Fabia มีคลัชท์ที่นุ่มจนแทบไม่รู้สึกเมื่อเหยียบลงไป ขณะเดียวกันเมื่อขับบนทางด่วนรถทั้งสองที่ติดตั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ก็สามารถเร่งได้รวดเร็ว ส่วนเสียงยางบดถนนจะดังชัดเจนเมื่อขับทางไกล

         Rio โมเดลก่อนมีการขับขี่ที่ไม่น่าอภิรมย์ใจนัก ทว่าโมเดลล่าสุดก็ไม่ถึงกับแย่แต่ก็ยังไม่ลงตัวเท่าที่ควร กล่าวคือสมดุลช่วงล่างอาจทำให้คุณไม่ชอบใจมากกว่าจะสร้างรอยยิ้มบนใบหน้า

         อย่างไรก็ตามพวงมาลัยรถเกาหลีมีน้ำหนักเบาและคมเล็กน้อย ยิ่งเมื่อจับคู่กับพวงมาลัยขนาดเล็กก็ทำให้การเลี้ยงเข้าโค้งทำได้แม่นยำ ด้านเจ้า Fabia นั้นมีการตอบสนองดีกว่าด้วยความหนืดหน่วงและมีความมั่นคงเมื่อเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว

         นอกจากนี้รถทั้งสองคันมาพร้อมช่วงล่างนุ่มนวล ซึ่งหมายความว่ามันจะโยนตัวเมื่อเข้าโค้งแต่พวกมันก็ยังจัดว่ามั่นคงน่าพอใจ ขณะเดียวกันตอนขับในเมือง Fabia จะดูดซับแรงกระแทกรวมถึงเด้งกระดอนน้อยกว่า Rio ชัดเจน แต่ยังดีที่รถทั้งสองคันมีความมั่นคงขณะวิ่งทางไกล

ภายในเป็นอย่างไร?

         แม้ว่าจะเป็นรถขนาดเล็กแต่รถทั้งสองคันก็มีภายในที่ใหญ่โตนั่งสบาย โดยพื้นที่เหนือศีรษะมีเหลือเฟือทั้งคู่ แล้วถ้าผู้ขับขี่เลื่อนเบาะถอยหลังเยอะคนนั่งด้านหลังก็ยังมีที่วางขาเพียงพออยู่ดี ตามปกติถ้าคุณเป็นคนไซส์ทั่วไปการปรับหาตำแหน่งพวงมาลัยกับเบาะก็ควานหาความสบายได้ง่ายในทั้งคู่ แต่ Rio จะเหนือกว่าด้วยเบาะที่รองรับสรีระกระชับตัว รวมถึงการปรับท่าทางการขับขี่ที่หลากหลายกว่า

         เจ้ารถพวกนี้ตกแต่งแผงคอนโซลออกมามีระดับ ด้วยปุ่มกดและชิ้นส่วนต่างๆ ที่มองดูง่ายต่อการใช้ ซึ่งระบบสาระบันเทิงดีที่สุดตกเป็นของ Fabia ที่ให้จอสัมผัส 6.5 นิ้ว โดยการใช้งานทำได้ง่ายผ่านการกดเมนูขนาดใหญ่และจัดวางเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Apple CarPlay กับ Android Auto ไว
้ต่อกับสมาร์ทโฟนด้วย

         สำหรับรถเกาหลี Rio มอบจอสัมผัส 7 นิ้ว ในรุ่นสูงสุด ทว่าคันที่เราทดสอบมาพร้อมจอสัมผัส 5 นิ้ว แถมไม่สามารถอัพเกรดได้ แต่ยังดีที่ให้บลูทูธกับวิทยุดิจิตอลมา น่าเสียดายที่มันขาดระบบนำทางกับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน

         เมื่อมองไปด้านหน้าทัศนวิสัยของรถทั้งคู่จัดว่าใกล้เคียงกัน แต่ถ้าดูด้านหลัง Fabia จะมีกระจกบานใหญ่กว่า ถึงอย่างนั้น Rio ก็โต้กลับด้วยกล้องมองหลัง และเจ้าพวกนี้จะมีเซ็นเซอร์ถอยหลังเป็นมาตรฐาน

         ห้องโดยสารของ Rio กว้างขวางกว่า แล้วด้วยพื้นที่ด้านหลังที่กว้างก็ทำให้ผู้ใหญ่ 3 คนนั่งได้แต่เบียดกันเล็กน้อย ขณะที่ Fabia จะมีพื้นนูนขึ้นมาตรงห้องโดยสารด้านหลัง ซึ่งทำให้คนที่นั่งตรงเบาะกลางรู้สึกไม่สบาย

         ประเด็นห้องสัมภาระรถทั้งสองจัดว่ามอบพื้นที่มาใกล้เคียงกัน โดยสามารถยกของใส่เข้าไปได้ง่าย อีกทั้งยังพับเบาะหลังแบบ 60/40 ได้อีกต่างหาก แต่ Fabia เมื่อพับเบาะลงไปแล้วจะเอียงเล็กน้อย ไม่เหมือนของ Rio ที่พับลงไปแล้วพื้นที่ราบเรียบ

ค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไร?

         ถ้าคุณซื้อรถใช้ส่วนตัว Fabia จะช่วยให้จ่ายน้อยกว่าเมื่อผ่อนจ่ายแบบบอลลูนจำนวน 36 เดือน ด้วยการวางเงินดาวน์ 1,000 ปอนด์ (ราว 50,000 บาท) แล้วห้ามวิ่งเกิน 16,000 กม.ต่อปี นั่นทำให้คุณจ่ายต่อเดือน 70 ปอนด์ (ราว 3,500 บาท)

         ความต่างเกิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อผ่อนจ่าย Rio ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน คือแพงกว่าคู่แข่ง 15 ปอนด์ (ราว 750 บาท) ในขณะที่อัตราสิ้นเลืองน้ำมัน Rio ทำได้ดีกว่าช่วยให้ประหยัดเงินถึง 45 ปอนด์ (ราว 2,250 บาท) เมื่อวิ่งไปแล้ว 20,000 กม.

         นอกจากนี้ Rio ยังมอบความหรูหรากว่าเงินที่จ่ายไป ด้วยกระจกไฟฟ้าคู่หน้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างพับไฟฟ้า และที่วางแขนเบาะคู่หน้า ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมาเป็นของที่ต้องจ่ายเพิ่มใน Fabia ทั้งสิ้น อย่างไรก็ดีรถทั้งคู่มีพวงมาลัยหุ้มหนังกับเครื่องปรับอากาศให้มา

         สำหรับระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติกับถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งมีติดตั้งมากับรถทั้งสองคัน นอกจากนี้ Rio จะให้ระบบแจ้งเตือนรถในมุมอับมาด้วย ซึ่งระบบนี้ไม่มีใน Fabia แม้กระทั่งกับรายการอุปกรณ์เสริม ขณะที่เรื่องความปลอดภัย Rio ยังไม่ถูกทดสอบโดย Euro NCAP ส่วน Fabia ได้รับคะแนน 5 ดาวไปเรียบร้อย

สรุป

Skoda Fabia

Kia Rio

Exit mobile version