โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ประกาศจำหน่ายรถสปอร์ตในตำนาน Toyota GR Supra แล้วอย่างเป็นทางการด้วยราคาค่าตัว 4,999,000 บาท มีเพียงรุ่นย่อยเดียว ออปชั่นจัดเต็ม สาวกหายคิดถึงอย่างแน่นอน
Toyota GR Supra คือการกลับมาของรถสปอร์ตในตำนานหลังจากเจนเนอเรชั่นก่อนหน้ารหัส A80 ยุติการผลิตไปในปี 2002 หรือเมื่อ 17 ปีที่แล้ว Supra เจนเนอเรชั่นที่ 5 นี้มาพร้อมกับคำนิยามของความสมบูรณ์แบบทั้งสมรรถนะในการขับขี่ รวมไปถึงรูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตในทุกมิติ และถือเป็นรุ่นแรกที่ได้รับการพัฒนาพร้อมกับแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการโดย Toyota GAZOO Racing ซับแบรนด์รถแข่งมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกของโตโยต้า โดยทั้งหมดล้วนเป็นเป้าหมายที่ท้าทายในการพัฒนายนตรกรรม “ที่ดียิ่งกว่า” (Ever-Better Cars) ของโตโยต้า
Toyota GR Supra ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Condensed Extreme” ซึ่งเป็นการออกแบบที่มุ่งเน้นการจัดสรรองค์ประกอบและมิติต่างๆ ของตัวรถให้ส่งเสริมสมรรถนะอันโดดเด่นของรถสปอร์ต คำว่า “Condensed” สื่อถึงความสัมพันธ์ของส่วนประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความยาวตัวรถ ระยะฐานล้อ ไปจนถึงการวางตำแหน่งของล้อและยาง ส่วน “Extreme” สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างห้องโดยสาร (ตำแหน่งผู้ขับ) และระยะห่างระหว่างล้อที่ถูกขยายให้กว้าง และเมื่อเทียบกับ Belt line แนวสันด้านข้างตัวถังที่ถูกกดให้ต่ำและโป่งนูนออกมามากเป็นพิเศษ ทำให้ GR Supra มีความโดดเด่นกว่ารถสปอร์ตทั่วไป และการออกแบบด้วยแนวคิด Condensed Extreme นี้ ทำให้ Toyota GR Supra มีขนาดห้องโดยสารที่พอเหมาะ ลงตัวกับตำแหน่งตัวรถที่กดต่ำและหนักแน่น ส่งผลให้รถมีการบังคับควบคุมและมีเสถียรภาพในระดับสูง
มิติตัวถังของ Supra ยาว 4,379 มม. กว้าง 1,854 มม. สูง 1,294 มม. ระยะฐานล้อ 2,470 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 115 มม. น้ำหนักรถโดยประมาณ 1,540 กก. ถังน้ำมันจุ 52 ลิตร Supra ใหม่ (รหัส A90) ใช้แพลทฟอร์มร่วมกับ BMW Z4 (G29) และเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เกิดขึ้นจากข้อตกลงร่วมพัฒนารถสปอร์ตด้วยกัน
ดีไซน์ภายนอกออกแบบให้เน้นองค์ประกอบระหว่างล้อขนาดใหญ่กับช่วงล้อที่สั้นกระชับ ตำแหน่งของตัวรถที่ถูกกดให้ต่ำและกว้างมากเป็นพิเศษ อันมาจากห้องโดยสารขนาดพอเหมาะ รองรับด้วยระยะห่างระหว่างล้อซ้าย-ขวาที่ขยายกว้างออกมาอย่างเด่นชัด ส่วนหน้ารถที่ยาวและห้องโดยสารที่สั้น เสริมภาพลักษณ์ของรถยนต์สปอร์ตแบบหกสูบเรียง เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง
ติดตั้งไฟหน้า Adaptive LED แบบ 6 เลนส์พร้อมไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ แบบ LED และไฟตัดหมอก LED กันชนหน้ามีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ที่ชายล่างของกันชนเป็นสปลิตเตอร์สีดำเงาช่วยจัดการการไหลเวียนอากาศ
เส้นสายด้านข้างมีความโค้งมน เสา A-pillar สีดำทำให้ดูเหมือนว่าหลังคากำลังลอยตัวอยู่ กระจกมองข้างเป็นสีดำ เส้นบริเวณซุ้มล้อหลังแสดงถึงมัดกล้ามอย่างชัดเจน ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ยางหน้า 255/35 R19 ยางหลัง 275/35 R19
ท้ายรถมาพร้อมกับฝากระโปรงที่เป็นสปอยเลอร์แบบตูดเป็ดในตัว ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่สามเป็น LED ทั้งหมด กันชนท้ายแบบสปอร์ตพร้อมดิฟฟิวเซอร์ที่ชายล่าง รองรับกับท่อคู่อย่างสวยงามลงตัว ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นว่าหลังคาของ Supra มีความนูน แบบนี้เรียกว่าหลังคา Double Buฺbble ซึ่งให้ทั้งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นสวยงาม และช่วยในเรื่องอากาศพลศาสตร์ด้วย
ห้องโดยสารของ Supra มีรูปลักษณ์ตามแบบฉบับของรถสปอร์ต แดชบอร์ดสูงและกว้าง ตำแหน่งนั่งขับต่ำ คอนโซลกลางสูง คันเกียร์สั้นจับกระชับมือ มีความกะทัดรัดแต่จัดวางอุปกรณ์ต่างๆ โดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นหลัก ตกแต่งด้วยหนังและวัสดุซอฟต์ทัชสีดำ-แดง เบาะนั่งเป็นหนังแท้ผสม Alcantara เดินตะเข็บสีแดง ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มีตัวดันหลังปรับไฟฟ้าและระบบฮีตเตอร์ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมแพดเดิลชิฟท์และครูสคอนโทรล หน้าปัดดิจิตอลแบบ TFT มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า Head-up Display แบบสี ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
กลางแดชบอร์ดเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมการทำงานได้จากปุ่มหมุนที่คอนโซลกลาง มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งาน อาทิ วิทยุ FM/AM ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ รองรับการเชื่อมไร้สายด้วยบลูทูธ มีช่องต่อ USB และมีช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง ระบบเสียงเป็นของ JBL ลำโพง 12 ตัว
ออปชั่นอื่นๆ ได้แก่ เบรกมือไฟฟ้า ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ ระบบกุญแจสมาร์ทคีย์ ระบบ Sport Drive รวมถึงกระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
Toyota GR Supra ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 6 สูบเรียง DOHC 24 วาล์ว ความจุ 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบเดี่ยวแบบ Twin-scroll ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของ ZF อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.6 วินาที และเร่ง 80-120 กม./ชม. ได้ในเวลา 5 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปและระบบช่วงล่าง Adaptive Variable Suspension ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน กันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท กันสะเทือนหลังแบบมัลติลิ้งก์ ระบบเบกเป็นดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลังพร้อมคาลิเปอร์สีแดง
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานของ Supra จัดเต็มไม่แพ้รถบ้าน เริ่มตั้งแต่ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Collision System, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LDA with Steering Assist และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน DRCA แบบ All-Speed Range
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานอีกหลายรายการ อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BA, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitor, ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert, ระบบเตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitor System, ระบบเซ็นทรัลล็อคพร้อม Speed Auto Lock, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า – ด้านข้าง – ม่านนิรภัย – หัวเข่าคนขับ), สัญญาณเตือนกะระยะรอบคัน 12 ตำแหน่ง และสัญญาณไฟกระพริบเมื่อเบรกฉุกเฉิน
Toyota GR Supra วางขายเพียง 1 รุ่น คือรุ่น RZ ราคา 4,999,000 บาท สีตัวถังมีให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีเหลือง Lightning Yellow, สีแดง Prominence Red, สีเทา Ice Gray Metallic, สีขาว White Metallic, สีเงิน Silver Metallic, สีดำ Black Metallic และสีเทาด้าน Matte Storm Gray Metallic
สัมผัส Toyota GR Supra ตัวเป็นๆ ได้ที่งาน Motor Expo 2019 วันที่ 29 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2562 ณ อาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ติดตามข้อมูลข่าวสาร ศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่ www.toyota.co.th หรือ Facebook Toyota Motor Thailand
Gallery