Volkswagen Commercial Vehicles และ Volkswagen Passenger Cars มาพร้อม ID. Buzz ใหม่ และ ID Buzz Cargo หนึ่งในแนวคิดยานยนต์ที่ก้าวหน้าและยั่งยืนที่สุดในยุคปัจจุบัน ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ทั้งสองรุ่นได้ถ่ายทอดการออกแบบของหนึ่งในไอคอนยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่เดิมที่เคยผลิตรุ่น T1 ตั้งแต่ปี 1950 แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 2020 ซึ่ง ID. Buzz ผลิตและจัดส่งโดยปราศจากคาร์บอน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับรถ MPV และรถตู้ อีกทั้งใช้วัสดุรีไซเคิลที่มีเปอร์เซ็นต์สูงและไม่ใช้หนังแท้ในการตกแต่งภายในทำให้กลยุทธ์ความยั่งยืนของ Volkswagen Commercial Vehicles และ Volkswagen Passenger Cars เป็นจริงด้วย ID Buzz และ ID Buzz Cargo
การออกแบบ
ความยาวโดยรวมของตัวรถอยู่ที่ 4,712 มม. ความกว้าง 1,985 มม. มาพร้อมกับระยะฐานล้อที่ยาวมาก 2,988 มม. และมีความสูง 1,937-1,938 มม. (รุ่น 60-80/80x/RS) อีกทั้งมีรัศมีวงเลี้ยวที่ 11.1 ม. และสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd) 0.285-0.29
ด้านหน้ามีไฟหน้า LED ที่สว่างมากในรุ่นท็อปภายใต้ชื่อ ‘IQ.Light – LED matrix headlights’ ระหว่างไฟหน้ายังเป็นแถบ LED อีกด้วย รวมไปถึงมีโลโก้ VW ที่ใหญ่กว่าในรุ่นอื่นๆ ในปัจจุบันทั้งหมด นอกจากนี้ด้านหลัง ID. Buzz ยังแตกต่างจาก T6.1 ด้วยไฟท้ายแบบ LED ในแนวนอน แทนที่จะเป็นแนวตั้ง อีกทั้งเป็นครั้งแรกในรถยนต์ Volkswagen Commercial Vehicles ด้วยแถบไฟแบบ end-to-end
ภายใน
ภายในห้องโดยสารเป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีเลย์เอาต์ภายในที่เหมาะสมและใช้งานง่าย บวกกับการใช้พื้นที่ที่หลากหลายและกว้างขวางเป็นพิเศษ อกีทั้งยังมีบรรยากาศที่เหมือนเลานจ์และดูเป็นกันเอง ในรุ่นนี้สามารถจุผู้โดยสารได้ถึงห้าคนและมีพื้นที่มากมายสำหรับกระเป๋าเดินทาง (ความจุ 1,121 ลิตร ขึ้นไป ) หากพับเบาะแถวที่สองลง ความจุในการบรรทุกจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,205 ลิตร สำหรับประเภทที่นั่งมีแบบหกและเจ็ดที่นั่ง โดยที่นั่งด้านหน้าจะมี 3 ที่นั่ง (หรืออีก 2 ที่นั่ง) เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องสัมภาระ เบาะคนขับและคนนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบความจำ
ความปลอดภัย
- ระบบจดจำเส้นทางการเคลื่อนไหวขณะจอดรถ Memory Function สำหรับการจอดรถอัตโนมัติบนเส้นทางที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้
- ระบบแจ้งเตือนเหตุการณ์รอบด้าน Car2X คำเตือนและการแจ้งเตือนอันตรายในพื้นที่ใกล้เคียง
- ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติในทุกย่านความเร็ว Travel Assist อยู่ภายในขอบเขตของระบบ ‘Travel Assist with swarm data’ จะอำนวยความสะดวกในการขับไปข้างหน้าและด้านข้าง
- ระบบเปลี่ยนเลนขณะทำความเร็วบนทางหลวง Assisted lane-changing (ที่ 90 กม./ชม. ขึ้นไป)
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ Front Assist
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Traffic Alert
- ระบบบังคับควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Assist
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Side Assist
- ระบบนำรถเข้าจอดข้างทางเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน Emergency Assist
เครื่องยนต์
ID. Buzz และ ID Buzz Cargo จะออกสู่ตลาดในประเทศยุโรปไม่กี่ประเทศแรกในฤดูใบไม้ร่วงนี้ การขายล่วงหน้ามีกำหนดจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม รุ่นยุโรปจะออกสู่ตลาดด้วยแบตเตอรี่ 77 kWh (ปริมาณพลังงานรวม 82 kWh) ให้กระแสไฟแก่มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง กำลังชาร์จเมื่อใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) คือ 11 กิโลวัตต์ ผ่านขั้วต่อปลั๊ก CCS ที่สถานีชาร์จ DC ด่วน (กระแสตรง) กำลังการชาร์จจะเพิ่มขึ้นมากถึง 170 กิโลวัตต์ เมื่อชาร์จด้วยวิธีนี้ ระดับการชาร์จแบตเตอรี่จะเพิ่มขึ้นจาก 5 เป็น 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที เช่นเดียวกับทุกรุ่นของ ID ของ Volkswagen ซึ่ง ID Buzz และ ID Buzz Cargo มีพื้นฐานทางเทคนิคจาก Modular Electric Drive Kit (MEB) ของกลุ่ม
ราคาและรุ่น
ID. Buzz เปิดให้ออเดอร์ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2022 นี้ และพร้อมส่งมอบในฤดูใบไม้ร่วง โดยจะมีสีภายนอกแบบโมโนโทน 7 สี ได้แก่ ‘Candy White’ ‘Mono Silver’, ‘Lime Yellow’, ‘Starlight Blue’, ‘Energetic Orange’ and ‘Bay Leaf Green’ และ ‘Deep Black’ นอกจากนี้ยังมีสีทูโทน 4 สี ได้แก่ ‘Candy White’ in combination with ‘Lime Yellow’, ‘Starlight Blue’, ‘Energetic Orange’ or ‘Bay Leaf Green’
ในขณะที่ตลาดอเมริกาและแคนาดาจะใช้ชื่อว่า microbus โดยจะมาพร้อมกับเวอร์ชั่นฐานล้อยาว ซึ่งจะเพิ่มความยาวถึง 3 นิ้ว แต่ก็ต้องรอจนถึงปี 2024 ตามหลังการเปิดตัวก่อนหน้าในปี 2023 สำหรับตลาดยุโรป