Road Trip เส้นทางสู่ราชบุรีกับนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ เอสยูวีระดับพรีเมียม

ชวนเปิดประสบการณ์ “ลุยได้ทุกที่” ทดสอบความแกร่งบนเส้นทางสู่ราชบุรีกับนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ เอสยูวีระดับพรีเมียม

Overview Of Car

นิสสัน ประเทศไทย จัดทริปการทดสอบขับขี่ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่สำหรับสื่อมวลชนเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน เปิดประสบการณ์ผจญภัยแบบออฟโรดสู่จังหวัดราชบุรี การทดสอบระยะเวลา 2 วัน ครอบคลุมระยะทางทั้งหมด 433 กิโลเมตร

นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ตอบสนองได้ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวแบบลุย ๆ หรือการพักผ่อนสั้น ๆ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่กำลังได้รับความนิยม ในการจัดทริปสั้น ๆ สำหรับเพื่อนซี้ในช่วงสถานการณ์ที่ต้องการคลายเครียดเราจึงไม่พลาดที่จะไปสัมผัสประสบการณ์ลุย ๆ ที่จะพาเราสนุกพร้อมกับทดสอบความแกร่งของ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่

      จุดเริ่มต้น ออกเดินทางที่ร้าน Mellow Garden Restaurant & Bakery ร้านอาหารที่ร่มรื่นไปด้วยบรรยากาศของธรรมชาติ เหมาะแก่การเริ่มต้นการเดินทางตลอดทริปสู่จังหวัดราชบุรี ระหว่างทางแวะพักรับประทานอาหารว่างและเครื่องดื่มที่ร้านเมมโมรี่ เฮ้าส์ คาเฟ่ คาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ติดแม่น้ำท่าจีน เป็นคาเฟ่ที่ให้ความอบอุ่นเหมาะแก่การเก็บไว้ในความทรงจำดั่งชื่อ เมมโมรี่ เฮ้าส์ คาเฟ่ หากมาพร้อมครอบครัวก็สุขใจ มากับเพื่อนก็หรือคนรักก็อุ่นใจ สมกับการเป็นสถานที่พักแวะทานของว่างเพราะทุกคนจะได้ทิ้งความทุกข์มาสุขกายและใจที่สถานที่แห่งความทรงจำ หลังจากแวะเก็บความทรงจำแล้วเราออกเดินทางกันต่อ

        เมื่อเดินทางมาถึงเวลาเที่ยงก็แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน IDin the river cafe and bar ร้านอาหารอีกแห่งที่สร้างความประทับใจในการมาราชบุรีครั้งนี้ ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดนี้ โดยที่ร้านนี้ใช้พื้นที่ริมน้ำได้อย่างเหมาะสมมีการดีไซน์ที่สวยงามทำให้ได้บรรยายที่สุดแสนที่สบายกายสบายใจ เราแวะกันช่วงเที่ยงอากาศกำลังร้อนแต่ที่นี่มีโซนห้องแอร์ให้เราได้หลบร้อนช่วงกลางวันตอบโจทย์การแวะมาครั้งนี้มาก ที่แห่งนี้จึงควรเป็นอีกทีที่ต้องมาเช็คอิน

       หลังจากนั้นลุยกันยาว ๆ เพื่อสัมผัสหลากหลายประสบการณ์แบบออฟโรดพร้อมชมวิวทิวทัศน์อันงดงามตระการตาตลอดชายแดนประเทศเมียนมา ต่อมาเราได้เริ่มทำกิจกรรม “นิสสัน เทอร่า เรคคอร์ด มิชชั่น”เราได้แวะร้านกระท่อม อินทา คาเฟ่ และไปต่อกันที่ “แกรนด์แคนยอน ราชบุรี” สถานที่ท่องเที่ยวที่คล้ายดวงจันทร์ที่มีทะเลสาบซ่อนอยู่ตรงกลาง และสุดท้ายก่อนจบวันได้ไปที่ร้านโคโรฟิลด์ ฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกในเมืองไทยที่สวนผึ้ง มีการตกแต่งแบบเรียบง่ายเหมาะกับการมาพักผ่อนอีกแห่งหนึ่ง และไม่ว่าคุณจะมากับครอบครัวหรือเพื่อนซี้ไม่ต้องกลัวเบื่อกันเลยทีเดียวเพราะว่าร้านโคโรฟิลด์มีกิจกรรมให้คุณทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเก็บผักผลไม้ หรือแม้กระทั่งการปลูกผักและสามารถเดินถ่ายรูปเล่นได้อย่างสบายใจ ซึ่งที่นี่ทำการปฏิวัติการเกษตรรูปแบบเก่าสู่การเป็นไลฟ์สไตล์การเกษตรแบบใหม่เพื่อให้ตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่

         ในช่วงเย็นกลุ่มสื่อมวลชนผู้ร่วมทริปได้ตั้งแคมป์พักแรมที่จุดชมวิว “The Camping Field” อันแสนตื่นตา นอกจากนี้ เทอร์ร่า ยังสามารถช่วยเสริมสร้างบรรยากาศรับประทานอาหารเย็นแบบกลางแจ้งอิ่มอร่อยในธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร

ภายนอกและภายในสไตล์พรีเมียม

      ในระหว่างการแวะพักแต่ละที่ทำให้เราได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ว่าเป็นเอสยูวีระดับพรีเมียมที่เข้มโดดเด่นในลุคใหม่เพราะมาพร้อมกับลุคใหม่ของกระจังหน้า V-MOTION ที่โดดเด่นเหนือระดับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของนิสสัน พร้อมแผงกันกระแทกสีซิลเวอร์ ไฟท้าย LED ดีไซน์โมเดิร์นให้ดูโฉบเฉี่ยวและเพิ่มความสว่างชัดให้มากขึ้นด้วยไฟ QUAD-EYE LED สไตล์พรีเมียม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์พร้อม DAYTIME RUNNING LIGHT และด้วยความที่เป็นรถสายลุยที่จะพาคุณลุยไปได้ทุกที่จึงมากับล้ออัลลอย 18 นิ้ว ให้ความแกร่งอย่างมีสไตล์บ่งบอกความเป็นตัวคุณ นอกจากนี้ดีไซน์ด้านหลังใหม่หมด เสริมกันชนท้ายให้ยิ่งโดดเด่น เท่ สปอร์ต สะกดทุกสายตา 

      เมื่อเปิดประตูและก้าวเข้ามาห้องโดยสารสิ่งที่เราสัมผัสได้เลยคือห้องโดยสารที่กว้างขวางได้รับการปรับปรุงและปรับแต่งใหม่โดยสมบูรณ์ มาพร้อมกับเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ รูปทรงเบาะด้านหลังแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้ร่วมเดินทางทุกคนรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง อีกทั้งยังสามารถปรับได้ตามต้องการด้วยการออกแบบพิเศษที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 ให้ปรับรูปแบบได้หลากหลาย เช่น ปรับเป็นที่นอนแสนสบายหรือจะติดตั้งเต็นท์บนหลังคาที่จะเติมเต็มประสบการณ์ให้กับทริปเดินทางแบบ “เพื่อนซี้” ด้วยความเร้าใจและสะดวกสบาย ซึ่งเมื่อถึงที่พักเรายังไม่ได้อยากลงจากรถจึงได้ปรับเบาะนอนเล่นอยู่บนรถสักพักบอกได้เลยว่าสบายมาก ๆ ถ้ามีครอบครัวแล้วได้พาไปเที่ยวรถคันนี้คงตอบโจทย์เป็นอย่างมากและในทริปนี้มีเป็นการตั้งแคมป์ซึ่งเราได้เห็นการติดตั้งเต็นท์บนหลังคาแน่นอนว่ามันช่างเหมาะกับรถคันนี้เป็นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีระบบพับเบาะอัตโนมัติที่สามารถพับเบาะได้เพียงปลายนิ้วด้วยระบบ Auto Tumble Seat แค่กดปุ่มควบคุมบนคอนโซลกลางเบาะที่นั่งแถวสองจะพับลงอัตโนมัติโดยผู้ขับไม่ต้องลงไปพับด้วยมือ ทำให้การมาทริปครั้งนี้สะดวกเป็นที่สุดเราสามารถขนของขึ้นได้อย่างง่ายดายโดยม่ต้องออกแรงพับเบาะเอง

      ภายในห้องโดยสารยังเรียบหรูโดดเด่นด้วยภายในสีทูโทนพร้อมกระจกตอนหน้าและกระจกประตูคู่หน้าแบบ Acoustic Glass ที่ลดเสียงรบกวนจากภายนอกซึ่งถ้ามีเด็กเล็กคุณไม่ต้องกลัวเขาตื่นขณะหลับอยู่บนรถเลย รถคันนี้ออกแบบให้ผู้โดยสารทุกคนเพลิดเพลินได้จากทุกที่นั่งและเพิ่มคุณภาพของระบบเสียงในห้องโดยสารให้น่าประทับใจ ทั้งยังมีเทคโนโลยีชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charging) ที่ไม่ว่าคุณจะแบตเตอรี่หมดก็ไร้ปัญหากับการพกสายชาร์จและสิ่งที่จะทำให้โดนใจเราเลยคือที่นั่งแบบเธียเตอร์ (Theatre Style Seating) ที่เปิดมุมมองให้โปร่งโล่งสบายได้จากทุกที่นั่ง

      ยังไม่หมดสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือหน้าจออัจฉริยะแสดงข้อมูลขับขี่แบบ 3 มิติ ที่สามารถเลือกแสดงข้อมูลสำคัญของการขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น แสดงข้อมูลมุมเอียงในแนวตั้งและแนวราบขณะขับขี่ออฟโรด กำลังการขับเคลื่อนในล้อทั้งสี่ แรงดันลมยางอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยแสดงแบบ 3 มิติ บนหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว ที่จัดวางในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนและยังมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-shape ที่จะทำให้การจับพวงมาลัยถนัดมือมากขึ้น

สเปครถยนต์

สมรรถนะยอดเยี่ยม

การผจญภัยครั้งนี้เราได้ลองขับทั้งทางออนโรดและแบบออฟโรดซึ่งไม่ว่าจะทางไหนเราก็สามารถขับได้อย่างสบายเพราะนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ แกร่งทั้งคันและมั่นใจได้ด้วยโครงสร้างแชสซีส์แกร่งเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคันพร้อมเพิ่มระยะต่ำสุดของรถจากพื้น (Ground Clearance) ผสานลงตัวด้วยระบบช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิ้งค์ (5 ลิ้งค์) ให้การทรงตัวที่ดีเยี่ยมสมบูรณ์แบบบนท้องถนนทุกสภาวะ พร้อมลุยทุกเส้นทางทั้งออนและออฟโรดและมีคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลงและระบบเบรกใหม่พร้อมดิสก์เบรกขนาดใหญ่หน้าหลังทั้ง 4 ล้อ ตอบสนองต่อการเบรกได้อย่างดีเยี่ยมให้คุณมั่นใจแม้เบรกที่ความเร็วสูงหรือเบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน

        เส้นทางไหนก็ไม่สามารถต้านทานความแกร่งของนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ได้ด้วยระบบ Shift-on-the-fly 4WD เปลี่ยนการขับขี่ 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ ได้ทันทีขณะรถวิ่งไม่เกิน 100 กม./ชม. พร้อมโหมด 4 ล้อ แบบความเร็วต่ำ (4LO) และระบบ Electronic Locking Rear Differential ช่วยกระจายกำลังไปยังล้อหลังทั้ง 2 ข้าง ช่วยเสริมกำลังฉุดให้ขับออกจากหลุมได้ง่ายขึ้น

       นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ คันนี้ได้พาเราท้ายทายทุกเส้นทางด้วยเครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร (Nm) พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด และโหมดแมนนวลรองรับทุกการเดินได้เต็มพลังโดยให้อัตราเร่งและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม เมื่อได้ขับในระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร เรารู้สึกว่ามันถึงใจแล้วคล่องตัวเป็นอย่างมาก เหยียบคันเร่งได้สนุกพร้อมโค้งในทุกโค้งได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังสะดวกต่อการบรรทุกของหนัก นิสสัน เทอร์ร่า ทุกคันสามารถรองรับกระเป๋าเดินทางสำหรับผู้ร่วมเดินทางจำนวน 3-5 คน มั่นใจด้วยความจุสัมภาระที่พร้อมต่อการไปตั้งแคมป์หรือขนอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับกิจกรรมการแจ้ง

สุนทรียภาพขณะเดินทาง

       การเดินทางไกลคงไม่พลาดการเปิดเพลงลิสต์โปรด เรามีเพลงลิสต์โปรดมากมายที่จะทำให้การเดินทางในครั้งนี้สนุกยิ่งขึ้น ซึ่งนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มีระบบเสียงพรีเมียมรอบทิศทางจาก Bose Premium Audio ช่วยยกระดับความบันเทิงทั่วห้องโดยสารให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับโลกแห่งความบันเทิงแบบออนไลน์ที่มาพร้อม จอ 11 นิ้ว (เชื่อมต่อผ่านช่อง HDMI หรือ Smart TV Stick)

     อีกทั้งเพื่อความสะดวกสบายตลอดการขับขี่ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มาพร้อมกับการเชื่อมต่อด้วย Apple CarPlay แบบไร้สาย (Wireless Apple CarPlay) และ Android Auto ที่รองรับการใช้แอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์ผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว และยังเข้าถึงเทคโนโลยีชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charging) Google Map บริการสตรีมมิ่งเพลงโปรดต่าง ๆ รวมถึง Digital Roadbook สำหรับเส้นทางพิเศษ เทคโนโลยีเชื่อมต่อของนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ทั้งยังช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกในการทำงานที่ไหนก็ได้หรือ Work from Anywhere ตลอดจนดื่มด่ำความบันเทิงอันยอดเยี่ยมในขณะขับรถท่องเที่ยวไปกับเหล่าเพื่อนสนิท

ความปลอดภัยของนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่

       วันที่สองกลุ่มผู้ร่วมทริปออกเดินทางแต่เช้าตรู่ขับรถไปยังจุดชมวิวห้วยคอกหมู ซึ่งเป็นจุดที่นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ จะได้แสดงความสามารถของเทคโนโลยีต่าง ๆ ในการไปยังจุดชมวิวห้วยคอกหมูนั้นเราได้ใช้การเทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) และเทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ผ่านระบบล็อคเฟืองท้าย 4WD-DIFF เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลขณะออกตัว ซึ่งนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มีเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) ที่ทำงานเมื่อเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและมาตรวัดแสดงโหมดออฟโรด (Off-road Meter) แสดงข้อมูลการขับขี่ในโหมดขับเคลื่อนต่างๆ รวมถึงบอกองศาความลาดเอียงของตัวรถ ขณะที่เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไถลเมื่อขับลงทางลาดชันสูงโดยใช้กำลังเครื่องยนต์ช่วยหน่วงความเร็วโดยไม่ต้องเหยียบเบรกช่วย ซึ่งช่วยเพิ่มมุมมองการขับขี่ให้คุณมั่นใจและปลอดภัยแม้ในทางที่ลำบากก็ช่วยให้คุณควบคุมรถด้วยประสิทธิภาพสูงสุด แต่ในเมื่อเราต้องการพิสูจน์ความแกร่งเราจึงไม่ได้ใช้โหมดออฟโรดเพื่อดูสมรรถนะว่าดุดันแค่ไหน โดยเมื่อเราลองขับโหมดปกติขึ้นเขาแล้วเรารู้สึกว่ามันไม่ได้แย่เลย มันสามารถใช้โหมดปกติเพื่อขึ้นเขาได้แต่เราไม่ได้ขับเร็วเพราะด้วยความที่เป็นเขาและอากาศแห้งทำให้มีฝุ่นเยอะจึงขับขึ้นไปช้า ๆ ด้วยความระวัง ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่านิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มีความสามารถมากในการเดินทางแบบผจญภัยแม้ไม่ได้ใช้โหมดออฟโรด แต่เราขอแนะนำว่าเมื่อต้องใช้เส้นทางแบบนี้เปลี่ยนเป็นโหมดออฟโรดจะดีกว่าเพราะเมื่อเราใช้โหมดนี้จะมีเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทางอย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า ซึ่งจะทำให้การเดินทางของเราง่ายยิ่งขึ้น

      นอกจากนี้นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ยังมีเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror) ที่จะเปลี่ยนมุมมองภาพจากกระจกมองหลังปกติเป็นภาพจากกล้องที่ติดตั้งบริเวณประตูหลังเพื่อมอบวิสัยทัศน์การขับขี่ที่ชัดเจน ไม่ว่าคุณจะเดินทางไกลในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยหรือเป็นเวลากลางคืนก็สามารถมั่นใจได้ว่าจะปลอดภัย รวมไปถึงฝาประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง (Auto Lift Gate) ช่วยให้กลุ่มผู้ร่วมทริปตั้ง “Coffee Camp” พักดื่มกาแฟได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายเพื่อเป็นการผ่อนคลายหลังจากการขับรถระยะไกลและดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ที่สวยงาม

สรุปความน่าใช้

       นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ได้รับการพัฒนาขึ้นจากความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ นั้นหมายความว่ารถคันนี้ตอบโจทย์เราในทุกการเดินทางไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือนอกเมืองรถคันนี้ก็จะพาเราไปถึงจุดหมายได้อย่างมั่นใจทั้งในเรื่องของสมรรถนะที่แกร่งจนมั่นใจในทุกเส้นทางและเรื่องของความปลอดภัยที่ให้มาอย่างครบครัน เราแนะนำเลยว่ารถคันนี้จะตอบโจทย์ทุกคนในยุคนี้อย่างแน่นอนด้วยการใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องการออกแบบภายนอกที่สร้างความสปอร์ตให้ดูเท่และภายในที่กว้างขวางทำให้ไม่ว่าครอบครัวเล็กหรือใหญ่ก็สามารถเดินทางได้อย่างสบายไม่อึดอัดหรือแย่งที่นั่งกัน รวมไปถึงความบันเทิงที่จะให้ความเพลิดเพลินในทุกการเดินทาง ทั้งระบบเสียงที่พรีเมียมขึ้นหรือการเชื่อมต่อความบันเทิงขึ้นที่จอด้านหลัง 11 นิ้ว ซึ่งคุณจะเดินทางไกลแค่ไหนก็ไม่มีเบื่อยิ่งหากมีเด็กเล็กแล้วด้วยนั้นความบันเทิงของรถคันนี้สร้างความพอใจให้คุณอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างไม่ว่าคุณผู้หญิงจะขนกระเป๋าเสื้อผ้าไปสัก 3-5 เพื่อไปเที่ยวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่หรือคุณผู้ชายจะขนของไปตั้งแคมป์กับเพื่อน ๆ ก็หมดห่วงรวมทั้งยังสามารถพับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้นไปอีก