Polestar 1 รถสมรรถนะสูงคันแรกจากแบรนด์

Polestar 1 คือรถ GT สมรรถนะสูงและสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย แทนที่จะใช้เครื่อง V8, V12 หรือ W12 ในการขับเคลื่อนล้อทั้งสี่ มันกลับใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ + มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวเพื่อสร้างความเร็วอันน่าเหลือเชื่อว่านี่คือรถปลั๊กอินไฮบริด

     ในโลกนี้ยังมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ ด้านรถยนต์ก็เช่นกัน เรารู้ว่ามันมีรถสมรรถนะสูงไม่กี่คันที่น่าครอบครองแต่หารู้ไม่ว่า ในวงการนี้มักมีเข็มซ่อนอยู่ในมหาสมุทร ซึ่งเราก็งมหามันจนเจอ  Polestar 1 โมเดลแรกของแบรนด์ทำรถสมรรถนะสูงจากสวีเดนคือแกรนด์ทัวร์เรอร์ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดสุดหรู 

     เร็วขนาดไหนหรอ? พละกำลังทั้งหมดของรถคือ 601 แรงม้า มันมากพอที่จะฉุดกระชากเรือนร่างหนัก 2,350 กก. ให้ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลา 4.2 วินาที ตอนนี้ ก่อนที่คุณจะโห่ร้องยินดีกับ Porsche Panamera Turbo S E-Hybrid ว่าเร็วกว่า คุณควรเข้าใจก่อนว่ารถสวีเดนที่งามสง่าคันนี้เป็นมากกว่าเจ้าแห่งความเร็ว คุณจะเห็นได้ว่า Polestar 1 ซีเรียสเกี่ยวกับการขับขี่อันไร้ซึ่งมลพิษมากแค่ไหน แบตเตอรี่ของมันมีความจุมากพอที่จะขับโหมดไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 125 กม. หรือมากกว่าระยะทางขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนของ Panamera ถึง 3 เท่า

     ในโหมด Pure ล้อหลังได้รับพลัง 229 แรงม้า กับแรงบิด 480 นิวตันเมตรจากมอเตอร์นั่นเพียงพอสำหรับการขับขี่และอัตราเร่งอันนุ่มนวลในการเร่งสู่ความเร็ว 160 กม. เสียบปลั๊กชาร์จแรงสูง 50kW เมื่อแบตเตอรี่หมดแล้วรถจะชาร์จเต็ม 100% ในเวลาน้องกว่า 1 ชม.

     เครื่องยนต์ของ Polestar 1 มีทั้งเทอร์โบและซูเปอร์ชาร์จ ผลิตกำลังได้ 305 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อหน้าจะช่วยเพิ่มพลังอีก 67 แรงม้าหรือช่วยสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างนุ่มนวลกว่าไดสตาร์ททั่วไป โหมด Hybrid จะปล่อยให้มอเตอร์ชุดนี้ทำงานตามต้องการ ขณะที่โหมด AWD และ Power มอเตอร์ตัวหน้าจะทำงานตลอดเวลาเพื่อเพิ่มกำลังและแรงยึดเกาะ

     คุณอาจสังเกตเห็นว่าเพลาหนึ่งได้รับกำลังมากกว่าอีกเพลาเล็กน้อย ส่งผลให้ยางหน้ามีอาการไม่นิ่งบนพื้นผิวลื่นที่ความเร็วต่ำและพวงมาลัยจะแกว่งเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้จะหายไปเมื่อความเร็วสูงขึ้น และวิธีที่รถพุ่งขึ้นจาก 50-100 กม./ชม. นั้นน่าประทับใจมาก

     โปรดทราบว่าเมื่อคุณขับด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนและต้องการที่จะเร่งความเร็วกะทันหัน เครื่องยนต์จะใช้เวลาสักครู่ในการติดเครื่องและเริ่มผลิตกำลัง มอเตอร์ทั้งหน้าและหลังยังช่วยในการเข้าโค้งด้วย ข้อดีอย่างหนึ่งของการมีมอเตอร์ที่ล้อหลังแต่ละข้างคือสามารถส่งกำลังไปยังล้อด้านนอกได้อีกเล็กน้อยเพื่อช่วยแก้ให้หน้ารถออกโค้งได้ง่ายขึ้น Polestar 1 ไม่คุมยากเหมือน Aston Martin DB11 แต่มันทำได้ดีเทียบเท่ารถไซส์เฮฟวี่เวทอย่าง Bentley Continental GT ในแง่ของความแม่นยำพวงมาลัยและฟีลลิ่งการเบรกถือว่าเชื่อใจได้

    แฮนด์ลิ่งที่ดีส่วนหนึ่งต้องขอบคุณโช๊คอัพ Ohlins ซึ่งทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการควบคุมให้รถเข้าร่องเข้ารอย ช่วงล่างที่แน่นเฟิร์มคือผลลัพธ์ของมัน แม้จะใส่ล้อ 21 นิ้ว ช่วงล่างชุดนี้ก็ยังเอาอยู่บนพื้นผิวที่ไม่เรียบ นอกจากนี้ เสียงรบกวนจากลมและเสียงถนนก็ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น เสียงเครื่องยนต์?ก็แทบไม่ได้ยินในขณะรถแล่น

     ภายในมีการออกแบบที่ดีและใช้วัสดุหรูหราเป็นส่วนประกอบมากมาย แต่แดชบอร์ดยกมาจาก Volvo ทั้งหมดซึ่งบางคนมองว่าน่าจะแตกต่างกันสักหน่อยจะดีกว่า พื้นที่เบาะหน้ากว้างขวางแต่เบาะหลัง 2 ที่นั่งเหมาะกับเด็ก (มี ISOFIX) หรือผู้ใหญ่ตัวเล็กมากกว่า ห้องเก็บสัมภาระเล็กกว่า Volkswagen Up ทัศนวิสัยการขับขี่ดีงาม และควรรู้ไว้ว่ารถรุ่นนี้มีเฉพาะรุ่นพวงมาลัยซ้ายเท่านั้น

   ‘ ข้อบกพร่องก็มี แต่ Polestar 1 นั้นมีสมรรถนะที่แข็งแกร่ง มีความคล่องตัวที่น่าประหลาดใจ และมีการบังคับควบคุมที่น่าทึ่ง หากคุณต้องการซื้อมันเป็นรถบริษัท ภาษี BIK ของมันต่ำกว่าคู่แข่งมาก ‘

Exit mobile version