Owner’s Favourite “เอ็ม เดอะ สตาร์”

เหตุผลโดนใจ ทำไมต้องใช้รถคันนี้ !!!

เมื่อร็อคเกอร์ขวัญใจมหาชนจากการประกวดค้นฟ้าคว้าดาวอย่างเอ็ม เดอะ สตาร์หรือ เอ็ม อรรถพล ประกอบของ ตัดสินใจใช้รถกระบะสายพันธุ์แกร่งอย่างเจ้า Ford Ranger เป็นยานพาหนะคู่ใจสำหรับการเดินทางไปทุกแห่งในทุกวัน อะไรกันคือเหตุผลโดนใจที่ทำให้นักร้องหนุ่มเลือดนักซิ่งเลือกใช้มันจนถูกใจและใช่เลย

OWNER’S PROFILE 

  • คุณอรรถพล ประกอบของ
  • อายุ 36 ปี
  • อาชีพ นักร้อง, พิธีกร, นักแข่งรถ
  • รถยนต์ที่ใช้ Ford Ranger

อีกด้านหนึ่ง ซึ่งก็นับเป็นความฝันของนักร้องหนุ่ม “เอ็ม อรรถพล” นั่นคือ การเป็นนักแข่งรถ เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยละเลยหรือโยนทิ้งให้สูญหายไปแต่อย่างใด

เมื่อปี พ.ศ. 2547 ผู้ชายผมยาวในลุคเซอร์ยืนอยู่ท่ามกลางประกายแสงระยิบระยับจากไฟสปอร์ตไลท์นับสิบ แฟลชจากกล้องดิจิตอลนับร้อย รวมไปถึงสายตาจากประชาชนนับล้าน แม้ว่าเขาผู้นั้นจะดูเหมือนดั่งคนหนุ่มมาดเหนียมอายที่ไม่ประสีประสากับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น หากทว่าทันทีที่สิ้นเสียงการประกาศของพิธีกรถึงผู้ชนะการประกวดร้องเพลงรายการที่ดังที่สุดรายการหนึ่งของประเทศไทย ชายหนุ่มผมยาวผู้ไม่ประสีประสา เขาคนนั้นหลุดพ้นพันธนาการจากความเหนียมอายก่อนหน้าแทบจะในทันที พร้อมแสดงความยินดีกับความฝันที่ตัวเองทำได้สำเร็จอย่างงดงาม

ย้อมกลับไปในวันนั้น วันที่ใครหลายคนยังคงไม่อาจลืมเลือนภาพดังกล่าวไปได้ จากเด็กหนุ่มแห่งเมืองเชียงใหม่ ผู้หลงใหลในดนตรีดั่งเช่นใครหลายคนในจำนวนประชากรมากมายของประเทศไทยแห่งนี้ หลังจากดั้งด้นเข้าสู่เมืองหลวงพร้อมกับความฝันที่แบกเอาไว้บนบ่า มาจนกระทั่งปัจจุบันที่ดำเนินไป ไม่มีใครคนไหนเลยที่จะไม่รู้จัก “เอ็ม เดอะ สตาร์” หรือ เอ็ม อรรถพล ประกอบของ ผู้ชนะเลิศการประกวดเวที เดอะ สตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ครั้งที่ 2 เมื่อราว 10 ปีก่อน

หลังจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในคราวนั้น ประมาณหนึ่งปีให้หลังจากที่อัลบั้มแรกเริ่มออกวางจำหน่าย เพลงของเขาก็กลายเป็นที่รู้จักมักคุ้นของคนไทยมากมาย ซึ่งด้วยสไตล์ร็อคที่กระแทกใจหลายคน ส่งผลให้เพลงอย่าง บอกรัก… เบาเบา, อย่าร้อนตัว, คนเบื้องหลัง ฯลฯ กลายเป็นที่ติดหูได้โดยง่าย จนทุกวันนี้อาจจะสามารถเรียกได้ว่า ไม่มีใครที่ไม่รู้จักหรือร้องไม่ได้กันเลยทีเดียว

ถึงอย่างนั้น  แม้ว่าในด้านหนึ่ง เอ็ม อรรถพล จะเป็นนักร้องดังที่ไปไหนมาไหนก็จะได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ ที่รายล้อม แต่อีกด้านหนึ่ง ซึ่งก็นับเป็นความฝันของเขาเช่นเดียวกัน นั่นคือ การเป็นนักแข่งรถนั้น ก็เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยละเลยหรือโยนทิ้งให้สูญหายไปแต่อย่างใด

ด้วยความที่ชื่นชอบในความเร็วมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งได้ลงสนามแข่งขันจริงในประเภทจิมคาน่า (Gymkhana) ช่วงเริ่มต้น มาวันนี้ร็อคเกอร์มาดเซอร์ขวัญใจมหาชนได้กลายมาเป็นนักดริฟท์มืออาชีพผู้กวาดรางวัลมามากมายเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนี่ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงความเอาจริงเอาจังของชายที่เต็มไปด้วยไฟมุ่งมั่นอย่าง “นักล่าฝัน” นามว่า เอ็ม อรรถพล ประกอบของ เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายอยู่สักหน่อยที่การสนทนากันระหว่างเรากับเขาในวันนี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อเจาะลึกเรื่องเรซซิ่งเหมือนอย่างที่ใครบางคนอาจตั้งเป้าหรือคาดหวัง หากแต่พระเอกในคอลัมน์ที่คุณกำลังอ่านอยู่กลับเป็น Ford Ranger ที่หนุ่มคนเหนือของเราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันต่างหาก

ลองคิดดูสิว่า ขนาดนักดริฟท์ฝีไม้ลายมือสุดแสนฉกาจที่การันตีด้วยรางวัลเยอะแยะยังใช้รถยนต์กระบะสายพันธุ์แกร่งจากแบรนด์อเมริกันคันนี้ แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้ “เอ็ม เดอะ สตาร์” หรือ เอ็ม อรรถพล ประกอบของ ผู้โด่งดัง ตัดสินใจเลือกใช้งานมันเป็นคู่หูประจำกายในการไปไหนมาไหนในทุกวันที่ผ่านเข้ามา 

เอาล่ะ… คุณจะได้รู้แล้ว เดี๋ยวนี้เลย

สมรรถนะเครื่องยนต์

“เครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตรของ Ford Ranger ถือว่าโอเค  โดยหากเทียบกับรถกระบะที่ทัดเทียมกันจัดว่าเป็นรถที่แรง และจากการที่ได้ไปเปลี่ยนล้อ แล้วก็เปลี่ยนโช๊คอัพด้วยอีก ก็ทำให้มันสามารถลุยได้ชนิดไร้ปัญหา

ทั้งนี้ เจ้ารถที่ผมใช้อยู่ พละกำลังโดยมาตรฐานแล้วจะอยู่ที่ 150 แรงม้า แต่จากที่ผมได้ไปโมดิฟายเพิ่มเติมขึ้นจนตอนนี้อยู่ที่ 200 แรงม้านั้น ก็ส่งผลให้การขับขี่ทั้งในเมือง-นอกเมืองตอบโจทย์  ขณะที่อัตราเร่งก็ดีมาก อีกทั้งระบบเกียร์อัตโนมัติก็ราบรื่นด้วย” 

การขับขี่และการควบคุมรถยนต์

“ถ้าเอาตามมาตรฐานเลยเนี่ย ช่วงล่างก็ดูโอเคดีนะ แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบดัดแปลง ผมก็ไปยกข้างหน้าให้สูงขึ้นอีก 1 นิ้ว โดยเน้นเป็นแบบสไตล์เดียวกับพวกขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งผลที่ได้รับต้องเรียกว่า รถดูหนึบหรือยึดเกาะถนนดีขึ้น

ด้านในประเด็นของการเข้าโค้งนั้น สมดุลของตัวรถก็จะมีอาการเอียงตัวตามนิสัยของรถกระบะ ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกกระด้างพอสมควร  ถึงอย่างนั้น  ผมก็คิดว่า มันเป็นรถที่เข้าโค้งได้ดี ส่วนพวงมาลัยก็มีน้ำหนักเหมาะสม แถมยังตอบสนองโอเค ซึ่งผมชอบ”

ความสุนทรีย์ในการขับขี่

“เครื่องยนต์ดีเซลไม่ส่งเสียงดังหลุดลอดเข้ามาเลยนะ ไม่ว่าจะขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือต่ำ ขณะที่เสียงถนนกับเสียงลมก็รู้สึกว่าได้ยินน้อยมาก จนถึงขนาดเคยมีเพื่อนที่นั่งอยู่ในรถของเราถามขึ้นมาเลยว่าไปแต่งอะไรมาเพิ่มหรือไม่ อย่างไรก็ดี โดยภาพรวมแล้ว ผมค่อนข้างชอบและรู้สึกเลยว่ารถยนต์ยี่ห้อนี้มักจะเก็บเสียงได้ดีทีเดียว”

เบื้องหลังพวงมาลัย

“ด้วยความที่รถกระบะเป็นรถใหญ่ อีกทั้งผมก็ยกสูงขึ้นด้วย ทัศนวิสัยการมองเห็นเนี่ยถือว่าชัดเจนดีเลย มันเคลียร์ถึงขนาดผมแทบไม่อยากจะกลับไปขับรถเก๋งอีกเลยด้วยซ้ำ ขณะที่การปรับตำแหน่งเบาะนั่ง แม้ว่าจะไม่ใช่ระบบไฟฟ้า แต่มันก็ไร้ปัญหา

นอกจากนี้ การจัดวางปุ่มต่างๆ ก็อยู่ในตำแหน่งที่โอเค แถมการติดตั้งปุ่มควบคุมเอาไว้ตรงพวงมาลัยก็ช่วยได้เยอะ ซึ่งทำให้ผมไม่จำเป็นต้องละสายออกจากถนนเลยแต่อย่างใด”

คุณภาพและความน่าเชื่อถือ

“จริงๆ รูปลักษณ์ของเจ้า Ford Ranger เนี่ย เป็นอะไรที่โดนใจตั้งแต่แรก ขณะที่ถ้าจะพูดถึงวัสดุประกอบภายในก็โอเค ดูแข็งแรงทนทาน ให้ความรู้สึกเหมือนกับสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลว่ามันจะพัง  ส่วนเบาะนั่งก็เป็นเบาะหนัง ซึ่งก็รองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม” 

พื้นที่และการใช้งานจริง

“Ford Ranger ถือว่าทำได้ดีในเรื่องนี้นะ ภายในนี่ก็กว้างขวาง ผู้โดยสารที่นั่งอยู่เบาะหลังก็ได้รับความสบาย พื้นที่เหนือศีรษะเหลือเฟือไร้ปัญหา เช่นเดียวกับพื้นที่วางเท้า

เอาเข้าจริงแล้ว ผมคิดว่ามันอาจจะได้เปรียบเพราะโครงรถเป็นแบบเดียวกับที่ขายในเมืองนอกด้วย ส่งผลให้ไซส์ของมันดูใหญ่โต ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบแล้ว อย่าง ดี.เจ.เดย์ (ดาวิเด้ โดริโก้-ดี.เจ., นักแข่งรถ) เพื่อนของผมที่มีรูปร่างสูงก็สามารถนั่งได้อย่างสบาย

ส่วนตอนท้ายนั้น แม้ว่าผมจะไม่เคยเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ แต่มันก็ใช้งานได้ดี ผมเคยขนล้อ รวมไปถึงขนมอเตอร์ไซด์คันเล็กมาแล้ว ถึงอย่างนั้น ถ้าจะต้องขนมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ๆ เนี่ย ฝาท้ายอาจจะต้องไม่ปิดขึ้นมาแต่อย่างใด”

ระบบสาระบันเทิง/อุปกรณ์

“จริงๆ ผมมีแผนจะเปลี่ยนเครื่องเสียงให้มันแน่นกว่านี้นะ แต่อันที่จริงผมก็คิดว่ามันโอเคอยู่แล้วล่ะ  อย่างไรก็ตาม พวกอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้จะมีไม่เท่ากับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ซึ่งตัวนั้นจะมีการติดตั้งอุปกรณ์อย่างกล้องมองหลังมาให้ แต่คันที่ผมใช้อยู่นี่ไม่มี ซึ่งก็เช่นเดียวกับเซ็นเซอร์ที่ช่วยในการจอดรถที่ก็ไม่มีมาให้เช่นกัน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะผมก็คิดจะติดเพิ่มอยู่แล้วด้วย

สำหรับเรื่องการใช้งานฟังก์ชั่นสั่งการต่างๆ ตรงคอนโซลกลางนั้น รถกระบะคันนี้จะใช้ปุ่มหมุนกับปุ่มกดเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ใช้งานง่าย โดยถ้าเทียบกับรถยนต์ในค่ายเดียวกันอย่างโมเดล Fiesta หรือ Focus อันนี้ถือว่าง่ายกว่าเยอะเลยทีเดียว”

ความปลอดภัยและระบบกันขโมย

“เกี่ยวกับระบบความปลอดภัยนี่ เจ้า Ford Ranger ก็มีมาให้เกือบทุกอย่างนะ ทั้งถุงลมนิรภัย ทั้งระบบเบรก ABS อย่างไรก็ตาม เซ็นเซอร์ต่างๆ รอบคันจะไม่มีมาให้อย่างที่บอก ซึ่งถ้ามีก็น่าจะเป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ถึงอย่างนั้น ผมก็เป็นคนที่ไม่ชอบพวกระบบเซ็นเซอร์สักเท่าไหร่อยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่ามันสร้างความรำคาญพอสมควร โดยถ้ามีมาให้ก็อาจจะปิดมันไปเลยด้วยซ้ำ”

การซื้อและการเป็นเจ้าของรถยนต์

“ตอนซื้อมามันมีราคาอยู่ราว 890,000 บาท ซึ่งผมคิดว่าคุ้มค่ามาก เนื่องจากตอบโจทย์ตัวเองได้ดี ก็คือสามารถใช้งานในเมืองหรือไปต่างจังหวัดก็ได้ อีกทั้งยังขับสบาย ขนของไร้ปัญหา แถมยังดูเท่อีกต่างหาก 

สำหรับเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้น ความประหยัดน้ำมันเฉลี่ยแล้วก็คงใกล้เคียงกับคู่แข่งอื่นๆ ซึ่งผมเองก็เคยวัดอยู่ได้ประมาณ 12 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนเรื่องการซ่อมแซม เวลานี้ยังไม่พบ นอกจากแค่ไปเช็คระยะตามปกติ”

OWNER’S Point

คำตัดสิน : 5 ดาว

Exit mobile version