Owner’s Favourite “วิด ไฮเปอร์ อาร์สยาม”

Vid-os, That’s right 

เมื่อนักร้องเสียงดีขวัญใจใครหลายคน คุณเชษฐา ฉายาช่าง หรือวิด ไฮเปอร์ อาร์สยามอุตส่าห์สละเวลามานั่งคุยกับเราถึงยานพาหนะคู่ใจที่ใช้ลุยไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวันอย่างเจ้า Toyota Vios มาดูกันว่า อะไรคือเหตุผลโดนใจที่ทำให้เจ้าของเพลงฮิตมากมายรู้สึกถูกใจเจ้ารถญี่ปุ่นยอดนิยมคันนี้

OWNER’S PROFILE

คุณเชษฐา ฉายาช่าง

อายุ 41 ปี

อาชีพ ศิลปิน

รถยนต์ที่ใช้ Toyota Vios

เราเชื่อว่า ผู้อ่านของเราเป็นคนรักเสียงเพลง หลายคนในจำนวนนี้ก็รู้จักกับบทเพลงอันหลากหลาย ซึ่งความชอบของแต่ละคนอาจจะบ่งบอกถึงสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปมากมาย บางคนชอบป๊อป บางคนรักร็อค บางคนหลงใหลบลูส์ บางคนคลั่งไคล้แจ็ซ หรือไม่ บางคนก็อาจเคลิบเคลิ้มไปกับบัลลาด ฯลฯ

แต่ไม่ว่าใครหลายคนจะฟังเพลงหลายแนวมากมายแค่ไหน มันเป็นไปได้ยากมากที่จะไม่รู้จักกับนักร้องเสียงดีคนหนึ่ง คนที่ผลิตเนื้อร้องกับทำนองได้ออกมากระแทกหัวใจผู้ฟังมากมายในทุกอัลบั้ม คนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทั้งไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน คนที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในวงการเพลงจนใครหลายคนต่างอิจฉา หรือไม่ก็อยากเดินตามรอยเท้าเพื่อออกก้าวตามมา

เรากำลังพูดถึงคุณเชษฐา ฉายาช่าง หรือ “วิด ไฮเปอร์ อาร์สยาม” หนึ่งในนักร้องเสียงดีคนที่เป็นเจ้าของเพลงฮิตมากมาย ไล่ตั้งแต่เพลงเปิดตัวสมัยยังเป็นอินดี้อย่าง ‘ขวากหนาม’ ที่โด่งดังเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ซึ่งแม้แต่ตอนนี้หลายคนก็ยังคงจดจำท่อนฮุกที่เสียดแทงได้ 

“ทางใดที่เธอจะมีความสุขกับเขา ทางนั้นจะมีฉันคอยกั้นกลาง เธอเป็นดอกไม้ ฉันจะเป็นขวากหนาม ทิ่มแทง ที่เขาจงปวดใจ ที่เขาทิ้งเธอไป ที่เขาไม่รักเธอ” 

คงมีหลายคนแน่ ๆ ที่ไม่สามารถอ่านประโยคนี้ในแบบธรรมดาๆ ได้ เพราะอยู่ดีๆ ท่วงทำนองที่คุ้นหูก็ถูกใส่เข้ามาจนการอ่านประโยคดังกล่าวแบบทั่ว ๆ ไปกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก

ไม่ใช่แค่นั้น จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายเพลงที่ถ้านำเนื้อร้องโดนๆ มาวางลงไป รูปแบบการอ่านแบบปกติก็จะถูกแทรกแซงด้วยเมโลดี้ของเพลงที่คุ้นเคย กระทั่งบางเพลงเพียงแค่ได้ยินแต่ชื่อ หลายคนก็คงนึกถึงท่อนฮุกออกมาแบบอัตโนมัติแทบจะในทันทีด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น รู้เห็นเป็นใจ, ใส่ร้ายป้ายสี เรื่อยไปจนถึงล่าสุดอย่างกะเทยไม่เคยนอกใจ และรังเกียจไปแล้ว

อย่างไรก็ดี กว่าที่คุณเชษฐา ฉายาช่าง จะมาเป็น “วิด ไฮเปอร์ อาร์สยาม” หรือกว่าที่เขาจะผลิตผลงานเพลงดีๆ ออกมาให้หลายคนติดใจอย่างที่ใครๆ ก็รู้จักและร้องตามกัน จะมีสักกี่คนที่ทราบว่า เส้นทางของเขาต้องพบเจอเข้ากับสิ่งใดและต้องฟันฝ่ากับสิ่งไหนมาบ้าง และตลอดวันเวลาที่พ้นไป ทั้งหลายทั้งปวงพวกนี้ มันได้หล่อหลอมให้ตัวเขาได้รับการเรียนรู้ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายอย่างเช่นอะไร

“ผมอยู่ในวงการนี้มาเกือบ 20 ปีแล้วครับ” คุณวิดเริ่มต้นเล่า “ผมผ่านสิ่งต่างๆ มามากมาย และเจอกับการเปลี่ยนแปลงมาหลากหลาย ซึ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะ ยกตัวอย่างเรื่องการแสดงก็ทำให้ผมได้รู้อะไรมากขึ้น เช่น ถ้าแบบนี้ ในผับต้องเล่นแบบไหน งานกลางแจ้งเล่นแบบไหน เล่นในวัด เล่นแบบไหน 

พูดง่ายๆ ก็คือ ผมรู้จักโลกมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้ผมพัฒนาเรื่องการทำงานได้ดียิ่งๆ ขึ้น คือแม้ว่าเราจะยังคงคอนเซ็ปต์เดิมของเราอยู่ แต่เราก็ต้องดูด้วยว่า คนอื่นๆ เขาไปถึงไหนกันแล้ว และเราก็ต้องไปให้ไกลกว่าเขา คือต้องดีขึ้นไปเรื่อยๆ”

การพัฒนาไปอีกขั้นของคุณวิดดูจะแปลความได้ว่า มันคือการเรียนรู้อันไม่มีที่สิ้นสุด ถึงอย่างนั้น นักร้องเสียงดีคนนี้ก็มีแผนที่เตรียมไว้สำหรับผลงานในอนาคตเช่นเดียวกัน

“สำหรับอนาคต ก็จะเพิ่มสีสันของเนื้อหา รวมไปถึงรูปลักษณ์ของดนตรี คือจะเข้มข้นขึ้น แล้วก็มีความเป็นสตริงมากกว่าหน่อย ไม่ได้เพื่อชีวิตจ๋าเท่าไหร่นัก แต่ก็หนักหน่วงด้วยการเลือกเนื้อหา แล้วก็เอาเรื่องจริงมาเขียนเป็นเพลง คืออยากให้ทุกคนฟังเพลงแล้วเหมือนดูหนังเรื่องหนึ่ง” 

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายทีเดียวที่บทสนทนาของเรากับเขาเกี่ยวกับเรื่องเพลงคงต้องจบลงด้วยช่วงเวลาอันสั้น ถึงอย่างนั้น ก่อนที่จะเข้าเรื่องรถ ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่นำพาให้เราและเขามาพบเจอกัน คุณวิดได้เอ่ยขึ้นเป็นบทสรุปที่เอามาใช้ในตอนเริ่มต้นอรรถาธิบายอย่างน่าสนใจทีเดียว

“เหตุผลของผมถ้าจะถามว่าอะไรดลใจให้ใช้เจ้า Toyota Vios คันนี้ ผมขอบอกเลยว่า มันประหยัด คล่องแคล่ว แล้วก็ตอบโจทย์เรื่องการใช้งานได้ดี”

สมรรถนะเครื่องยนต์

“กับ 6 ปีที่ใช้รถยนต์คันนี้มา เครื่องยนต์ตอบสนองดีเลยครับ ตอนเหยียบนี่ทันใจเราเลยล่ะ จะขับแบบช้าๆ หรือว่าเร็วๆ ก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่ใช่คนขับรถเร็วอะไรมากนะครับ ขับเร็วที่สุดแค่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น

อย่างไรก็ดี เจ้า Toyota Vios คันนี้เนี่ย เป็นรถยนต์ที่ออกตัวเร็วมาก ส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติก็ดีครับ ภาพรวมแล้ว ผมว่ามันโอเคหมดทุกอย่างเลยนะ”   

การขับขี่และการควบคุมรถยนต์

“สมดุลของรถคันนี้ดูแล้วแตกต่างกับรถที่ใหญ่กว่านะ คือมันจะให้ความรู้สึกที่กระด้างนิดๆ แต่สำหรับผมแล้ว ภาพรวมจัดว่าโอเคเลย เพราะไม่ใช่คนที่พารถขับไปยังถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออยู่แล้ว 

ส่วนเรื่องของการเข้าโค้ง รถยนต์คันนี้ก็ทำได้ดีเหมือนกันครับ แต่ถ้าเหยียบมาแรงๆ สักประมาณ 150-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเนี่ย ตัวรถก็จะมีอาการโคลงนิดๆ ให้เห็น เนื่องจากต้องเข้าใจว่ารถมันเล็ก ตรงกันข้ามกับอาการสั่นของพวงมาลัยหรือแป้นเหยียบ ซึ่งขับมา 6 ปีแล้ว ยังไม่มีเรื่องนี้ให้ต้องกังวลเลย 

อย่างไรก็ดี พวงมาลัยถือว่าเบาไปหน่อย ถึงอย่างนั้น การตอบสนองโดยภาพรวมก็ออกมาดี แถมรู้สึกไม่เทอะทะ ขณะที่ประเด็นเกี่ยวกับช่วงล่าง มันก็ตอบโจทย์ได้เยี่ยม อีกทั้งยังทน นี่ยังไม่เคยซ่อมเลยนะ”  

เบื้องหลังพวงมาลัย

“ตำแหน่งการนั่งถือว่าดี และการปรับที่นั่งแบบไฟฟ้า แล้วก็ปรับตำแหน่งของพวงมาลัยได้หลากหลาย ทำให้รู้สึกสะดวกครับ แต่ผมว่า พื้นที่ที่ให้มามันดูค่อนข้างแคบไปนิด ขณะที่ทัศนวิสัยการมองเห็นก็มีจุดบอดนะ ตรงบริเวณกระจกมองข้าง ซึ่งทำให้ไม่เห็นรถที่อยู่ใกล้ๆ กับเรา อย่างไรก็ตาม เวลาผมจะเลี้ยวไปทางไหน ตอนนี้ผมก็จะเช็คเพื่อให้เกิดความแน่นอนและชัดเจนอีกทีเสมอ เพราะผมกลัวเกิดอุบติเหตุ” 

ระบบสาระบันเทิงและอุปกรณ์ต่างๆ  

“รถยนต์คันนี้ไม่ได้มีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนเครื่องเสียงใดๆ เลย เพราะเป็นคนไม่ชอบเปิดเครื่องเสียงเสียงดังๆ อยู่แล้ว ถึงอย่างนั้น เดิมๆ ที่ให้มาเนี่ยก็ฟังวิทยุ หรือเล่นซีดีได้ตามปกติ นอกจากนี้ ยังเชื่อมต่อผ่านช่อง AUX หรือ USB ที่มีมาให้ได้ด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วนับว่าโอเคน่าพอใจ แม้ว่ามันจะดูรุ่นเก่าไปหน่อยก็ตาม

สำหรับเรื่องของการใช้งานนั้น รถยนต์ของผมจะมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นติดตั้งเอาไว้ให้ ซึ่งก็หมายความว่า การควบคุมเครื่องเสียงจะทำได้สะดวก เพราะปรับที่พวงมาลัยได้เลย ขณะเดียวกัน ปุ่มต่างๆ ก็ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาด้วยเช่นเดียวกัน”

คุณภาพและความน่าเชื่อถือ

“วัสดุประกอบโอเคดีนะครับ ดูทนทานและไม่ได้เป็นรอยง่าย ยิ่งกว่านั้น ผมยังชอบที่วางแก้วน้ำตรงบริเวณข้างคนขับที่ให้มาด้วย เพราะมันเพิ่มความสะดวกสบายได้ดีทีเดียว”

ความปลอดภัยและระบบกันขโมย

“เซ็นเซอร์ช่วยจอดรถมีมาให้หมดทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีกล้องมองหลังมาให้ ซึ่งถ้ามีก็จะช่วยได้เยอะ อย่างไรก็ดี กับเซ็นเซอร์นี่ แรกๆ ผมก็รำคาญนะ แต่ก็เข้าใจ เพราะมันช่วยผมได้มากจริงๆ ขณะที่ระบบอื่นๆ ก็จะมีถุงลมนิรภัยที่ติดตั้งมาให้ ส่วนระบบเบรก ABS ก็มีเป็นมาตรฐาน เช่นเดียวกับระบบเซ็นทรัลล็อกกับสัญญาณกันขโมยที่ก็ให้มาเช่นเดียวกัน ซึ่งโดยรวมก็ดีและโอเคอยู่”

ความสุนทรีย์ในการขับขี่

“เสียงยางรถที่บดกับถนนจะไม่ค่อยได้ยินสักเท่าไหร่ครับ แต่เสียงเครื่องยนต์เนี่ย มันมีหลุดลอดเข้ามาเล็กน้อยนะ เพราะว่าใช้งานมาเกิน 6 ปีแล้ว ขณะที่เสียงลมที่หลุดลอดเข้ามาผ่านทางหน้าต่างก็น้อยมาก ซึ่งก็ตอบโจทย์ได้ดีครับ”

พื้นที่และการใช้งานจริง

“จริงๆ กับพื้นที่บรรจุสัมภาระนี่ อยากได้เยอะกว่านี้สักหน่อยนะ แต่จริงๆ แล้วถ้าเป็นคนอื่นๆ คงเพียงพอนั่นแหละ เพียงแต่เราใช้งานเรื่องนี้ค่อนข้างจริงจังและมีของเยอะด้วย เห็นได้จากไลฟ์สไตล์ที่ไม่ค่อยจะกลับบ้าน แถมยังไปเล่นกีฬาบ่อย ทำให้ท้ายรถ ผมใช้งานมันสมบุกสมบัน”

การซื้อและการเป็นเจ้าของ

“ผมซื้อรถยนต์คันนี้มาประมาณ 800,000 บาท ยังไม่เคยซ่อมเลยครับ ส่วนเรื่องความประหยัดน้ำมันก็ดี นี่เป็นเรื่องที่ผมชอบมาก เติมเต็มถังก็พันกว่าเท่านั้น จนถึงวันนี้ผมคิดว่ารถยนต์คันนี้คุ้มค่ามากครับ เพราะตอบโจทย์เรื่องการใช้งานและสามารถทำเวลาได้ มันลงตัวและตอบโจทย์กับผมดีทีเดียว”

OWNER’S POINT

สมรรถนะเครื่องยนต์5 ดาว
การขับขี่และการควบคุมรถยนต์4 ดาว
เบื้องหลังพวงมาลัย4 ดาว
ระบบสาระบันเทิง5 ดาว
คุณภาพและความน่าเชื่อถือ5 ดาว
อุปกรณ์ต่างๆ5 ดาว
ความปลอดภัยและระบบกันขโมย5 ดาว
ความสุนทรีย์ในการขับขี่4 ดาว
พื้นที่และการใช้งานจริง4 ดาว
การซื้อและการเป็นเจ้าของ3 ดาว
คำตัดสิน5 ดาว

NEW RELEASE

หลังจากที่เพลง “กะเทยไม่เคยนอกใจ” ถูกปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกันผ่าน Youtube จนมียอดผู้เข้าชมถล่มทลายถึง 27 กว่าล้านวิว ล่าสุดเมื่อเดือนเศษๆ ที่ผ่านมา วิด ไฮเปอร์ อาร์สยาม ก็ส่งซิงเกิลที่สองออกมาให้แฟนๆ ได้ร้องตามและพูดถึงกันอีกครั้ง โดยเพลงที่เพิ่งจะปล่อยให้ได้ชมกันหมาดๆ มีชื่อว่า “รังเกียจไปแล้ว” ซึ่งเนื้อหาจะเข้มข้มและจะกระแทกใจได้มากน้อยแค่ไหน สามารถเข้าไปดูเพลง Poprock ภาษาเจ็บๆ ได้ที่ Youtube ซึ่ง ณ ขณะที่เขียนอยู่นี้ยอดผู้เข้าชมพุ่งขึ้นมาถึงหลักล้านเป็นที่เรียบร้อย

Exit mobile version