Owner’s Favourite คุณ “บ๊วย” เชษฐวุฒิ วัชรคุณ

Buay-Balance

เมื่อนักแสดงและพิธีกรอารมณ์ดี คุณบ๊วยเชษฐวุฒิ วัชรคุณ ได้เปิดเผยให้เราฟังถึงรถยนต์คู่ใจที่ใช้ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมออย่างเจ้า Toyota Camry Hybrid มาดูกันเถอะว่า อะไรคือเหตุผลโดนใจที่ทำให้ยานยนต์จากค่ายตราสามห่วงคันนี้สามารถพิชิตใจดาราหนุ่มหุ่นล่ำคนนี้ไปครอง

OWNER’S PROFILE 

คุณเชษฐวุฒิ วัชรคุณ

อายุ 40 ปี

อาชีพ นักแสดง, พิธีกร

รถยนต์ที่ใช้ Toyota Camry Hybrid

‘สมดุลของชีวิต’ ดูจะกลายเป็นสิ่งที่ใครหลายคนต่างก็ถวิลหา ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ในวันที่โลกใบนี้นับวันช่างให้อารมณ์สับสนและวุ่นวายยิ่งขึ้นไปทุกที เหตุใดผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงต้องการที่จะค้นหาสิ่งที่ว่ามานี้กันนัก 

เมื่อความเป็นไปต่าง ๆ ดูจะถาโถมจนทำเอาหนุ่มสาวมากมายถึงกับโซซัดโซเซ บ้างก็ล้มไม่เป็นท่า บ้างก็หกคะเมนตีลังกาเจ็บตัว ในจำนวนนี้มีไม่น้อยที่ยอมจำนวนต่อความล้มเหลว กระทั่งก็มีอีกมากที่ก้มหัวสยบให้กับความอ่อนล้าและความผิดหวังต่าง ๆ ถึงอย่างนั้น ในเหตุการณ์ความพ่ายแพ้คล้าย ๆ กัน มันก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกันที่ทนเจ็บและกัดฟันลุกขึ้นสู้ ซึ่งหนึ่งในจำนวนคนเหล่านั้น คุณ “บ๊วย” เชษฐวุฒิ วัชรคุณ ก็ถูกนับรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

เขาเป็นชายคนหนึ่งที่ผ่านร้อนผ่านหนาวบนเส้นทางสายชีวิตมาอย่างโชกโชน ครั้งหนึ่งเขาเคยล้มเหลวไม่เป็นท่า ถึงขนาดหวิดคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดนี่เอง อะไรบางอย่างก็ได้เรียกร้องต่อเขาให้ขานรับที่จะยืนหยัดลุกขึ้นสู้ และในปัจจุบัน หรืออาจจะบอกได้อีกแบบว่าและในที่สุด เขาก็ได้กลายมาเป็นชายผู้ซึ่งไม่ยอมแพ้ และพร้อมที่จะแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ เหล่านี้ให้แก่ทุกคน

“ผมเริ่มจากตัวเองก่อนเลยครับ” พิธีกรออกปากเล่าด้วยรอยยิ้ม “คือผมเห็นว่า ผมเคยเป็นคนล้มเหลว ผมต้องยอมรับมันก่อน แล้ววันหนึ่งผมก็จะกลับขึ้นมาได้ จริงๆ แล้ว มันไม่สำคัญหรอกว่า ล้มมาแล้วกี่ครั้ง แต่มันสำคัญที่ว่าลุกขึ้นมาได้เร็วเท่าไหร่มากกว่า 

กับเรื่องราวเหล่านี้ เมื่อเวลาผ่านไป ผมได้มองเห็นกระบวนการการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด เอาเข้าจริง ตอนล้มไม่อยากลุกด้วยซ้ำนะ ซึ่งก็คงอารมณ์เดียวกันกับทุกคนนั่นแหละ ลองสังเกตตัวเองดูสิ ตอนทุกข์ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น อยากอยู่เฉยๆ แต่ผมก็รู้ว่า เฮ้ย นี่มันชีวิตผม ถ้าไม่ทำ มันก็จะพังอยู่อย่างนี้นั่นแหละ

ผมได้ประสบการณ์จากการเปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะมาก  ด้วยเหตุนี้เอง ผมก็เลยอยากจะแบ่งปันให้คนอื่นๆ ได้รับรู้เอาไว้

เพราะผมเชื่อว่ามันเป็นประโยชน์ นอกจากนี้ ยิ่งแบ่งปันออกไปมากเท่าไหร่ ผมก็จะเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนแปลงตัวเองยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเท่านั้น และนั่นคือในส่วนที่ผมได้ นอกจากนี้ เวลาเห็นคนอื่นล้มเหลว แล้วกลับมาลุกขึ้นสู้ ผมว่ามันคือชีวิตที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ”

อย่างไรก็ดี นี่ไม่อาจบอกได้ว่า มันเป็นรางวัลตอบแทนเพียงอย่างเดียวที่ได้มาจากเรื่อยร้ายๆ ในชีวิต ตรงกันข้าม ยังมีอีกอย่างน้อยๆ ก็สิ่งหนึ่งที่คุณบ๊วยได้เก็บเกี่ยวมาจากประสบการณ์ขาลง ซึ่งทุกวันนี้ต้องกล่าวว่า มันถูกนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันจนทำให้อะไรต่อมิอะไรมันดีขึ้นตามลำดับ

“ชีวิตมันต้องหาสมดุลให้เจอครับ สิ่งนี้มีแต่เราเท่านั้นแหละที่จะรู้ สำหรับผม มันเกี่ยวกับว่าเวิร์คหรือไม่เวิร์ค และสมดุลชีวิตเนี่ย มันไม่ได้หมายความถึงอะไรที่คงเส้นคงวาเป็นเส้นตรงนะ แต่มันคืออะไรที่จะมีขึ้นบ้างลงบ้าง สมดุลชีวิตมันคือการรักษาระดับของมันให้ดีต่างหาก”

มาถึงตอนนี้ เมื่อพูดถึง ‘สมดุลของชีวิต’ เราก็อดไม่ได้ที่จะพลั้งปากหลุดถามออกไปแบบไม่คิดเหมือนกันว่า แล้วเจ้า Toyota Camry คันสีขาวที่จอดแน่นิ่งอยู่ข้างๆ วงสนทนาของเรานี้ มันจัดเป็นรถยนต์ที่เต็มไปด้วยความสมดุลตอบสนองผู้เป็นเจ้าของด้วยหรือเปล่า? ซึ่งคุณบ๊วยก็เกริ่นๆ แก่เรามาแบบสั้นๆ เป็นการเรียกน้ำย่อยว่า “คันนี้ก็ตอบโจทย์หลายอย่างนะ”

ว่าแต่ถ้าพูดถึงรายละเอียดอื่นๆ แบบลงลึกไปอีกล่ะจะเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เราอยากให้ติดตามอ่านกันดูนับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไปนั่นเอง

สมรรถนะเครื่องยนต์

“สมรรถนะของมันยอดเยี่ยมมาก คือเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรเนี่ย ตอบโจทย์ผมได้ดีเลย ผมว่ามันคือ Mercedes-Benz ญี่ปุ่นชัดๆ ผมเคยขับรถยนต์แบรนด์ดังจากเยอรมันมาก่อน เป็นโมเดล C-Class พอมาขับคันนี้นี่ ในแง่ของฟิลลิ่งก็แยกไม่ออกเหมือนกัน 

โดยในส่วนของอัตราเร่งถือว่าดีเลยครับ การขับขี่ในเมืองหรือไปไหนมาไหนแบบช้าๆ เนี่ย สบายสุดๆ ส่วนถ้าให้ขับขี่แบบซิ่งๆ นอกเมืองก็ไร้ปัญหา แต่ผมจะไม่ใช่คนที่ขับเร็วสักเท่าไหร่ คือไม่เกิน 160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ด้านระบบเกียร์ เจ้า Toyota Camry Hybrid คันนี้ที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติก็มีการตอบสนองที่ยอดเยี่ยม มันจะไม่มีจังหวะอืดให้พบเห็น คือเหยียบปุ๊บก็พุ่งเลยนั่นเอง”      

การขับขี่และการควบคุมรถยนต์

“เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ต้องแตะเบรกเวลาเข้าโค้งเสมอ เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจความรู้สึกเกี่ยวกับประเด็นนี้สักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ผมเริ่มไม่แตะเบรกแล้ว คือเริ่มฝึกเข้าไลน์ให้ถูกต้อง ซึ่งมันจะทำให้ผมมีสติอยู่กับเส้นทางตลอดเวลา ถึงอย่างนั้น กับเจ้า Toyota Camry Hybrid คันนี้ ต้องบอกว่าไม่ถึงกับทำให้มั่นใจมากนัก ถ้าเทียบกับ Mercdes-Benz C-Class คันเก่าที่เคยขับมาแต่ก่อน 

อย่างไรก็ตาม ผมก็แฮปปี้กับมันมากนะ เพราะที่จริงแล้ว มันอยู่ในระดับที่เราสามารถควบคุมได้ และก็ดูคุ้มค่าสมราคาดี ขณะที่พวงมาลัยก็ตอบสนองค่อนข้างไว อีกทั้งยังให้น้ำหนักที่เหมาะสมด้วย 

สำหรับในเรื่องของช่วงล่าง ผมต้องบอกว่ามันนิ่มมาก ถ้าต้องการความสบายเนี่ย ตอบโจทย์เลย เวลาเจอถนนที่ขรุขระ ก็ไร้ปัญหาเลย ผมไม่รู้ว่ามันถูกออกแบบมายังไงนะ แต่มันเจ๋ง”   

เบื้องหลังพวงมาลัย

“เบาะนั่งผู้ขับขี่จะปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้าและมีระบบเมมโมรี่ที่จดจำตำแหน่งการนั่งมาให้ด้วย ซึ่งตอบโจทย์ในเรื่องความสบายเป็นอย่างยิ่ง ไม่หมดเพียงเท่านั้น การรองรับสรีระของเบาะนั่งก็สมบูรณ์แบบ เช่นเดียวกับประเด็นของทัศนวิสัยที่ก็ไม่พบเจอจุดบอดตรงไหนเลยแต่อย่างใด คือเห็นชัดเจนหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลัง” 

ระบบสาระบันเทิงและอุปกรณ์ต่างๆ  

“รถยนต์คันนี้ไม่ใช่ตัวท็อปนะ ดังนั้นมันจึงไม่มีระบบนำทางผ่านดาวเทียมมาให้ แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะจำเป็นอะไร ถึงอย่างนั้น มันก็มีวิทยุ เครื่องเล่น CD, MP3 รวมไปถึงข่องเสียบ USB กับ AUX ติดตั้งเอาไว้ ขณะเดียวกัน ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงตรงพวงมาลัยก็มีมาให้เหมือนกันด้วย แม้จะไม่ค่อยได้ฟังเพลงเท่าไหร่เวลาขับรถอยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ดี ปุ่มต่างๆ ถือว่ามีการจัดวางเอาไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ผมก็ไม่รู้ว่าใครก็ิอปปี้ใครนะ แต่โดยภาพรวมแล้ว มันเหมือน Mercedes-Benz C-Class เลยล่ะ”

คุณภาพและความน่าเชื่อถือ

“ผมว่ารถคันนี้มันนั่งสบายและให้ความรู้สึกว่าดูหรู ดูดี เป็นอย่างยิ่ง โดยวัสดุประกอบภายในนี่ชอบเลย ส่วนใหญ่ใช้หนังในการตกแต่ง ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันเป็นหนังแท้หรือหนังเทียม แต่มันสบายน่าประทับใจ นอกจากนี้ ลายไม้ก็ดูสวยกว่า Toyota Camry ตัวก่อนๆ ด้วย ผมไม่รู้สึกว่าจะมีตรงไหนที่ขัดสายตาเลย มันให้ความรู้สึกที่แฮปปี้ดีเลยล่ะ”

ความปลอดภัยและระบบกันขโมย

“รถยนต์คันนี้จะมีระบบเบรก ABS กับถุงลมนิรภัยจำนวน 4 ใบมาให้ ขณะที่เซ็นเซอร์ช่วยจอดรถ อันนี้ก็มีติดตั้งเอาไว้เหมือนกัน เพราะมันก็ยังดังอยู่ และมีรอบคันด้วย ถึงอย่างนั้น กล้องมองหลังจะไม่มีมาให้ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากส่วนใหญ่เราขับไปข้างหน้าอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนเรื่องระบบกันขโมย รถยนต์คันนี้มีสัญญาณกันขโมยมาให้ครับ” 

ความสุนทรีย์ในการขับขี่

“สำหรับเสียงเครื่องยนต์ของเจ้า Toyota Camry Hybrid คันนี้ เอาจริงๆ แล้ว ผมแยกไม่ออกเลยนะว่า รถมันสตาร์ทอยู่หรือไม่ได้สตาร์ทอยู่ คือเสียงที่ออกมานั้นเบามาก ซึ่งนี่นับเป็นจุดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ หากขับขี่เร็วๆ เสียงเครื่องยนต์ก็หลุดลอดเข้ามาน้อยด้วย คือโดยสรุป ความเงียบเชียบในห้องโดยสารเนี่ยสมบูรณ์แบบเลย ทั้งนี้ เสียงลมกับเสียงถนนก็ไม่ส่งเสียงหลุดลอดเข้ามาด้วยเช่นเดียวกัน”

พื้นที่และการใช้งานจริง

“ผมเคยบรรทุกจักรยานพับไปกับรถยนต์คันนี้ด้วย ซึ่งมันก็สามารถตอบโจทย์ได้ไร้ปัญหา ไม่ว่าจะวางเอาไว้ตรงเบาะนั่งด้านหลังหรือกระโปรงท้าย ขณะเดียวกัน ตอนไปต่างจังหวัดทีหนึ่ง ผมก็ขนของไปแน่นเลยนะ แล้วมันก็ไม่เกิดปัญหาอะไร ก็คือขนของได้เยอะมากนั่นแหละ”

การซื้อและการเป็นเจ้าของ

“Toyota Camry Hybrid คันนี้ ผมซื้อมาในราคา 1,600,000 บาท ซึ่งต้องบอกว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้ใช้รถยนต์คันนี้ทีเดียวเลยล่ะ คือส่วนตัวนะ ขับรถคันนี้แล้วรู้สึกฮึกเหิมและรู้สึกภาคภูมิใจเป็นพิเศษ ดังนั้น ด้วยฟิลลิ่งแบบที่ว่ามาเนี่ย ผ่อนเดือนละ 20,000 บาท จัดว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก ส่วนเรื่องค่าน้ำมันก็ไม่ได้วิตกอะไร เติมเต็มถังก็อยู่ประมาณ 1,400 บาทเองเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ นี่จึงเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์และสมบูรณ์แบบสำหรับผมเป็นอย่างยิ่ง”

OWNER’S POINT

สมรรถนะเครื่องยนต์5 ดาว
การขับขี่และการควบคุมรถยนต์5 ดาว
เบื้องหลังพวงมาลัย5 ดาว
ระบบสาระบันเทิง4 ดาว
คุณภาพและความน่าเชื่อถือ5 ดาว
อุปกรณ์ต่าง ๆ4 ดาว
ความปลอดภัยและระบบกันขโมย3 ดาว
ความสุนทรีย์ในการขับขี่5 ดาว
พื้นที่และการใช้งานจริง5 ดาว
การซื้อและการเป็นเจ้าของ5 ดาว
คำตัดสิน5 ดาว 
Exit mobile version