Nissan Terra ขุมพลัง 190 แรงม้า คุ้มค่าด้วยออปชันล้ำสมัย ราคาเริ่มต้น 1.316 ล้านบาท

        นิสสัน ประเทศไทย เปิดตัว Nissan Terra รถยนต์อเนกประสงค์แบบตัวถังบนแชสซีส์หรือ Body-on-frame เติมเต็มช่องว่างของตัวเองในเซกเมนต์นี้ ชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะและความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารสำหรับครอบครัว

ราคา

– รุ่น 2.3V 2WD 7AT ราคา 1,316,000 บาท

– รุ่น 2.3VL 2WD 7AT ราคา 1,349,000 บาท

– รุ่น 2.3VL 4WD 7AT ราคา 1,427,000 บาท

(ราคาแนะนำถึง 31 ธ.ค. 61)

            และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุดกับเอสยูวีพื้นฐานกระบะรุ่นแรกของค่ายนิสสันหลังจากเปิดตัวที่ต่างประเทศไปเมื่อต้นปี การมาของ Terra ทำให้ตลาดรถยนต์ในเซกเมนต์นี้มีผู้เล่นเพิ่มขึ้น การแข่งขันก็จะดุเดือนขึ้นเป็นเงาตามตัว เป็นข้อดีของผู้บริโภคที่จะมีตัวเลือกหลากหลายให้ตัดสินใจ และจากราคาแนะนำที่ประกาศออกมาบ่งบอกได้ว่า Terra พร้อมรบกับทุกค่ายด้วยจุดเด่นด้านเทคโนโลยีที่ตัวเองมี

            Nissan Terra รวมสุดยอดสมรรถนะการขับขี่เข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูงให้สามารถผจญภัยได้ในทุกสถานการณ์ด้วยความมั่นใจ โดยถูกออกแบบและพัฒนาให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน ด้วยเบาะนั่งแถวที่สองที่สามารถพับเก็บได้ โดยทุกที่นั่งสามารถปรับเอนเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่ และด้วยแนวคิด Nissan Intelligent Mobility เอสยูวีคันนี้จึงมาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีทันสมัยที่ช่วยเสริมความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารทุกคน

รูปลักษณ์ทันสมัย

            รูปลักษณ์ภายนอกของ Nissan Terra แสดงออกถึงความแข็งแกร่งบึกบึนผสานกับความทันสมัยอย่างลงตัว ดีไซน์ด้านหน้าชวนให้นึกถึง Navara โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบ V-Motion อันเป็นเอกลักษณ์การออกแบบเฉพาะของนิสสัน ไฟหน้า LED Projector ไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์  LED ทรงบูมเมอแรง และไฟท้าย LED light guide สวยงามตามสมัย

            เส้นสายด้านข้างให้อารมณ์บึกบึน มาพร้อมบันไดข้าง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ราวหลังขา และล้ออัลลอยขนาด18 นิ้วพร้อมยาง 255/60 R18

           มิติตัวรถยาว 4,885 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,835 มม. มีระยะฐานล้อ 2,850 มม. ในขณะที่มีความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 225 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร

รายละเอียดภายใน

            ภายในของ Nissan Terra มอบความกว้างขวางสะดวกสบาย ตกแต่งภายในเน้นความทันสมัย โดยในรุ่น 2.3V 2WD 7AT และ 2.3VL 2WD 7AT จะเป็นเบาะสีดำ ส่วนรุ่นท็อป 2.3VL 4WD 7AT เป็นเบาะสีน้ำตาล

            เบาะทั้ง 3 แถวเป็นแบบ Theatre-style หรือเป็นขั้นต่างระดับกันคล้ายเบาะในโรงหนัง ทำให้ทุกที่นั่งไม่รู้สึกอึดอัด มีพื้นที่ในการยืดขาที่กว้างกว่าเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน วัสดุเป็นหนัง มีไฟส่องสว่างในห้องผู้โดยสาร เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Zero Gravity รองรับแรวกระดูสันหลังตามหลักสรีระศาสตร์

            เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมที่ดันหลังไฟฟ้า เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มาพร้อมระบบพับเบาะแถว 2 อัตโนมัติที่สามารถสั่งการได้จากตำแหน่งผู้ขับแค่เพียงกดปุ่มที่คอนโซลกลาง

            เบาะแถว 2 พับแยก 60:40 สามารถปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ ส่วนเบาะแถว 3 พับแยก 50:50 พนักพิงเบาะแถว 2 และแถว 3 พับราบเสมอกับพื้นห้องเก็บสัมภาระด้ายท้าย มีช่องเก็บของใต้พื้นห้อง และตะขอสำหรับผูกตาข่าย เบาะทุกแถวมีที่วางแก้วน้ำเพื่อความสะดวกสบายยามเดินทางไกล

           Nissan Terra มาพร้อมมาตรวัด TFT แสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะแบบ 3 มิติ Multifunction Intelligent Display (MID) ขนาด 5 นิ้ว แสดงผลข้อมูลการขับขี่ครบครัน อาทิ ระยะเวลาที่เข้ารับการตรวจสอบสภาพรถ ระดับอุณหภูมิภายนอกรถ นาฬิกาดิจิตอล เสียงเตือนในกรณีที่ไม่ได้ปิดไฟหน้า และสัญญาณเตือนกันการลืมกุญแจภายในรถ เสริมด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง 3 ก้าน ครูสคอนโทรล และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์

           ระบบปรับอากาศด้านหน้าเป็นแบบอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา สำหรับผู้โดยสารตอนหลังจะมีระบบกระจายความเย็นรอบทิศทางแบบ 360 องศา สามารถควบคุมความเร็วของพัดลมจากที่นั่งตอนหลังได้

           ส่วนระบบความบันเทิงมีทั้งวิทยุ เครื่องเล่น DVD และ MP3 พร้อมช่องใส่แผ่นดิสก์ 1 ช่อง และหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับ USB, HDMI, Bluetooth พร้อมลำโพง 6 จุด

           Nissan Terra ได้ติดตั้งกระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวนจากภายนอก รวมทั้งติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงที่ผนังห้องโดยสารถึง 3 ชั้น

สุดยอดสมรรถนะ

          Nissan Terra ใช้เครื่องยนต์ดีเซลรหัส YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ DOHC มาพร้อมหัวฉีดเชื้อเพลิงระบบไดเร็คอินเจคชัน ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่พร้อมโหมดขับขี่แบบแมนนวล นิสสันคอนเฟิร์มว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้มีระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องมากถึง 20,000 กิโลเมตร

         รุ่นท็อป 2.3VL 4WD 7AT มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Intelligent 4x4i) พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายทำงานด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงฟังก์ชั่น shift-on-the-fly ที่ให้ผู้ขับสามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบ 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ได้ในขณะวิ่งที่ความเร็วสูงไม่เกิน 100 กม./ชม. นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบความเร็วต่ำ (4LO) สำหรับการขับขี่บนพื้นทราย โคลน ลุยน้ำ ปีนป่ายขึ้นที่สูง หรือลงทางลาดชัน

          Nissan Terra ยังผสานคุณสมบัติด้านการลุยโดยเฉพาะด้วยระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ระบบป้องกันการลื่นไถล B-LSD มาตรวัดแสดงโหมดออฟโรด (Off-road Meter) แสดงข้อมูลการขับขี่ในโหมดขับเคลื่อนต่างๆ รวมถึงบอกองศาความลาดเอียงของตัวรถ และระบบตรวจวัดความดันลมยาง

          ความโดดเด่นของ Nissan Terra ก็คือการออกแบบตัวถังบนแชสซีส์เหล็กกล้าชิ้นเดียวเพื่อเสริมความแข็งแกร่งสำหรับการขับขี่แบบสมบุกสมบัน มีระยะความสูงจากพื้นถนนถึงใต้ท้องรถ 225 มม. ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบแบบ 5-link พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง พวงมาลัยเป็นแบบแร็คแอนด์พิเนียน เบรกหน้าเป็นดิสก์เบรก เบรกหลังเป็นดรัมเบรก

ที่สุดแห่งเทคโนโลยี

          Nissan Terra นำเสนอเทคโนโลยีอัจฉริยะล่าสุดจาก Nissan Intelligent Mobility เพื่อเสริมการขับขี่ให้ปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น โดยเป็นเอสยูวีรายแรกและรายเดียวในเซกเมนต์ที่มีเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ หรือ Intelligent Rear View Mirror (IRVM) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยด้านหลังขณะขับขี่หรือถอยหลัง ระบบจะมาพร้อมหน้าจอ LCD ที่กระจกมองหลังสำหรับแสดงภาพที่มาจากกล้องด้านหลังตัวรถ

          นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางหรือ Lane Departure Warning (LDW) โดยระบบจะทำงานเมื่อมีการขับเคลื่อนด้วยความเร็วมากกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง และจะแจ้งเตือนด้วยสัญญาณภาพและเสียงเมื่อรถเคลื่อนที่ออกนอกช่องทาง

          เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) แสดงภาพมุมสูงแบบ bird’s-eye view รอบตัวรถ ให้ผู้ขับเห็นมุมมองได้รอบทิศทาง

            เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW) จะทำงานเมื่อพบว่ามียานพาหนะอื่นเข้าใกล้ตัวรถในบริเวณจุดอับสายตา และทำการแจ้งเตือน โดยคนขับจะได้รับทั้งเสียงเตือนและสัญญาณไฟกะพริบที่กระจกมองข้าง

            เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) จะตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนทุกครั้งเมื่อมีวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ตัวรถ โดยจับการเคลื่อนไหวจากภาพของกล้องที่อยู่รอบๆ ในยามที่ต้องการจอดรถหรือการเคลื่อนตัวช้าๆ เมื่อมีสิ่งเคลื่อนไหว ระบบจะส่งทั้งภาพและเสียงเตือนผู้ขับ ทั้งนี้กล้องทั้งสี่ตัวรอบคันรถสามารถแจ้งเตือนผู้ขับได้ใน 3 สถานการณ์ คือ เมื่อรถจอดหรือหยุดนิ่ง เมื่อรถเคลื่อนตัวไปข้างหน้า หรือเมื่อเคลื่อนถอยหลัง

ความปลอดภัย

            Nissan Terra ยังมาพร้อมอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมาตรฐาน ทั้งแบบ Active Safety และแบบ Passive Safety ประกอบด้วย ถุงลมนิรภัย 6 จุดทุกรุ่นย่อย, เข็มขัดนิรภัยสามจุด ELR, จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบช่วยเบรก (Brake Assist System: BA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว หรือ Vehicle Dynamic Control (VDC) ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบเตือนภัยแบบ VSS

            Nissan Terra มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีน้ำตาล เอิร์ธ บราวน์ (Earth Brown), สีดำ แบล็คสตาร์ (Black Star), สีขาว ไวท์เพิร์ล (White Pearl), สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเสอร์ (Brilliant Silver) และ สีเทา ทไวไลท์ เกรย์ (Twilight Gray)

            Nissan Terra ผลิตขึ้นในประเทศไทยสำหรับขายในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกำลังการผลิตรวมของนิสสันในประเทศไทยอยู่ที่ 370,000 คันต่อปี เอสยูสีรุ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวของแผนธุรกิจในระยะกลางของนิสสันประเทศไทย หรือ Nissan M.O.V.E. 2022 และจะพร้อมจำหน่ายร่วมกับ Nissan Leaf ภายในปีงบประมาณ 2018

           สามารถเยี่ยมชม Nissan Terra รวมถึงสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมนิสสันกว่า 200 แห่งใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ หรือติดต่อสอบถามที่ Call Center หมายเลข 02-401-9600 หรือที่เว็บไซต์ www.nissan.co.th และ  www.facebook.com/NissanThailand/

Gallery

 

Exit mobile version