มิตซูบิชิสั่นสะเทือนวงการกระบะต้อนรับปลายปี เปิดตัว Mitsubishi Triton โฉมใหม่ครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย พร้อมเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
กว่า 40 ปีที่กระบะมิตซูบิชิโลดแล่นบนเส้นทางอุตสาหกรรมยานยนต์พร้อมกับก่อร่างสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน Mitsubishi Triton ใหม่เป็นการเฉลิมฉลองให้กับหลักชัยที่ก้าวผ่านมา และเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จใหม่ๆ ในอนาคต
รูปลักษณ์ใหม่ของ Triton ที่เห็นนี้เป็นการ Minorchange ที่เปลี่ยนภายนอกใหม่หมด โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ Dynamic Shield พร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นเพื่อสมรรถนะที่เหนือกว่าในการขับขี่ไปบนเส้นทางออฟโรด
Triton ใหม่จำแนกออกเป็น 3 ตัวถัง ได้แก่ Single Cab ที่มีเฉพาะ 4WD อย่างเดียว, Mega Cab และ Double ทุกรุ่นเป็นตัวยกสูงทั้งหมด ขายควบคู่กับ Triton โฉมเดิมที่เป็นรุ่นปกติไม่ยกสูง
ดีไซน์ที่ทรงพลัง
Triton ใหม่มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกใหม่แบบ Advance Dynamic Shield Design ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว คมเข้มเหมือนในแนวเดียวกับ Xpander ดีไซน์ด้านหน้าให้อารมณ์แข็งแกร่งเหมือนโล่ผสานเข้ากับเส้นสายอันดุดันของฝากระโปรงหน้า ไฟหน้าเป็นแบบ Bi-LED เลนส์โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED ดีไซน์ใหม่ มีไฟตัดหมอกคู่หน้า ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ และระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ
กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ให้ความโฉบเฉี่ยวทันสมัย มีแผ่นกันกระแทกใต้กันชนหน้า ด้านข้างผสานกันอย่างลงตัวด้วยส่วนโค้งมนตัดกับเส้นสายอันโฉบเฉี่ยว พร้อมซุ้มล้อขนาดใหญ่เน้นความแกร่งและทันสมัย พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16-18 นิ้วแตกต่างไปตามรุ่นย่อย
บันไดข้าง กระบะท้าย ฝาท้าย กันชนท้าย ดีไซน์ใหม่หมด พร้อมไฟท้าย LED Light Guiding ดีไซน์ใหม่ สวยงามลงตัวกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ภายใน
ห้องโดยสารของ Triton ใหม่ ยังคงดีไซน์เดิมๆ จากรุ่นก่อน แต่มีการปรับแผงควบคุมตลอดจนช่องแอร์ที่คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความประณีตและคุณภาพของวัสดุบุนุ่มและการตัดเย็บที่บริเวณกล่องคอนโซลข้างคนขับ ที่วางแขนและเบรกมือซึ่งผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถัน
ระบบปรับอากาศเป็นแบบแยกปรับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา มีการปรับปรุงใหม่ด้วยการเพิ่มช่องเป่าลมบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลังซึ่งมีเป็นครั้งแรกในวงการรถกระบะเมืองไทย ตอบโจทย์เมืองร้อนอย่างไทยแลนด์ได้เป็นอย่างดี
อุปกรณ์อื่นๆ ประกอบด้วย ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button, มาตรวัดดีไซน์ใหม่เพิ่มแถบสีน้ำเงิน, เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางในฝั่งคนขับ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมแพดเดิลชิฟท์และครูสคอนโทรล, ช่องชาร์จไฟ USB 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า และกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
ระบบความบันเทิงเป็นเครื่องเสียงวิทยุ CD DVD MP3 แบบ 2 DIN พร้อมจอสัมผัส รองรับระบบเชื่อมต่อไร้สายบลูทูธ USB มีลำโพง 6 ตำแหน่ง
ห้องโดยสารของ Triton ใหม่มีการเพิ่มวัสดุซับเสียงบริเวณคอนโซลหน้า รวมถึงวัสดุปูพื้นใหม่ที่ช่วยลดเสียงรบกวนเข้าสู่ห้องโดยสาร
จุดเด่นคือออฟโรด
Triton ใหม่นำเสนอจุดขายด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่ให้ดียิ่งขึ้น โดยในรุ่น Double Cab 4WD จะเป็นระบบ Super-Select 4WD II ที่มอบพละกำลังและการควบคุมตัวรถได้อย่างเหนือชั้น ส่วนรุ่น Single Cab 4WD จะเป็นระบบ Easy-Select 4WD ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดาย เพื่อเลือกให้เหมาะกับสภาพถนนที่แตกต่างกัน
เทคโนโลยี Super-Select 4WD II และระบบ Easy-Select 4WD มีการเพิ่มเติมโหมดใหม่สำหรับการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าให้เหมาะสมกับรูปแบบการขับขี่ ได้แก่ GRAVEL, MUD/SNOW, SAND และ ROCK (เฉพาะในตำแหน่ง 4LLc เท่านั้น) ในโหมดออฟโรด ระบบดังกล่าวจะช่วยควบคุมพละกำลังของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง รวมถึงระบบเบรก เพื่อการกระจายกำลังไปยังล้ออย่างเหมาะสม สามารถลุยผ่านทุกอุปสรรคไปบนทุกเส้นทางอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขับขี่ไปบนเส้นทางโคลนหรือหิมะที่เปียกลื่นได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเสริมความมั่นใจด้วยระบบล็อกเฟืองท้ายหลังควบคุมด้วยไฟฟ้า และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า (เฉพาะ Double Cab 4WD) ปีนป่ายและลงทางลาดชันได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมมุมไต่ 31 องศา และมุมจาก 23 องศา
ขุมพลังเครื่องยนต์
Triton ใหม่ยังใช้เครื่องยนต์บล็อกเดิมในทุกรุ่นย่อย เป็นเครื่องยนต์ MIVEC Clean Diesel ขนาด 2.4 ลิตร VG-Turbo ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบต่อนาที มีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพร้อม Sport Mode ลูกใหม่ มาพร้อมระบบตัดและเริ่มการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Auto Stop & Go)
ระบบเบรกมีการพัฒนาใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการใช้ดิสก์เบรกใหญ่ขึ้นพร้อมช่องระบายความร้อนในล้อคู่หน้า ล้อหลังเป็นดรัมเบรก กันสะเทือนหน้าเป็นอิสระปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง กันสะเทือนหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อนพร้อมโช๊คอัพไขว้ ส่วนระบบพวงมาลัยเป็นแบบแร็คแอนดิเนียนพร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง รัศมีวงเลี้ยว 5.9 เมตร
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่
Triton ใหม่ สืบทอดความแกร่งจากอดีตสู่ปัจจุบันด้วยโครงสร้างตัวถังและแชสซีส์เหล็กกล้า 2 ชั้นที่ทนทาน โครงสร้างห้องโดยสารแบบนิรภัยที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก RISE Body ครบครันด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ประกอบไปด้วย ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) สามารถตรวจจับได้ทั้งพาหนะและคน, ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาและแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนเลน (BSW with LCA) ช่วยตรวจจับพาหนะที่มาจากด้านข้างและด้านหลังขณะเปลี่ยนเลนพร้อมการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยระบบเสียงและสัญญาณไฟกระพริบที่กระจกมองข้าง, ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA) และระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS)
นอกจากนี้ Triton ใหม่ ยังมาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน อาทิ ถุงลุมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบป้องกันล้อล็อค ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC, ระบบป้องกันการลื่นไถล ATC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน ESS ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ตลอดจนกล้องมองภาพรอบคันพร้อมเซ็นเซอร์ช่วยในการจอดรถ
Mitsubishi Triton ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว White Daimond, สีเงิน Sterling Silverม สีเทา Graphite, Grey สีดำ Jet Black Mica และสีสัม Sunflare Orange
นอกจากประเทศไทยแล้ว Triton ใหม่ หรือ L200 จะทยอยเปิดตัวสู่ตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง ยุโรป แอฟริกา และลาตินอเมริกา ครอบคลุมกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น วางแผนที่จะจำหน่าย Triton ใหม่ และรุ่นเดิม ที่ประมาณ 180,000 คัน ภายในปีงบประมาณนี้ โดยรถรุ่นดังกล่าวถือเป็นยานยนต์เชิงกลยุทธ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เมื่อปีงบประมาณที่แล้ว รองจากรถอเนกประสงค์ Mitsubishi Outlander
Mitsubishi Triton ใหม่ ขายจริง 17 พฤศจิกายน มีทั้งหมด 15 รุ่นย่อย ราคาดังนี้
Single Cab
- 2.4 GL 4WD M/T ราคา 654,000 บาท
Mega Cab
- 2.4 GLX PLUS M/T ราคา 689,000 บาท
- 2.4 GLS PLUS M/T ราคา 729,000 บาท
- 2.4 GT PLUS M/T ราคา 776,000 บาท
- 2.4 GT PLUS A/T ราคา 826,000 บาท
Double Cab
- 2.4 GLX PLUS M/T ราคา 779,000 บาท
- 2.4 GLS PLUS M/T ราคา 819,000 บาท
- 2.4 GLS PLUS A/T ราคา 882,000 บาท
- 2.4 GT PLUS M/T ราคา 873,000 บาท
- 2.4 GT PLUS A/T ราคา 923,000 บาท
- 2.4 GT-Premium PLUS M/T ราคา 930,000 บาท
- 2.4 GT-Premium PLUS A/T าคา 983,000 บาท
- 2.4 GLS 4WD M/T ราคา 935,000 บาท
- 2.4 GT-Premium 4WD M/T ราคา 1,041,000 บาท
- 2.4 GT-Premium 4WD A/T ราคา 1,099,000 บาท
**สีเมทัลลิก เพิ่ม 7,000 บาท , สีขาว White Diamond เพิ่ม 10,000 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
Gallery
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=gytXaAtcsxM[/embedyt]