รายละเอียดสเปก MG Extender ออปชั่นแน่น ราคาโดน เปิด 9 รุ่นย่อย 5.49 แสน – 1.029 ล้านบาท

        MG Extender กระบะน้องใหม่ล่าสุดของเมืองไทย เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่น “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ตัวถังขนาดใหญ่ ออปชั่นจัดเต็ม มาพร้อมระบบ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกในโลก

         ปีนี้ MG ฮอตยิ่งกว่าเปลวไฟ ต้นปีเปิดตัว MG V80 กลางปีเปิดตัว MG ZS EV ล่าสุดส่ง MG Extender ลงชิงส่วนแบ่งตลาดกระบะเมืองไทย การเปิดตัว 3 โมเดลใหม่ในเวลาไม่ถึงปีไม่แน่จริงทำไม่ได้ Extender จึงเป็นดั่งความหวังใหม่ในการชิมลางตลาดที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดที่สุด โดยนำเสนอจุดเด่นที่เป็นดั่งเอกลักษณ์ของแบรนด์คือสเปกและราคาที่คุ้มค่า

          MG EXTENDER มีให้เลือกทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และแบบ 4 ประตู (Double Cab) ซึ่งมีทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ (2WD) และแบบ 4 ล้อ (4WD) ครอบคลุมทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยมีทั้งหมด 9 รุ่นย่อย ราคาดังนี้

MG EXTENDER รุ่น GIANT CAB (กระบะตอนครึ่ง)

MG EXTENDER รุ่น DOUBLE CAB (4 ประตู)

กระบะพันธุ์ยักษ์

        รูปลักษณ์หน้าตาภายนอกของ MG Extender เน้นเส้นสายที่แสดงถึงความบึกบึนและใหญ่โต โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโมเดิร์นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ MG ไฟหน้า LED เลนส์โปรเจคเตอร์ ไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ LED มีระบบระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ รวมถึงระบบไฟหน้าปรับเลี้ยวตามองศาพวงมาลัยอัตโนมัติ

         กันชนหน้ามีการ์ดกันกระแทกเสริมภาพความแกร่งพร้อมกับไฟตัดหมอก ไฟท้ายเป็นหลอดฮาโลเจนธรรมดา รุุ่นยกสูงจะมาพร้อมบันไดข้างและราวหลังคา ล้ออัลลอยมีตั้งแต่ 15 นิ้วในรุ่นตัวเตี้ย ไปจนถึง 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60 R18 ในรุ่น 4 ประตูยกสูง 

         มิติตัวรถยาว 5,365 มม. กว้าง 1,900 มม. สูง 1,850 มม. (รุ่นยกสูง) และ 1,720 มม. (รุ่นตัวเตี้ย) ระยะฐานล้อ 3,155 มม. ความจุถังน้ำมัน 73 ลิตร MG เคลมว่ารุ่น Giant Cab มีความยาวกระบะท้ายถึง 1,900 มม. ซึ่งยาวที่สุดในรถระดับเดียวกัน ช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น

          MG EXTENDER มาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ด้วยโครงสร้างที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Thermoforming Steel ในบริเวณเสา A ไปจนถึงเสา B และโครงสร้างโดยรวมใช้เหล็กแบบ High Strength Steel ที่มีความแข็งแกร่งสูง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และเสริมความมั่นคงในการขับขี่

ภายในกว้างขวาง

           ห้องโดยสารของ MG Extender มาในโทนสีดำตัดด้วยชิ้นส่วนสีเงินอะลูมิเนียม แดชบอร์ดดีไซน์ทันสมัย เสริมความพรีเมี่ยมด้วยวัสุซอฟท์ทัช และตะเข็บเบาะสีแแดง เบาะนั่งเป็นหนังสังเคราะห์ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง (เฉพาะรุ่นท็อป) พวงมาลัยปรับขึ้น-ลง 2 ทิศทาง หน้าปัดแบบเข็มอนาล็อกดีไซน์สปอร์ต มีจอ MID อยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและครูสคอนโทรล กุญแจระบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เบาะหลังพับได้ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

           กลางแดชบอร์ดเป็นหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth มีช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง ช่องเชื่อมต่อ AUX ช่องจ่ายไฟ 12V และมีลำโพง 6 ตำแหน่ง มิติห้องกว้างขวางสะดวกสบาย เก็บเสียงดีด้วยการออกแบบฉนวนกันเสียง 9 จุด 

 

ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART

MG EXTENDER นำเสนอความล้ำสมัยกับระบบปฏิบัติการ i–SMART ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

สมรรถนะเยี่ยม

          ใต้ฝากระโปรงของ MG EXTENDER ประจำการด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,400 รอบต่อนาที พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด และธรรมดา 6 สปีด

         สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน โดยในรุ่น Double Cab จะมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ซึ่งมีโหมดการขับขี่ออฟโรด 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L พร้อมระบบล็อคเฟืองท้าย Rear Diff-Lock 

        ระบบพวงมาลัยเป็นแบบแร็คแอนด์พิเนียนผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิก รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.3 เมตร ช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION กันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ระบบเบรกแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ 

ระบบความปลอดภัยครบครัน

        MG EXTENDER เป็นกระบะอีกหนึ่งรุ่นที่ให้อุปกรณ์ความปลอดภัยมาครบมากๆ กับระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ที่ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วยระบบต่างๆ 10 ระบบ ได้แแก่

        นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ รวมถึงกล้องมองภาพรอบทิศทาง สัญญาณเตือนกะระยะด้านหลังและด้านหน้า และกล้องมองหลังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่

         MG EXTENDER มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สี Black Knight, สีเทา Metal Ash Grey, สีเงิน Silver Metallic, สีขาว Arctic White และสีแดง Scarlet Red มั่นใจด้วยการรับประกันคุณภาพตัวรถ 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร พร้อมกันนี้เอ็มจียังมอบการบริการหลังการขาย “Passion Service” ที่เพิ่มความสะดวกมากขึ้นด้วยการบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องภายใน 1 ชั่วโมง การจัดส่งอะไหล่ภายใน 1 วันทำการ และบริการรถสำรองระหว่างซ่อม ยิ่งไปกว่านั้น MG EXTENDER ยังมีค่าบำรุงรักษาทั้งในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน คือ ระยะทาง 100,000 กิโลเมตร ไม่เกิน 20,000 บาท

        MG EXTENDER มีกำหนดเปิดตัวต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงาน Big Motor Sale 2019 ระหว่างวันที่ 16 ถึง 25 สิงหาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา และที่โชว์รูมรถยนต์ เอ็มจี ทั้ง 110 แห่งทั่วประเทศ ผู้สนใจไปสัมผัสรถตัวจริงกันได้ที่งาน 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mgcars.com  หรือ www.facebook.com/MGcarsThailand/  และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267

ติดตามการทดลองขับ MG EXTENDER ครั้งแรกได้เร็วๆ นี้!!

Gallery

Exit mobile version