Mercedes-Benz S 560 Coupé & Cabriolet สปอร์ตต่างสไตล์ กับความหรูหราเติมพิกัด

        เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดตัว 2 ยนตรกรรมสปอร์ตสุดหรูจากตระกูล S-Class กับ Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium รวมความเป็นที่สุดของสมรรถนะอันเหนือชั้นกับประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านไว้อย่างครบครัน ทั้งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยี ความปลอดภัย และนวัตกรรมอันล้ำสมัย ที่จะเติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบ

        รถยนต์ตระกูล S-Class ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ นับตั้งแต่เปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี 1972 รถยนต์ตระกูลนี้ได้สร้างยอดขายให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์รวมแล้วกว่า 4,000,000 คัน ดังนั้นเพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จึงได้เปิดตัว 2 สมาชิกรุ่นใหม่ล่าสุดจากรถยนต์ตระกูล S-Class ในกลุ่ม Dream Car อย่าง S 560 Coupé AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium ยนตรกรรมหรูเหนือระดับที่ได้ยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ในกลุ่ม Luxury Coupé และ Luxury Cabriolet ขึ้นไปอีกขั้น 

งดงามสะกดทุกสายตา

        S 560 Coupé AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium เป็นสปอร์ต 2 ประตู ดีไซน์ภายนอกเหมือนกันทุกตารางนิ้วต่างกันเพียงแค่หลังคา มาพร้อมความหรูหราแบบรถยนต์ตระกูล S-Class ด้วยไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ที่ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski crystals) จำนวนรวมทั้งสิ้น 47 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยไฟ daytime running lamps ที่ส่องสว่างด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 17 ชิ้น ให้แสงที่สวยใสชัดเจน และไฟเลี้ยวที่ตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 30 ชิ้น

       S 560 Coupé AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium ยังเป็นเพียงรถยนต์ 2 รุ่นในตระกูล S-Class ที่ติดตั้งไฟท้ายแบบ OLED (Organic Light Emitting Diode) ซึ่งเป็นหลอดไดโอดเปล่งแสงขนาดบางที่เคลือบใต้กระจกของไฟหลัง จำนวนรวมทั้งสิ้น 33 ชิ้นต่อ 1 ข้าง ทำหน้าที่ควบคุมตำแหน่งและความสว่างของแสงได้อย่างแม่นยำ

        เส้นสายตัวถังโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้าเป็นแบบ Diamond grille สีเงินพร้อมลายโครเมียม 1 แถบและตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ แนวฝากระโปรงหน้ายาว เพิ่มความดุดันด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG พร้อมคิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า, ปลายท่อไอเสียคู่, ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์เมอร์เซเดสเบนซ์ บนคาลิปเปอร์เบรก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสี Titanium Grey พร้อมยางรันแฟลต ด้านหน้า 245/40 R20 ด้านหลัง 275/35 R20

       มิติตัวถังยาว 5,027 มม. กว้าง 1,899 มม. สูง 1,414 มม. ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตรเท่ากัน ห้องเก็บสัมภาระของรุ่น Coupe จุ 400 ลิตร รุ่น Cabriolet จุ 250-350 ลิตร มาพร้อมระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายแบบแฮนด์ฟรี

        S 560 Coupé AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่แบบ MAGIC SKY CONTROL  ที่สามารถปรับความเข้มของกระจกได้เพียงกดสวิตช์เพื่อกรองแสงที่เข้ามาได้ โดยพาโนรามิคซันรูฟนี้ มีความยาวถึง 2 ใน 3 ของความยาวหลังคา หรือมีพื้นที่ประมาณ 1.32 ตารางเมตร 

         ขณะที่ S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาแบบ fabric soft-top ที่มีความหนาถึง 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเคลือบสารบูทีล (butyl) ซึ่งทำให้รถยนต์มีระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน้อยที่สุด โดยหลังคาสามารถกางเปิดหรือพับปิดได้ในเวลาเพียง 19 วินาที ขณะที่รถวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมกับแผงบังคับทิศทางลม (AIRCAP) อีกด้วย

ภายในหรูหราประดุจงานศิลป์

          เช่นเดียวกับดีไซน์ภายนอก สปอร์ตทั้ง 2 รุ่นนี้มีห้องโดยสารเหมือนกันทุกประการ รองรับผู้โดยสารสูงสุด 4 คน การตกแต่งภายในหรูหราขั้นสุด สวยงามตระการตาทุกตารางนิ้ว ด้านบนของแดชบอร์ดและแผงประตูถูกหุ้มด้วยหนังแท้ เสริมความสปอร์ตด้วยแป้นคันเร่งและแป้นเบรกสแตนเลสแบบสปอร์ต รวมทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัด หุ้มหนัง nappa พร้อมแพดเดิลชิฟท์สำหรับควบคุมการเปลี่ยนเกียร์

          เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design มีฟังก์ชันอุ่นที่นั่งและระบายอากาศ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันจดจำตำแหน่ง และมี Head-up display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า

          S 560 Coupé AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium สร้างนิยามอีกขั้นของความสะดวกสบายเช่นเดียวกับ Mercedes-Maybach S 560 ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ที่มีมากกว่า 64 สี และยังสามารถเลือกปรับสีให้แตกต่างในแต่ละส่วนได้ตามต้องการ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ THERMOTRONIC ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหน้า 4 แบบ เพื่อความผ่อนคลายตลอดการเดินทาง 

          ด้านมัลติมีเดียมาพร้อมกับระบบ COMAND Online ควบคุมและสั่งงานด้วยทัชแพด รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือบลูทูธ ทำให้เข้าใช้งาน Apple CarPlay และ Android Auto ได้อย่างไม่มีปัญหา รวมทั้งระบบแผนที่นำทาง Navigation System มีระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย และติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester high end 3D surround sound system เป็นมาตรฐาน

         สำหรับเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารมาอย่างครบครันทั้ง ระบบ Night View Assist Plus ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นคนเดินถนนหรือสัตว์ขนาดใหญ่ในที่มืดโดยการใช้แสงอินฟราเรด และกล้องอินฟราเรดระยะใกล้และไกล ในการมองเห็นเพื่อลดอุบัติเหตุในที่มืด, ระบบ Crosswind Assist ระบบที่จะช่วยประคองรถยนต์ให้ไม่หลุดออกนอกเส้นทางเมื่อมีลมแรง, ระบบ MAGIC VISION CONTROL ฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝนอัตโนมัติที่ รวมถึงระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) และระบบควบคุมทิศทางลม (เฉพาะรุ่น Cabriolet)

ขุมพลังใต้ฝากระโปรง 

         S 560 Coupé AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน V8  Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ความจุ 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 469 แรงม้า ที่ 5,250-5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 สปิด 9G-TRONIC อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. มีระบบปรับรูปแบบขับขี่ DYNAMIC SELECT ให้เลือกได้ทั้งหมด 5 แบบคือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลมพร้อมระบบควบคุมระดับ (AIRMATIC) มอบความนุ่มสบายทุกการขับเคลื่อน 

อัจฉริยะยนตรกรรม       

         เพื่อให้สมกับความพรีเมียมและความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม S 560 Coupé AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium จึงได้ติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ดีที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้อย่างครบครัน ประกอบด้วย 

        ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า Active Distance Assist DISTRONIC ใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกันชนหน้าคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้น และลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ รวมทั้งช่วยเบรกด้วยระดับแรงเบรกประมาณ 50% ของแรงเบรกปกติเพื่อรักษาระยะห่างตามที่ผู้ขับขี่กำหนด ระบบสามารถลดความเร็วของรถลงจนกระทั่งหยุดนิ่งตามรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้า และยังสามารถควบคุมรถให้ออกตัวตามรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้า หากรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้าหยุดนิ่งเป็นเวลาไม่เกิน 30 วินาที แล้วเคลื่อนที่ต่อไป

         ระบบ Active Blind Spot Assist ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์คันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร ระบบนี้จะทำงานตั้งแต่ความเร็วของรถที่ 12 กม./ชม. เป็นต้นไป 

         ระบบ Active Lane Keeping Assist ระบบจะช่วยดึงรถเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติเมื่อเรดาร์ตรวจพบความเสี่ยงในการชนกับรถยนต์หรือจักรยานยนต์ที่วิ่งมาด้านข้าง 

         ระบบ Active Braking Assist และฟังก์ชัน Cross-Traffic สัญญาณเรดาร์ที่ติดอยู่บริเวณกันชนด้านหน้า และกล้อง MPC จะตรวจจับเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการชน และจะส่งเสียงเตือนคุณให้เบรก หากคุณตอบสนอง ระบบจะช่วยเพิ่มกำลังเบรกไปจนเต็มประสิทธิภาพ แต่หากไม่มีการตอบสนอง ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติตามแต่ละสถานการณ์

          ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ทั้งการจอดแบบขนานและการจอดแบบเข้าซอง โดยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา จะแสดงภาพบริเวณรอบกันชนในจอแสดงผล รวมถึงภาพจากมุมสูง จึงช่วยให้เห็นสิ่งกีดขวางรอบคันรถ ทั้งนี้ระบบจะส่งสัญญาณ เตือนภัยทั้งภาพและเสียง ในขณะที่กำลังจอดรถด้วยความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. โดยเป็นการประสานการทำงานของระบบ active steering ระบบ speed control และระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ แม้ในที่จำกัดหรือในกรณีที่ต้องขยับรถหลายครั้ง พร้อมเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Drive Away Assist ที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจจับความเสี่ยงต่อการชนในขณะที่เหยียบคันเร่งหรือเบรกสลับกัน หรือเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ไม่ถูกต้อง

ความปลอดภัย

          S 560 Coupé AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมระบบความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ถนนที่ไม่เคยมีในรถยนต์รุ่นนี้มาก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ประกอบด้วย

         ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® PLUS ด้วยการทำงานของเรดาร์ที่หากตรวจพบรถยนต์จากด้านหลังที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไฟกระพริบฉุกเฉินจะกระพริบด้วยความถี่ที่มากกว่าปกติเพื่อเตือนผู้ขับขี่รถคันหลัง หลังจากนั้น ระบบจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับขึ้น ระบบเบรกจะล็อคล้อทั้งสี่ไว้ให้อยู่กับที่ พร้อมปรับพนักพิงคอเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บบริเวณคอ หากมีการชนเกิดขึ้น

        PRE-SAFE® Impulse Side ตรวจจับรถยนต์ที่กำลังวิ่งเข้าด้านข้างตัวรถ ด้วยเรดาร์ที่ด้านซ้ายและขวา เมื่อพบว่ามีเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ถุงลมที่อยู่ในพนักพิงด้านข้างจะพองออกเพื่อผลักให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้าเอียงไปอยู่ส่วนตรงกลางห้องโดยสารแทน เพื่อปกป้องจากแรงกระแทกจากด้านข้างตัวรถ

        ระบบ Active Emergency Stop Assist ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองต่อการขับขี่เป็นเวลานานเช่นหลับในหรือหมดสติ และระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของพวงมาลัยเลย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่กลับมาประคองพวงมาลัยรถ แต่ถ้ายังไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับขี่ ระบบจะค่อยๆ หยุดรถอัตโนมัติในช่องจราจรนั้น พร้อมกับเปิดระบบไฟกระพริบฉุกเฉิน

         ระบบ Evasive Steering Assist ระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า โดยสัญญาณเรดาร์และกล้อง MPC ของรถยนต์จะช่วยตรวจจับคนและสิ่งของที่จะก่อให้เกิดอันตราย โดยระบบจะเตือนให้คุณตอบสนองและหักหลบสิ่งกีดขวางด้วยตนเองเท่านั้น พร้อมช่วยส่งแรงบิดที่เหมาะสมในการหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานที่ครบครันที่สุด อาทิ ถุงลมนิรภัยรอบคัน 9 ตำแหน่ง, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบ ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ HILL – Start Assist, ครูสคอนโทรลและระบบจำกัดความเร็ว, ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่, ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ, ระบบเตือนแรงดันลมยาง, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย, ระบบเพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวโค้ง, ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ตลอดจนโครงสร้างนิรภัยขณะพลิกคว่ำ (เฉพาะรุ่น Cabriolet) 

        นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคมที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทยมีมากกว่า 8,600 คัน เพิ่มขึ้น 9% โดยรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เติบโตขึ้นในทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็น Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car, SUV, Mercedes-AMG และ EQ โดยเฉพาะแบรนด์ Mercedes-AMG ที่ยอดขายเติบโตกว่า 250% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์มากขึ้น 

        Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium มาในราคา 15.99 ล้านบาท ส่วน Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium ราคาอยู่ที่ 16.72 ล้านบาท ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ

ข้อมูลเพิ่มเติม www.mercedes-benz.co.th และ www.facebook.com/MercedesBenzThailand

Gallery

Exit mobile version