เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย) เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอรถยนต์เอสยูวี (SUV) รุ่นประกอบในประเทศ นำเสนอยนตรกรรมพลังดีเซลโฉมใหม่ ได้แก่ Mercedes-Benz GLC และ Mercedes-Benz GLC Coupé ยนตกรรมทั้งสองโมเดลยังมาพร้อมกับระบบมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดอย่าง MBUX พร้อมด้วยบริการ ‘Mercedes me connect’
GLC facelift เพิ่งเปิดตัวในตลาดโลกเมื่อไม่นานมานี้ การเปลี่ยนแปลงหลักๆ แล้วคือดีไซน์หน้ารถแบบใหม่ ไฟหน้าใหม่ กระจังหน้าใหม่ รวมถึงไฟท้ายใหม่ ภายในมีการอัพเกรดระบบมัลติมีเดียใหม่ สำหรับตลาดเมืองไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ทำการแนะนำ 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย GLC ตัวถังปกติ 2 รุ่นย่อย คือ GLC 220 d และ GLC 220 d AMG Dynamic อีกหนึ่งรุ่นย่อยคือตัวถังคูเป้ท้ายลาด GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic
Mercedes-Benz GLC
GLC ใหม่ทั้ง 2 รุ่นย่อยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ 2.0 ลิตร 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที จับคู่กับ เกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 7.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 217 กม./ชม อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยมเฉลี่ยเพียง 5.1 – 5.3 ลิตร/100 กม.
ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้าเสริมโครเมี่ยมแบบสามมิติที่ลาดต่ำลงเพื่อความสวยงาม ประดับด้วยสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางบนลาย 2 แถบ ลายเส้นด้านข้างถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้ายเสริมโครงสร้างตัวรถให้ดูทรงพลังและสง่างามไปพร้อมกัน รุ่น GLC 220 d มาพร้อมกับระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance headlamps และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว 5 ก้าน ขณะที่รุ่น GLC 220 d AMG Dynamic มาพร้อมชุดไฟหน้าอัจฉริยะแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบ ด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถปรับความเข้มแสง โดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้ พร้อมด้วยล้ออัลลอย AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ภายในถูกออกแบบโดยเน้นความหรูหรา ทันสมัย และกว้างขวาง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครอบครัวโดยเฉพาะ มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 550 ลิตร และสามารถบรรจุได้ถึง 1,600 ลิตรเมื่อพับเบาะที่นั่งด้านหลังลง การตกแต่งภายในของรุ่น GLC 220 d จะตกแต่งด้วยลายไม้แบบ Open-pore brown ash wood พร้อมเบาะหนัง ARTICO สีดำแบบ Comfort ที่ง่ายต่อการดูแลรักษา และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น
ระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน แสดงผลบนหน้าจอขนาด 10.25 นิ้วที่ใช้ระบบสัมผัสได้แล้ว โดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมและออกคำสั่งได้ด้วยการสัมผัสที่หน้าจอ หรือใช้ Touchpad ดีไซน์ใหม่ก็ได้ มีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ Bluetooth สำหรับแผงหน้าปัดฝั่งผู้ขับขี่ในรุ่น GLC 220 d AMG Dynamic จะเป็นระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Sporty และ Progressive และมีระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO เสริมเข้ามาด้วย
ด้านเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz GLC โฉมใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ มาพร้อมกับระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่ 5 แบบ คือ ECO, INDIVIDUAL, COMFORT, SPORT และ SPORT+ มีระบบช่วยในการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติพร้อม PARKTRONIC เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ที่มาพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง รวมถึงติดตั้งระบบกันสะเทือน AGILITY CONTROL ที่ช่วงล่างของรถยนต์เพื่อเสริมความนุ่มนวลในการขับขี่อีกด้วย
นอกจากนี้ในรุ่น GLC 220 d AMG Dynamic ยังได้ติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาขึ้นให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC) ซึ่งทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกระจังหน้าในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้น และลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ รวมทั้งช่วยเบรกด้วยระดับแรงเบรกประมาณ 50% ของแรงเบรกปกติ เพื่อรักษาระยะห่างตามที่ผู้ขับขี่กำหนด ระบบแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนช่องจราจร (Blind Spot Assist) ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือจักรยานยนต์คันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลัง จะเปลี่ยนช่องจราจร เป็นต้น
Mercedes-Benz GLC 220 d มาในราคา 3,239,000 บาท และ GLC 220 d AMG Dynamic มาในราคา 3,699,000 บาท
Mercedes-Benz GLC Coupé
ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน โดดเด่นด้วยการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ 4MATIC ที่สามารถตอบโจทย์การขับขี่ได้ดีทั้งในเมืองและนอกเมือง GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ 2.0 ลิตร 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 217 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง 5.2 – 6.0 ลิตร/100 กม. มีระบบ DYNAMIC SELECT ซึ่งมีโหมดการขับขี่ 5 แบบ คือ ECO, INDIVIDUAL, COMFORT, SPORT และ SPORT+
ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่ดูปราดเปรียวจากลายเส้นโค้งเว้าให้ความรู้สึกพลิ้วไหว มาพร้อมกระจังหน้า diamond radiator grille มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลาง ไฟหน้าแบบ LED High-performance พร้อมไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED fibre-optic เพื่อการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ เส้นสายหลังคา และลายเส้นด้านข้าง ถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้ายเน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัย ด้านท้ายเพิ่มความดุดันด้วยปลายท่อไอเสียโครเมียม 2 ท่อ พร้อมด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling (กันชนหน้า-หลัง), ล้ออัลลอย AMG 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้วสีเงินสลับดำ, ระบบกันสะเทือนแบบ Sports suspension, หลังคาซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ภายในมาพร้อมแดชบอร์ดและคอนโซลกลางที่มีขอบลายเส้นที่ดูไหลลื่น แผงคอนโซลมีขนาดใหญ่และถูกออกแบบให้เป็นชิ้นเดียววางทอดตัวยาวจากช่องลมรแอร์บริเวณตรงกลางของแผงหน้าปัดลงมาจนถึงพนักวางแขนบริเวณกึ่งกลางระหว่างเบาะที่นั่งของผู้ขับขี่กับผู้โดยสารตอนหน้า ซึ่งเส้นสายบริเวณแผงคอนโซลที่ดูเรียบง่ายแต่เร้าอารมณ์ช่วยให้ห้องโดยสารดูกว้างขวางและล้ำสมัยยิ่งขึ้น
แผงหน้าปัดฝั่งผู้ขับขี่เป็นระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 12.35 นิ้ว สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Sporty และ Progressive นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับพวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ พร้อมเสริมความสะดวกสบายให้มากขึ้นด้วยระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO, ฟังก์ชัน ECO start/stop, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน, เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมบันทึกหน่วยความจำ เบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้แบบ Fully Folded ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บ พื้นที่จัดเก็บสัมภาระความจุ 500-1,400 ลิตร ซึ่งนับเป็นความจุที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์กลุ่มเดียวกัน
ระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience)ถูกอัพเกรดเพิ่มเข้ามา แสดงผลบนหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว โดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมและออกคำสั่งได้ด้วยการสัมผัสที่หน้าจอ หรือใช้ Touchpad ดีไซน์ใหม่ก็ได้ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ออปชั่นอื่นๆ ได้แก่ ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester, เบาะนั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสปอร์ตฐานตัด, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต, พรมปูพื้นพร้อมสัญลักษณ์ AMG และระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร Ambient light
ความปลอดภัยและเทคโนโลยีของ GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic โฉมใหม่มาพร้อมกับระบบ Mercedes-Benz Intelligent Drive เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับ ความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียวที่ทำงานสอดประสานกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® system, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist, ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ, ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC), เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC), กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง, ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist), ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ และระบบเตือนแรงดันยาง เป็นต้น ทั้งนี้ ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA และ ระบบแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนช่องจราจร (Blind Spot Assist) ถูกเพิ่มขึ้นมาใหม่สำหรับรถยนต์ Mercedes-Benz GLC Coupé โฉมใหม่รุ่นประกอบในประเทศโดยเฉพาะ
Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic นำเสนอในราคา 4,040,000 บาท
ผู้ที่สนใจ GLC ใหม่ทั้ง 3 รุ่นสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้แล้วที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.mercedes-benz.co.th หรือ www.facebook.com/MercedesBenzThailand
Gallery
