Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC เอสยูวีรุ่นใหม่กับระบบปลั๊กอินไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 3

           Mercedes-Benz เปิดตัว GLC 300 e 4MATIC เป็นครั้งแรกในโลก ณ งานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2019 เดือนกันยายนที่ผ่านมา ผสานความลงตัวทั้งด้านสมรรถนะ การขับขี่ และประโยชน์ใช้สอย

            GLC เป็นเอสยูวีขนาดกลางที่ผสมผสานความอเนกประสงค์และปราดเปรียวเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัย โดยรุ่นใหม่นี้ก็มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง ความอเนกประสงค์ที่โดนใจลูกค้า ระบบมัลติมีเดีย MBUX สุดทันสมัย รวมถึงระบบช่วยขับขี่ชั้นเลิศ นอกจากนี้ในแง่ออฟโรดก็โดดเด่นไม่แพ้กันด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ 4MATIC และความสามารถในการลากจูงถึง 2,000 กก.

            ระบบขับเคลื่อนไฮบริดของ GLC 300 e 4MATIC ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร 155 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 90 kW แรงบิด 440 นิวตันเมตร เมื่อรวมกำลังทั้งระบบจะได้ 320 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 700 นิวตันเมตร

            ระบบขับเคลื่อนชุดนี้ให้สมรรถนะอันน่าทึ่ง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ความเร็วสูง 230 กม./ชม. ความเร็วสูงสุดเมื่อขับด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน 130 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 2.5-2.2 ลิตร/100 กม. ปล่อคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 57-51 กรัม/กม.

            GLC 300 e 4MATIC ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 13.5 kWh มีอัตราการใช้พลังงาน 17.8-16.5 kWh/100 กม. ระยะทางขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าล้วน 46-49 กม. (NEDC) และ 39-43 กม. (WLTP) ผู้ขับขี่สามารถค้นหาสถานีชาร์จได้อย่างง่ายดายผ่านระบบสาระบันเทิง MBUX เพียงพูดว่า Hey Mercedes, find charging stations nearby

            Mercedes-Benz บอกว่าเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 3 มอบพลัง ระยะทางขับขี่ และความสนุกได้มากขึ้นกว่าเดิม มันถูกออกแบบมาให้รองรับกับชุดเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC และออกแบบตามหลักการของมอเตอร์ซิงโครนัส เช่นเดียวกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มกำลังและความหนาแน่นของแรงบิดได้มากยิ่งขึ้น

            ดีไซน์ภายนอกของ GLC 300 e 4MATIC สื่อถึงความสปอร์ตชัดเจนจากกระจังหน้า Radiator grille พร้อมด้วยลุคแบบออฟโรดที่มีความแข็งแกร่งบึกบึนจากเส้นสายที่มีลักษณะเหมือนมัดกล้ามและการ์ดกันกระแทกที่กันชนหน้า-หลัง มีการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนโครเมี่ยมเพิ่มความหรูหรารอบคัน

            ไฟหน้าระบบ MULTIBEAM LED เป็นออปชั่นเสริมที่ควรค่าแก่การอัพเกรด ไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ LED และไฟท้าย LED ได้รับการออกแบบใหม่ดูสวยงามและทันสมัยยิ่งขึ้น

            GLC 300 e 4MATIC ออกแบบพื้นที่สำหรับเก็บแบตเตอรี่ได้อย่างชาญฉลาดโดยซ่อนอยู่ที่บริเวณเพลาหลัง ผลที่ได้คือพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระที่ลดน้อยลงจาก GLC รุ่นปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีความจุตั้งแต่ 395-1,445 ลิตร

Gallery

Exit mobile version