Mercedes-Benz GLB เอสยูวีเล็ก 7 ที่นั่ง การขับขี่ไม่ขี้เหร่

    เมื่อพูดถึงรถเอสยูวี ตอนนี้คุณมีตัวเลือกมากมาย มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ แบบสปอร์ต แบบออฟโรด แบบไฮบริด และแบบไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม มีรถเอสยูวีจำนวนมากที่มี 7 ที่นั่งแต่ไม่ได้ขนาดใหญ่เท่าเรือบรรทุกเครื่องบิน

     นี่คือ Mercedes-Benz GLB รุ่นใหม่ คลาสใหม่แกะกล่อง ตัว B ที่ชื่อของมันอาจทำให้คุณเข้าใจว่ามันมีภายในเล็กกว่า GLC แม้ว่ามันจะสั้นกว่าเพียง 2-3 ซม. แต่มันก็สามารถยัดเบาะนั่งแถวที่สามเข้าไปได้ ราคาค่าตัวของมันใกล้เคียงกับ Audi Q5, BMW X3 ตลอดจน Land Rover Discovery Sport ซึ่งตอนนี้ GLB เป็นเพียงเอสยูวีหรูรุ่นเดียวที่มี 7 ที่นั่งในแพ็คเกจราคาเท่านี้

     ไลน์อัพเครื่องยนต์เริ่มต้นที่เบนซิน 1.3 ลิตร เทอร์โบ (รหัส 200) ตามด้วย ดีเซล 2.0 ลิตร (มี 2 รหัสคือ 200d และ 220d ตามกำลังแรงม้า) และรุ่นสูงสุดของไลน์อัพ เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ในรหัส AMG GLB 35 เครื่องยนต์รหัส 220d คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในไลน์อัพด้วยพละกำลัง 187 แรงม้า เทียบเท่ากับ Q5 40 TDI และ X3 xDrive20d

        เครื่องดีเซลให้แรงดึงที่ดีเยี่ยมตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที คุณสามารถพบเจอสมรรถนะที่ร้อนแรงได้ง่ายๆ จากอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.6 วินาที ซึ่งไวพอที่จะโลดแล่นบนถนนหลวงได้อย่างสบายใจ เร่งดีกว่า Discovery Sport และยังวิ่งได้เงียบแต่จะมีเสียงคำรามดังบ้างในตอนรอบสูง โดยรวมแล้ว Q5 ยังคงเงียบที่สุดเมื่อวิ่งบนมอเตอร์เวย์

       รูปทรงตัวถังแบบกล่องของ GLB ทำให้เกิดเสียงลมได้มาก ล้อขนาดใหญ่ 19 นิ้วในรถที่เราทดสอบก็มาพร้อมกับเสียงยางที่ดังพอสมควรบนพื้นผิวที่ไม่เรียบสม่ำเสมอ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานใน 220d มันนุ่มนวลไร้การสะดุดในแต่ละจังหวะเปลี่ยนเกียร์และยังทำงานฉับไวแม่นยำกว่า Q5

      GLB ทุกคันติดตั้งกันระบบสะเทือนแบบคอมฟอร์ทพร้อมโช๊คอัพแบบแปรผันมาเป็นมาตรฐานซึ่งสามารถปรับความนุ่มหรือแข็งในขณะขับขี่ได้เอง มันน่าพอใจมากในโหมด Comfort แต่ในโหมด Sport ไม่รู้สึกหนึบเหมือน X3 เวอร์ชั่น AMG มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตพร้อมโช๊คอัพแบบแปรผันเช่นกัน

      สิ่งที่เราสามารถบอกคุณได้อย่างแน่นอนคือคุณจะสนุกมากกว่าเมื่อนั่งขับอยู่หลังพวงมาลัยของ X3 สิ่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบบังคับเลี้ยวของ GLB ซึ่งช้ากว่าและส่งต่อความรู้สึกจากยางหน้าได้ไม่ดีนัก ในทางกลับกัน GLB เอียงตัวผ่านโค้งต่าง ๆ น้อยกว่า Discovery Sport และยึดเกาะได้ดีกว่า

     คุณจะพบเจอกับทัศนวิสัยที่ดีจากเบาะคนขับ ต้องขอบคุณกระจกขนาดใหญ่รอบตัวรถ แต่บางคนอาจชอบตำแหน่งการขับขี่ที่สูงและดีกว่าของ Discovery Sport แดชบอร์ดส่วนใหญ่หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์และพลาสติกส่วนใหญ่ที่คุณสัมผัสนั้นดูดีแม้ว่าจะมีพลาสติกเป็นรอยง่ายอยู่ที่บริเวณประตู คุณภาพการผลิตโดยรวมเหนือกว่าของ GLC แต่ยังสู้ Q5 ไม่ได้

     ระบบสาระบันเทิงก็ใช้งานง่าย มาพร้อมจอสัมผัสขนาด 7.0 นิ้วเป็นมาตรฐาน คุณสามารถอัพเกรดเป็นจอ 10.3 นิ้วพร้อมด้วยระบบนำทางด้วยดาวเทียม มันจะบอกทิศทางของถนนข้างหน้าขึ้นบนหน้าจอแสดงผลซึ่งมีประโยชน์ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย คุณสามารถควบคุมทุกฟังก์ชั่นผ่านทัชแพดได้อย่างง่ายดาย

     คุณจะไม่มีปัญหากับพื้นที่เบาะหน้าและเบาะแถวสอง ผู้ขับขี่ตัวสูงจะมีพื้นที่ช่วงขาเหลือมากมาย ขณะที่พื้นที่ช่วงศีรษะก็ยังเหลือเยอะมากแม้ว่าจะติดตั้งหลังคากระจกพาโนรามิกไว้ด้วยก็ตาม เบาะแถวสองสามารปรับเลื่อนหน้า-หลังและปรับเอนพนักพิงได้ ทำให้มีพื้นที่มากพอสำหรับคนสูง
6 ฟุต

     เบาะแถวสามกางขึ้นได้ง่ายจากพื้นห้องเก็บสัมภาระเพราะมีสายดึงแต่มันไม่เหมาะกับคนที่ตัวสูงเกิน 5 ฟุต 6 นิ้ว ทั้งนี้ แม้ว่า Discovery Sport จะไม่มีพื้นที่เบาะแถวสามมากนัก แต่โดยรวมมันก็กว้างขวางกว่า GLB

     ห้องเก็บสัมภาระของ GLB ใส่กระเป๋าแบ็คแพ็คได้ 2 ใบเมื่อกางเบาะแถวสามขึ้น แต่เมื่อพับลงจะมีพื้นที่มากมายเกินคาด แถมยังมีตะขอเกี่ยวและช่องชาร์จ USB อีก 2 ช่อง อันที่จริงแล้วในแง่ปริมาตรความจุ GLB อยู่ระหว่าง Q5 ที่เล็กกว่า กับ Discovery Sport ที่ใหญ่กว่า พับเบาะแถวสองแล้วคุณจะพบกับพื้นราบขนาดใหญ่เพื่อใส่สิ่งของ แต่ Peugeot 5008 ที่ราคาถูกกว่านั้นเป็นรถ 7 ที่นั่งที่มีประโยชน์ใช้สอยมากกว่า อย่างไรก็ตาม นี่คือเอสยูวี 7 ที่นั่งที่มีตราสัญลักษณ์ดาว 3 แฉกบนกระจังหน้าซึ่งมาพร้อมภายในที่หรูหรา เทคโนโลยี และคุณภาพการขับขี่ที่เหมาะสมตามที่หวัง ทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อหลายๆ คน

      แน่นอนว่า Q5 ยังคงเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ที่เราปลาบปลื้มแต่ติดนิดนึงที่มันไม่มีเบาะแถวสาม และขณะที่ Discovery Sport มีหลายอย่างเหนือกว่า GLB อย่างเช่นเรื่องพื้นที่ Mercedes เองก็ได้สร้างรถเอสยูวีทางสายกลางที่ดีเยี่ยมรอบด้านออกมา ซึ่งจุดด้อยของมันมีน้อยมาก