Mercedes-Benz GLB เน้นพรีเมียมแต่ลุยได้เกือบทุกสภาพถนน

เมื่อพูดถึงรถเอสยูวี ตอนนี้คุณมีตัวเลือกมากมาย มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ แบบสปอร์ต แบบออฟโรด แบบไฮบริด และแบบไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม มีรถเอสยูวีจำนวนมากที่มี 7 ที่นั่งแต่ไม่ได้ขนาดใหญ่เท่าเรือบรรทุกเครื่องบิน เอสยูวีเล็ก 7 ที่นั่ง ตัวนี้มีการขับขี่ไม่ขี่เหร่ เน้นความพรีเมียมที่มาพร้อมความอเนกประสงค์แต่ยังลุยได้หลายสภาพถนน  คุณภาพการขับขี่บนถนนและภายในที่จุได้ 7 คน ทำให้ GLB น่าดึงดูดอย่างประหลาดใจ 

     ” อย่าทำอะไรเกินตัว ” นี่คือคำพูดที่เราเชื่อว่าหลายคนในที่นี้ก็ต้องเคยได้ยินมาบ้าง สำหรับเรามันเป็นคำพูดที่ดูไม่ค่อยน่าฟังและเป็นประโยคที่มันทำให้เราไม่กล้าก้าวออกจากเซฟโซนเพื่อได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ บ้างแต่เมอร์เซเดสไม่ใช่แบบนั้น  เขาสะบัดทุกกฎเกณฑ์ออกให้เหลือแต่เพียงความท้าทาย

      Mercedes-Benz GLB สุดยอดรถยนต์เอสยูวี 7 ที่มีความพรีเมียมเป็นเกราะกำบังแต่เนื้อในจริง ๆ แล้วมันมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้อยู่ หากให้พูดเปรียบเปรยก็คงจะเป็นเหมือนการอย่าตัดสินใครเพียงเพราะเห็นเขาเพียงเปลือกนอก คุณต้องได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงจะรู้ว่า จริง ๆ มันอาจจะมีอะไรมากกว่าที่เราคิด และคุณอาจจะอึ้ง ทึ่ง จนต้องอ้าปากค้างไปเลยก็ได้ ทาเลนท์แรกของ Mercedes-Benz GLB  เอสยูวีหรูคลาสใหม่นี้สามารถยัดเบาะ 7 ที่นั่งไว้ในตัวถังขนาดคอมแพ็ค !!

     เพราะนี่คือ Mercedes-Benz GLB รุ่นใหม่ คลาสใหม่แกะกล่อง ตัว B ที่ชื่อของมันอาจทำให้คุณเข้าใจว่ามันมีภายในเล็กกว่า GLC แม้ว่ามันจะสั้นกว่าเพียง 2-3 ซม. แต่มันก็สามารถยัดเบาะนั่งแถวที่สามเข้าไปได้ ราคาค่าตัวของมันใกล้เคียงกับ Audi Q5, BMW X3 ตลอดจน Land Rover Discovery Sport ซึ่งตอนนี้ GLB เป็นเพียงเอสยูวีหรูรุ่นเดียวที่มี 7 ที่นั่งในแพ็คเกจราคาเท่านี้

     และตอนนี้เรามีโอกาสได้ทดลองขับ Mercedes-Benz GLB บนระยะทางสั้น ๆ แต่ก็ทำให้เราจับสังเกตมองหาความโดดเด่นของเอสยูวี 7 ที่นั่งนี้ได้ไม่น้อย สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้หลังจากยัดตัวเองเข้าไปอยู่หลังพวงมาลัยและใช้ความคุ้นชินกับมันสักพักบนถนน นั่นคือ ระบบกันสะเทือนแบบคอมฟอร์ทพร้อมโช๊คอัพแบบแปรผันสามารถปรับความนุ่มหรือแข็งในขณะขับขี่ได้เอง มันน่าพอใจมากในโหมด Comfort แต่ในโหมด Sport ไม่รู้สึกหนึบเหมือน X3 เวอร์ชั่น AMG สักเท่าไหร่

      เมื่อเราลองเหยียบไปที่ความเร็วสูงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.6 วินาที ซึ่งไวพอที่จะโลดแล่นบนถนนหลวงได้อย่างสบายใจ เร่งดีกว่า Discovery Sport และยังวิ่งได้เงียบแต่จะมีเสียงคำรามดังบ้างในตอนรอบสูง ส่วนนี้จะยังเดินตามหลัง Audi Q5 อยู่อย่างเห็นได้ชัด

      ด้วยความที่ GLB มันเป็นรถยนต์รูปทรงกล่องต้องยอมรับว่าเราจะได้ยินเสียงลมเล็ดลอดผ่านกระจกมาแน่นอน แต่เราประทับใจจังหวะการเปลี่ยนเกียร์มาก มันไม่กระตุกทำงานได้เนี้ยบมาก นุ่มนวลไร้การสะดุดทำงานฉับไวแม่นยำกว่า Q5 รวมถึงไฟหน้ารถที่มันจะปรับไฟสูงให้อัตโนมัติเพื่อไม่เป็นการรบกวนกับผู้ร่วมถนน

      เราพบว่า ข้อดีและความโดดเด่นของมันถูกยัดใส่ไว้ในภายในเกือบทั้งหมด เริ่มตั้งแต่เบาะนั่งฝั่งคนขับมีทัศนวิสัยที่ดีมาก ต้องขอบคุณกระจกขนาดใหญ่รอบตัวรถ แดชบอร์ดส่วนใหญ่หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์และพลาสติกส่วนใหญ่ที่คุณสัมผัสนั้นดูดีแม้ว่าจะมีพลาสติกเป็นรอยง่ายอยู่ที่บริเวณประตู คุณภาพการผลิตโดยรวมเหนือกว่าของ GLC แต่ยังสู้ Q5 ไม่ได้


      ความเพลิดเพลินขณะเดินทางเป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กับรถยนต์อยู่แล้ว เราประทับใจระบบสาระบันเทิงที่มีการใช้งานง่ายมาก มาพร้อมจอสัมผัสขนาด 7.0 นิ้วและระบบนำทางด้วยดาวเทียม มันจะบอกทิศทางของถนนข้างหน้าขึ้นบนหน้าจอแสดงผลซึ่งมีประโยชน์ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย คุณสามารถควบคุมทุกฟังก์ชั่นผ่านทัชแพดได้อย่างง่ายดาย

      อีกหนึ่งความจรรโลงใจของผู้โดยสารและผู้ขับขี่ที่ถ้ามองเข้าไปจากภายนอกก็คงไม่สามารถรู้ได้เลยจริง ๆ นั่นคือ Ambient Light จริง ๆ มันสองแง่สองง่าม แง่แรกเรายกให้เป็นการตกแต่งเพื่อความสวยงาม เพิ่มมูลค่าความเป็น luxury ขึ้นอีกหนึ่งระดับ แต่อีกแง่หนึ่งก็เป็นเรื่องของการถนอมสายตาขณะเดินทางได้เป็นอย่างดี

     พื้นที่ภายในมันถูกออกแบบมาเหมาะเหม็งไปหมด ไม่ว่าผู้โดยสารจะมีความสูงเท่าไหร่ก็สามารถนั่งได้สบายตลอดทางหัวไม่ชนเพดานเข่าไม่ชนเบาะหน้า (ขนาดว่ามีกระจกพาโนรามิกขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่) เบาะแถวสองสามารปรับเลื่อนหน้า-หลังและปรับเอนพนักพิงได้

     เบาะแถวสามกางขึ้นได้ง่ายจากพื้นห้องเก็บสัมภาระเพราะมีสายดึงแต่มันไม่เหมาะกับคนที่ตัวสูงเกิน 5 ฟุต 6 นิ้ว ทั้งนี้ แม้ว่า Discovery Sport จะไม่มีพื้นที่เบาะแถวสามมากนัก แต่โดยรวมมันก็กว้างขวางกว่า GLB ห้องเก็บสัมภาระของ GLB ใส่กระเป๋าแบ็คแพ็คได้ 2 ใบเมื่อกางเบาะแถวสามขึ้น แต่เมื่อพับลงจะมีพื้นที่มากมายเกินคาด แถมยังมีตะขอเกี่ยวและช่องชาร์จ USB อีก 2 ช่อง

     เพราะนี่คือเอสยูวี 7 ที่นั่งที่มีตราสัญลักษณ์ดาว 3 แฉกบนกระจังหน้าซึ่งมาพร้อมภายในที่หรูหรา เทคโนโลยี และคุณภาพการขับขี่ที่เหมาะสมตามที่หวัง ทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อหลายๆ คน ไม่ว่าคู่แข่งของมันจะทำได้ดีหรือด้อยกว่าแต่รถยนต์ทุกรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป Mercedes เองก็ได้สร้างรถเอสยูวีทางสายกลางที่ดีเยี่ยมรอบด้านออกมา ซึ่งจุดด้อยของมันมีน้อยมาก

Exit mobile version