Mercedes-Benz GLA 2020 เอสยูวีครบเครื่องเรื่องเดินทาง

Overview Of Car

การขับขี่เป็นไปตามคาด ไม่กระด้างมากไป แถมการตกแต่งภายในมอบความตื่นตา

Mercedes ทะยานออกสู่ถนนเพื่อสร้างความมั่นใจว่า SUV เจน 2 นั้นเป็นมากกว่ารถแฮทช์แบ็กธรรมดา ค่าตัวอยู่ที่ล้านต้นๆเท่านั้น 

      บางคนคิดว่ามันได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นครั้งแรกโดย Mark Twain ในขณะที่คนอื่น ๆ ให้เครดิตกับโฮเมอร์ (จาก iliad มากกว่าชื่อเสียงของ Simpsons) แต่สำหรับใครก็ตามที่เป็นคนคิดขึ้นมากับคำพูดที่ว่า ‘คนงามเพราะแต่ง’ หรือแท้จริงแล้วรถก็เป็นเช่นนั้น

      Mercedes-Benz GLA เดิมเคยเป็นมากกว่ารถแฮทช์แบ็กตระกูล A-Class เมื่ออยู่กลางถนนแต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำยอดขายได้ถึงล้านคันจากทั่วโลก มาดูกันว่า Mercedes จะเป็นตำนานอีกในครั้งที่สองหรือไม่?

     เอสยูวีนี้มีความเกี่ยวข้องกับตระกูล A-Class อีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นรุ่นที่สี่ที่มาก่อนแต่
Mercedes อ้างว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนใครเพื่อให้ GLA ใหม่มีตัวละครแบบสแตนด์อโลนมากขึ้นและแน่นอนว่ามีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นกว่าเดิมอย่างน้อยก็ภายนอก

     ในตอนแรกมีให้เลือก 4 แบบ โดยขับเคลื่อนล้อหน้า, เบนซินเทอร์โบชาร์จ 1.3 ลิตร 161 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้ใช้ร่วมกับ GLA 200d และ GLA 220d 2.0 ลิตร ซึ่งมีกำลัง 148 แรงม้า และ 187 แรงม้า ตามลำดับและมีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อนล้อหน้าหรือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

สเปครถยนต์

สมรรถนะการขับขี่

     เราได้ขับ GLA 250 รุ่นเบนซินมาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร 222 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ และเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด ความนุ่มนวลของเครื่องยนต์ยังไม่เทียบเท่า Audi Q3 และ BMW X1 แต่พลังในส่วนของช่วงล่าง ช่วงกลางค่อนข้างดี GLA มีประสิทธิภาพในการเร่งความเร็วระยะ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลา 6.7 วินาที ซึ่งเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบมาก

      เมื่อเปลี่ยนโหมดการขับขี่จากแบบ Comfort เป็น Sport และเสียงคำรามของท่อไอเสียนั้นดีจนน่าพึงพอใจ ภายใต้อัตราการเร่งและเสียงที่แตกแปลก ๆ เมื่อคุณยกเท้าออก ในขณะที่เกียร์อัตโนมัติส่วนใหญ่จะลื่น แต่การเปลี่ยนเกียร์อาจกระตุกเล็กน้อยที่ความเร็วต่ำกว่า ตัวอย่างเช่น เมื่อเบรกเพื่อหยุดบนถนนในเมือง เหนือสิ่งอื่นใดคือ การปรับปรุงการขับขี่และการควบคุมที่โดดเด่น ซึ่งไม่ใช่แค่ดีกว่ารุ่นก่อนเพียงอย่างเดียวแต่ยังสามารถเทียบเคียงคู่แข่งได้ดีที่สุดเช่นกัน

      พวงมาลัยค่อนข้างเบาแต่แม่นยำ นอกจากนี้ยังมีการยึดเกาะถนนที่ดีมากและการโยนตัวของรถที่ได้รับการควบคุมเป็นอย่างดี หากคุณมีระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ที่เป็นอุปกรณ์เสริมใน Sport ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้การขับ GLA นั้นมีความคล่องตัว

      นอกจากนี้การขับขี่ยังเป็นไปตามสภาพความเหมาะสมของรถ แม้กระทั่งในล้ออัลลอย 20 นิ้ว ที่ติดตั้งสำหรับรถทดสอบและด้วยเสียงรบกวนจากถนนที่ถูกคัดกรองได้เป็นอย่างดี GLA จึงเป็นรถที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเมื่อต้องเดินทางไกล

หลังพวงมาลัย

      จากด้านหลังพวงมาลัย GLA มีลักษณะเกือบจะเหมือนกับ A-Class มีเพียงแค่ตำแหน่งของเบาะที่รู้สึกว่าสูงกว่าเท่านั้น อย่างไรก็ตามความเป็นลูกเหมือนกับ A-Class นั้นทำให้รู้สึกตะลึงมากในด้านการออกแบบแดชบอร์ดที่แม้ว่า X1 จะรู้สึกทนทานกว่าก็ตามและระบบสาระบันเทิงนั้นค่อนข้างใช้งานง่ายทำให้คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่นมากมายของรถผ่านทัชแพดหน้าจอสัมผัสหรือระบบควบคุมด้วยเสียงที่ดีที่สุด

      เบาะนั่งด้านหลังได้รับการแก้ไขตามมาตรฐาน คุณสามารถจัดแจงเบาะที่นั่งเลื่อนปรับองศาได้ว่าควรจะพอดีโดยที่หัวเข่าไม่สัมผัสกับเบาะหน้า แต่สำหรับผู้ที่มีความสูงกว่า 180 ซม. อาจจะต้องการพื้นที่ในส่วนนี้มากกว่าหน่อย

      เช่นเดียวกับ A-Class รุ่นล่าสุด ซึ่ง GLA ใหม่ เป็นรถยนต์ที่ครบครันมากกว่ารุ่นก่อน ให้การขับขี่ที่แม่นยำมากขึ้น ความสะดวกสบาย การปรับแต่งและการตกแต่งภายในที่หรูหราใช้งานได้จริง รวมถึงราคาที่สมคำคุยถัดจาก Q3 หรือ X1 ได้เลย และถูกกว่า Range Rover Evoque รุ่นเบนซิน เริ่มต้นที่ 1,650,500 บาท