Mercedes-Benz โชว์วิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” พร้อมเผยโฉมยนตรกรรมระดับลักชัวรี่ครบทุกรุ่น ที่บูธ A19 ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44  

       บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” ยกทัพยนตรกรรมระดับลักชัวรีลุยงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44″ ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2566 ที่บูธหมายเลข A19 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี โดยไฮไลท์สำคัญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในปีนี้ คือการเผยโฉมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ รุ่นล่าสุด อย่าง “EQB 250 AMG Line” รถเอสยูวีไฟฟ้า ที่นั่ง ที่ผสานความหรูหราและความสะดวกสบายในทุกมิติ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูง วิ่งได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ผลิตและนำเข้าแบบ CBU พร้อมเปิดราคาจำหน่ายที่ 3,020,000 บาท

       ภายในบูธ ยังมีการจัดแสดงยนตรกรรมเหนือชั้นอีกมากมาย อาทิ “EQS 500 4MATIC AMG Premium” รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่วิ่งได้ไกลถึง 702 กิโลเมตร “Mercedes-AMG G 63” รถเอสยูวีพี่ใหญ่ของแบรนด์ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นราชันแห่งเส้นทางออฟโรด “Mercedes-AMG SL 43”  รถสปอร์ตโรดสเตอร์ในตำนาน รวมถึงยนตรกรรมระดับ Top-End อย่าง “Mercedes-Maybach S 580 4MATIC Premium” และรถยนต์อีกกว่า 20 รุ่น ที่พร้อมให้ทุกคนได้มาสัมผัสกับยนตรกรรมและประสบการณ์ที่เหนือระดับของเมอร์เซเดสเบนซ์ ในงานมอเตอร์โชว์

       มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ เมอร์เซเดสเบนซ์ ประเทศไทย มาพร้อมวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยผ่านแผนการดำเนินธุรกิจที่ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน ทั้งการให้ความสำคัญเกี่ยวกับแผนงานด้านความยั่งยืน (Sustainability) การนำเสนอรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (Electrification) การนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Technology and Innovation) รวมถึงการมอบประสบการณ์แบบลักชัวรี่ (Luxury Experience) โดยเราได้นำวิสัยทัศน์ดังกล่าวมาต่อยอดเป็นแนวคิดหลักในการจัดแสดงรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ ที่บูธหมายเลข A19 ในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งสะท้อนผ่านทุกองค์ประกอบทั้งในด้านของการออกแบบบูธ ที่ผสานความยั่งยืนและความล้ำสมัยในยุค Digital โดยเน้นการประยุกต์ใช้จอ LED ขนาดใหญ่มาติดตั้งที่รอบตัวบูธในรูปแบบ 360 องศา ควบคู่ไปกับการจัดแสดงยนตรกรรมทุกรุ่นของเมอร์เซเดสเบนซ์ ที่มีมากกว่า 20 รุ่น โดยมีรุ่นไฮไลท์อย่าง EQB 250 AMG Premium รถพลังงานไฟฟ้า 100% ในรูปแบบเอสยูวี ที่จะถูกจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และทุกคนจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับ EQS 500 4MATIC AMG Premium / Mercedes-AMG G 63 และ Mercedes-AMG SL 43 รวมถึงรถในกลุ่ม Mercedes-Maybach และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอย่าง C 350 e AMG Dynamic นอกจากนี้ ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมทุกคนจะได้รับประสบการณ์แบบลักชัวรี่ที่บูธเมอร์เซเดสเบนซ์ ภายในงาน หรือที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดสเบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศไทย ตลอดช่วงเวลาของการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44″


พบกับ EQB 250 AMG Line เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

       EQB 250 AMG Line รถพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ล่าสุด ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ ผลิตและนำเข้าทั้งคันแบบ CBU มาพร้อมตัวถังในรูปแบบเอสยูวีที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับรถ Compact SUV ของแบรนด์อย่าง GLB รองรับผู้โดยสาร ที่นั่ง ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ PSM ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 66.5 kWh มีระยะทางการขับขี่สูงสุด 460 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จแบบ DC สูงสุด 100 kW ใช้เวลาชาร์จไฟฟ้าจาก 10 – 80% เพียง 32 นาที สำหรับการชาร์จแบบ AC รองรับสูงสุด 11 kW ใช้เวลาชาร์จไฟฟ้าจาก 0 – 100% ประมาณ ชั่วโมง 50 นาที โดยนอกจากความโดดเด่นจากการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในรูปแบบเอสยูวีแล้ว EQB 250 AMG Line ยังมีการออกแบบในสไตล์ AMG ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมติดตั้งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งความบันเทิงและความสะดวกสบายภายในรถ ระบบความปลอดภัยขั้นสูงรวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่หลายรายการ ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าในระดับลักชัวรี่ ที่มีทั้งความหรูหรา ความสปอร์ต ตามแบบฉบับของเมอร์เซเดสเบนซ์ ในราคาที่เหมาะสม

*EQB 250 AMG Line วางจำหน่ายในราคา 3,020,000 บาท

สัมผัสคันจริงกับราชันแห่ง Off-Road “Mercedes-AMG G 63”

        Mercedes-AMG G 63 ยนตรกรรมสุดคลาสสิคในรูปแบบเอสยูวีขนาดใหญ่ ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ดุดันในสไตล์ G-Class พร้อมสมรรถนะที่ทรงพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0 ลิตร 3,982 ซีซี Bi-Turbo ให้กำลังสูงสุด 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ติดตั้งเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT อัตโนมัติแบบ 9 จังหวะ มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชมเพียง 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชมพร้อมระบบขับเคลื่อน ล้อ AMG PERFORMANCE 4MATIC all-wheel drive ที่ทำให้รถยนต์คันนี้เป็นสุดยอดยนตรกรรมสำหรับการตะลุยเส้นทางแบบออฟโรดได้อย่างไร้ที่ติ

*Mercedes-AMG G 63 วางจำหน่ายในราคา 17,920,000 บาท

 

Exit mobile version