ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) สุดยอดแบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลกสัญชาติอิตาลี ประกาศเปิดตัว “Urus Performante” ปรากฏการณ์ใหม่แห่งสุดยอดสมรรถนะและสัมผัสการขับขี่แนวสปอร์ตในแบบฉบับซูเปอร์เอสยูวี ภายใต้รูปลักษณ์ที่สะท้อนถึงความหรูหราเหนือระดับของยานยนต์ Urus พร้อมสะกดทุกสายตาทั้งบนท้องถนน สนามแข่งขัน หรือแม้แต่บนเส้นทางสุดทรหด ซึ่งทำให้ Urus Performante คือมาตรฐานใหม่แห่งสุดยอดงานดีไซน์อันเปี่ยมพลัง ที่ผสานระบบวิศวกรรมยานยนต์ระดับซูเปอร์สปอร์ตไว้อย่างลงตัว
Urus Performante คือการยกระดับสมรรถนะการขับขี่และรูปลักษณ์ที่หรูหราของยานยนต์เอสยูวีลัมโบร์กินีให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น โดยยังคงรักษามาตรฐานการใช้งานแบบอเนกประสงค์ที่หรูหราสะดวกสบาย และผสานประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่เพียงเฉพาะการใช้งานบนท้องถนนประจำวัน แต่ยังมอบความโดดเด่นบนทุกเส้นทางด้วยดีไซน์อันหรูหราน่าประทับใจ จนถือเป็นเกณฑ์สมรรถนะใหม่ของวงการยานยนต์ระดับโลกเลยทีเดียว
รถยนต์ Urus รุ่นนี้สร้างมาตรฐานใหม่ทันทีที่เปิดตัว แสดงให้เห็นถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีของลัมโบร์กินี เพื่อการสร้างสรรค์ซูเปอร์เอสยูวีรุ่นแรกของโลกสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเต็มภาคภูมิ เพราะ Urus Performante ยกระดับมาตรฐานของวงการเอสยูวีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ภายนอก
Urus Performante มีการออกแบบเส้นสายบนฝากระโปรงให้ยาวต่อเนื่องลงมาถึงแผงกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และมาพร้อมช่องระบายลมวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีเดียวกับตัวรถ โดยลูกค้าสามารถเลือกแบบโชว์วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ได้ ทั้งยังสามารถเลือกหลังคาเป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ให้เหมือนกับยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตของลัมโบร์กินีอย่าง Huracán Performante และ Super Trofeo ได้ตามต้องการ
การออกแบบสปริงใหม่ยังช่วยให้โครงแชสซีของ Performante ต่ำลงอีก 20 มม. และเพิ่มความกว้างฐานล้อขึ้นอีก 16 มม. ซุ้มล้อวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ สามารถจับคู่กับล้อน้ำหนักเบาขนาด 23 นิ้วหรือแบบมาตรฐาน 22 นิ้ว พร้อมน็อตไทเทเนียมและยาง Pirelli ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ
ยาง Pirelli P Zero (ขนาด 258/40 R22 และ 325/35 R22) เป็นรุ่นพัฒนาต่อยอดของยางรุ่น Pirelli P Zero Trofeo R ตระกูล Urus โดยนับเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตยาง Pirelli แบบกึ่งสลิคเพื่อให้สอดคล้องกับคาแรกเตอร์ของรถเอสยูวีซึ่งเกิดจากการร่วมมือพัฒนากับลัมโบร์กินี ผลลัพธ์ของความร่วมมือครั้งนี้ทำให้ได้ยางที่ใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ดีขึ้น แต่ยังคงมอบประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมทั้งบนพื้นผิวแห้งที่มีอุณหภูมิสูง และบนพื้นผิวเปียกที่มีอุณหภูมิต่ำ
Urus Performante โหลดตัวรถให้ต่ำลงเพื่อเสริมภาพลักษณ์ที่บึกบึนด้วยการออกแบบกันชนหน้าและหลังขนาดใหญ่ ซึ่งเพิ่มความยาวตัวรถ 25 มม. การออกแบบด้านหลังมีความสวยงามไม่แพ้ด้านหน้าด้วยสปอยเลอร์ขนาดใหญ่และการออกแบบฟินสปอยเลอร์หลังที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์นั้นได้แรงบันดาลใจจากรุ่น Aventador SVJ ซึ่งช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถ
กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ มาพร้อมกับท่อไอเสียแบบ Akrapovic วัสดุไทเทเนียมน้ำหนักเบาเป็นมาตรฐาน ช่วยเพิ่มพลังเสียงที่กระหึ่มทรงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินีซึ่งจะแตกต่างไปตามโหมดการขับขี่ที่เลือก ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ธีมสีทูโทนยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของ Performante ให้โดดเด่นขึ้น จากการทำชิ้นส่วนอื่น ๆ ให้มีสีแตกต่างจากตัวรถ ทั้งมือจับประตูสีดำ ช่องระบายลมคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์บนฝากระโปรงและสปอยเลอร์ลิปคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์ เป็นต้น
ภายใน
การออกแบบห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วย Alcantara สีดำ Nero Cosmus เป็นมาตรฐาน พร้อมงานเย็บเบาะนั่งหกเหลี่ยมในสไตล์ “Performante Trim” นอกจากนี้ยังเลือกออปชันเสริมได้จากธีมการตกแต่งด้วยหนังทั้งคัน และสีสันภายใน โดยสามารถเลือกสไตล์ “Performante Trim” ให้ครอบคลุมทั้งในส่วนประตู เส้นแนวหลังคา พนักพิง และผนังด้านหลังห้องโดยสาร รวมถึงโปรแกรมการตกแต่งเฉพาะแบบ Ad Personam ของลัมโบร์กินีที่มีตัวเลือกวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผิวด้านเพื่อการตกแต่งภายใน มือจับประตูสีแดง และขอบประตูพร้อมโลโก้ Ad Personam สำหรับพวงมาลัย Alcantara และหนังสีดำตกแต่งในโทนสีดำด้านให้เข้ากับห้องโดยสารธีมอลูมิเนียมชุบดำ สำหรับออปชั่น “Dark Package” จะสามารถเลือกการตกแต่งโทนสีดำด้านให้ครอบคลุมรายละเอียดของห้องโดยสารส่วนอื่น ซึ่งรวมถึงส่วนก้านของแผงควบคุมกลาง TAMBURO ที่ควบคุมฟังก์ชั่นทั้งปุ่มเปิด/ปิดเครื่องและตัวเลือกโหมดการขับขี่ต่าง ๆ ส่วนการแสดงผลกราฟิก HMI เป็นแบบใหม่ที่ออกแบบสำหรับ Urus Performante โดยเฉพาะ
เครื่องยนต์
Urus Performante มีเครื่องยนต์ V8 Twin Turbo มอบกำลังเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น 16CV สูงสุดที่ 666CV และลดน้ำหนักลงถึง 47 กก. ทำให้มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ดีที่สุดในคลาสที่ 3.2 กิโลกรัม/แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที และเบรกจากความเร็ว 100 กม./ชม. จนรถหยุดนิ่งได้ในระยะทางเพียง 32.9 เมตร โดย Urus Performante มีแรงบิด 850Nm ที่ความเร็วรอบ 2,300 – 2,400 รอบต่อนาที ความสามารถที่เหนือกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเซกเมนต์เดียวกันยังรวมถึงความเร็วสูงสุดที่ 306 กม./ชม. พร้อมประสิทธิภาพการตอบสนอง การควบคุม และความเสถียรที่เหนือชั้น นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ โดยสามารถเพิ่มแรงกดรวมได้ 8% มีการเสริมแรงบิดด้วยการใช้เฟืองท้ายแบบใหม่ที่เพิ่มอัตราส่วนจาก 3.16 เป็น 3.4 ในระหว่างการขับขี่ และ 3.02 เป็น 3.33 เมื่อวิ่งลงทางลาดด้วยแรงเฉื่อย
การขับขี่
สำหรับระบบบังคับเลี้ยว Urus Performante มอบสัมผัสใหม่แก่ผู้ขับให้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์และท้องถนนมากขึ้น ด้วยการควบคุมที่ตอบสนองฉับไวและฟีลแบบสปอร์ตอันเร้าใจในทุกจังหวะการควบคุม การคาลิเบรกการเลี้ยวล้อหน้าแบบใหม่ช่วยเพิ่มสัมผัสเชื่อมโยงกับพื้นถนนส่งผลให้การควบคุมแม่นยำและมอบการตอบสนองได้ทันที ระบบเลี้ยวล้อหลังที่ตอบสนองเร็วขึ้นยังช่วยเพิ่มความฉับไวในการเลี้ยว ซึ่งเสริมกำลังจากเวกเตอร์แรงบิดของเฟืองท้าย ไม่ว่าจะใช้โหมดการขับขี่บนถนนหรือออฟโร้ด
โหมดการขับขี่ที่ถูกออกแบบใหม่ทำให้ผู้ขับขี่ Urus Performante สามารถเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ที่แตกต่างได้ในทุกวัน โดยในโหมด STRADA จะมอบสัมผัสการขับขี่ที่หรูหราและสะดวกสบายด้วยการดูดซับแรงที่นุ่มนวล ส่วนในโหมด SPORT นักขับจะได้เพลิดเพลินกับการตอบสนองที่ดุดันสะใจ โดยระบบเลี้ยวล้อหลังจะเพิ่มความคล่องตัวในความเร็วต่ำและเพิ่มความเสถียรเมื่อใช้ความเร็วสูง และด้วยการปรับช่วงล่างใหม่ยังเพิ่มความสนุกสนานทั้งในระว่างการขับและในทุกการเปลี่ยนเกียร์ การตั้งค่าแชสซีเพื่อเสริมฟีลการขับขี่แบบสปอร์ตยังครอบคลุมถึงการใช้สปริงเหล็กกล้าที่แข็งขึ้นและการปรับแต่งแดมเปอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองให้นักขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ในทุก ๆ การขับขี่
โหมด CORSA นั้น Urus Performante ตอบโจทย์การแข่งขันอันดุเดือดด้วยประสิทธิภาพการควบคุมขั้นสูงสุด ทั้งเสถียรภาพเมื่อขับความเร็วสูง การเลี้ยวที่เสริมประสิทธิภาพด้วยเหล็กกันโคลงแบบแอ็กทีฟ พร้อมพลังเสียงสุดกระหึ่มของท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ทั้งนักขับและทุกคนในสนามได้รับรู้ถึงความเป็นยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตของลัมโบร์กินี
นอกจากโหมดการขับขี่มาตรฐานต่าง ๆ Urus Performante ยังมาพร้อมโหมดใหม่อย่าง RALLY เพื่อยกระดับการขับขี่แนวสปอร์ตที่สนุกสนานในแบบฉบับเอสยูวี และนำเสนออีกระดับของความตื่นเต้นเร้าใจในการวิ่งบนทางดิน โดยมีการเสริมสมรรถนะด้วยเหล็กกันโคลงและตัวซับแรง ซึ่งปรับปรุงให้สอดรับกับการทำงานของสปริงแม้วิ่งบนพื้นผิวขรุขระและหฤโหด ให้คุณสัมผัสมิติใหม่แห่งประสิทธิภาพซูเปอร์เอสยูวีสายพันธุ์สปอร์ตที่แท้จริง
สำหรับตลาดจีนจะได้รับการอัปเกรดเชิงเทคนิคใน Urus Performante รุ่นใหม่ โดยจะถูกตั้งค่ากำลังเครื่องยนต์ไว้ที่ 640CV ตามข้อกำหนด