ลัมโบร์กินี (Lamborghini) เปิดตัว Huracán Sterrato[1] ที่บาหลี อินโดนีเซีย โดยเป็นรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นแรกที่ถูกออกแบบเพื่อส่งมอบสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจทั้งในถนนทางเรียบและทางฝุ่น สร้างนิยามใหม่แห่งยานยนต์สปอร์ตชั้นเยี่ยมและตอกย้ำปรัชญาของ แบรนด์กับภาพลักษณ์อันกร้าวแกร่ง แบบฉบับที่ไม่ซ้ำใคร และปรากฏการณ์ใหม่ที่เหนือความคาดหมายในทุกมิติ
งานเปิดตัว Lamborghini Huracán Sterrato ได้รับเกียรติจากบุคคลระดับสูงทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียมากกว่า 250 ท่าน มาร่วมเป็นสักขีพยานท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามยามอาทิตย์อัสดงของบาหลี และรื่นรมย์ไปกับการเลี้ยงต้อนรับระดับวีไอพีโดยทีมงานลัมโบร์กินีตลอดค่ำคืน
Huracán Sterrato นำเสนอการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติและการควบคุมที่สมบูรณ์แบบในทุกสภาวะ นับตั้งแต่ทางหลวงไปจนถึงถนนดิน เมื่อเปรียบเทียบกับ Huracán EVO จะเห็นได้ว่า Sterrato มีระบบ LDVI (Lamborghini Integrated Vehicle Dynamics) ที่อัพเดทเป็นเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งได้มีการคาลิเบรตโหมด STRADA และ SPORT โดยเฉพาะ พร้อมนำเสนอโหมด RALLY สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวที่มีกริพน้อยให้แก่รถยนต์ตระกูล Huracán เป็นครั้งแรก
ภายนอก
ระบบเบรกใช้คาลิเปอร์อลูมิเนียมแบบฟิกซ์โดยมีลูกสูบเบรกหน้า 6 ตัวและลูกสูบเบรกหลัง 4 ตัว สำหรับล้อหน้า ใช้จานเบรกเซรามิกมีครีบระบายความร้อนและเจาะรูแบบ Cross-drilled เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 380 มม. และหนา 38 มม. และจานเบรกหลังขนาด 356 มม. หนา 32 มม. Huracán Sterrato ยังมาพร้อมล้อขนาด 19 นิ้วซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับยางรุ่น Bridgestone Dueler AT002 สำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เพื่อมอบความคล่องตัวและสามารถวิ่งได้บนทุกสภาพถนน พร้อมเติมเต็มทุกสัมผัส อารมณ์ และความเร้าใจได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยยางหน้าขนาด 235/40 R19 และล้อหลังขนาด 285/40 R19 ผสานเทคโนโลยียางแบบ Run-flat ซึ่งช่วยให้นักขับสามารถขับต่อไปได้อย่างปลอดภัยแม้ยางถูกตำทะลุจนไม่มีลม โดยจะวิ่งต่อไปได้อย่างน้อย 80 กม.บนความเร็ว 80 กม./ชม. ที่ความดันลม 0 บาร์ โดยยาง Bridgestone รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้สอดรับกับดีเอ็นเอของแบรนด์แบบ 100% เพราะมีการออกแบบลายดอกยางใหม่และใช้สารประกอบที่ล้ำสมัย ที่ช่วยให้ยางมีแรงยึดเกาะที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะวิ่งบนทางกรวดหรือถนนราดยาง พร้อมการควบคุมที่ดีเยี่ยมและสุดยอดประสิทธิภาพเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้คือ Huracán Sterrato นำเสนอออปชันการตกแต่งอย่างไร้ข้อจำกัดเพื่อการสร้างสรรค์ซูเปอร์คาร์ในฝันให้ตรงกับสไตล์นักขับมากที่สุดด้วย Lamborghini Ad Personam โดยลูกค้าสามารถเลือกโทนสีภายนอกได้มากถึง 350 เฉดสี ตลอดจนสีของหนังและการตกแต่งแบบ Alcantara ได้มากกว่า 60 โทน
ภายใน
นอกจากบริการต่าง ๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ ระบบติดตามรถยนต์ Lamborghini Connect ยังผสานการทำงานกับ Amazon Alexa เพื่อช่วยในการปรับแต่งฟีเจอร์การทำงานต่าง ๆ ของรถ เช่น เครื่องปรับอากาศและไฟส่องสว่าง รวมถึงการควบคุมและระบบนำทาง การคุยสายโทรศัพท์และความบันเทิง ซึ่งควบคุมได้ง่าย ๆ ผ่านระบบการสั่งการด้วยเสียง นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมรถยนต์จากระยะไกลได้ด้วยแอป Lamborghini UNICA ยกตัวอย่างเช่น การตรวจสอบความเร็วรถจากระยะไกลและการส่งพิกัดจุดหมายไปยังระบบนำทางได้โดยตรง
Huracán Sterrato มาพร้อมระบบเชื่อมต่อระยะไกลที่ช่วยให้นักขับสามารถตรวจสอบสมรรถนะรถยนต์และวิเคราะห์ข้อมูลผ่านทางแอป UNICA โดยผู้ที่ใช้ Apple Watch ยังสามารถซิงค์ข้อมูลอัตราการเต้นหัวใจเข้ากับระบบเชื่อมต่อ[1] เพื่อตรวจวัดสมรรถนะการขับขี่ของตัวเอง โดยสามารถใช้ฟังก์ชั่น Lamborghini Drive Recorder เพื่อบันทึกประสบการณ์การขับขี่ได้ตามต้องการ ให้นักขับเก็บช่วงเวลาแสนเร้าใจในรูปแบบคลิปวิดีโอ ซึ่งช่วยยกระดับการใช้งานฟีเจอร์ Board Diaries ซึ่งเป็นสมุดบันทึกดิจิทัลที่ผสานการทำงานเข้ากับแอป Lamborghini UNICA ไว้อย่างลงตัว
[1] อัตราการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียของ Huracán Sterrato; การใช้เชื้อเพลิงแบบ Combined: 14,9 l/100km (WLTP); การปล่อยไอเสียแบบ Combined: 337 g/km (WLTP)