Land Rover เปิดตัวเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติบนทางออฟโรด

         Jaguar Land Rover เผยโฉมรถยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบที่มีความสามารถในการลุยบนทางออฟโรดได้

        เทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า Project Cortex ทำงานโดยการใช้เซ็นเซอร์หลายตัวช่วยกันสแกนพื้นที่รอบๆ รถออกมาเป็นภาพ 5 มิติ ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนผ่านภูมิประเทศต่างๆ โดยไม่ต้องพึ่งการควบคุมจากผู้ขับ ระบบสามารถเรียนรู้การขับขี่ในแต่ละภูมิประเทศได้เองตลอดเวลา

        Project Cortex สามารถตรวจจับได้ทุกพื้นผิวและทุกสภาพอากาศ ระบบจะใช้เสียงสะท้อน วีดีโอ เรดาร์ และเซ็นเซอร์ LIDAR มาจำลองเป็นแผนที่บริเวณรอบๆ ตัวรถ ผู้ขับสามารถเลือกให้ระบบทำงานได้ทั้งรูปแบบกึ่งอัตโนมัติ (Level 3) และอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Level 4 และ 5) ในขณะขับขี่

        Chris Holmes ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและวิจัยเกี่ยวกับรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติของ JLR กล่าวว่า “มันสำคัญมากที่เราสามารถพัฒนารถยนต์ขับขี่ด้วยตัวเองออกมา ซึ่งมันยังคงไว้ทั้งสมรรถนะและความอเนกประสงค์แบบที่ลูกค้าของ Jaguar Land Rover คาดหวัง”

        “รถยนต์ขับขี่ด้วยตัวเองเป็นมิติใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์และเรามั่นใจว่าเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติของเราจะสร้างความสนุกสนานเป็นที่สุด ความสามารถและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เราต้องสำรวจขอบเขตของนวัตกรรม” “Cortex ช่วยให้เรามีโอกาสทำงานร่วมกับคู่ค้าที่ยอดเยี่ยมและช่วยให้เราตระหนักถึงวิสัยทัศน์ในอนาคตอันใกล้นี้”

        เทคโนโลยีนี้ได้รับการทดสอบแล้วในสนามออฟโรดของอังกฤษ อัลกอริทึมช่วยให้เทคโนโลยีนี้เป็นจริงได้ แต่เซ็นเซอร์ต่างๆ ก็ต้องมีการพัฒนาและปรับแต่งให้ดียิ่งขึ้น JLR ยังคงปิดปากเงียบกับรายละเอียดปลีกย่อยเช่น เมื่อไรที่เทคโนโลยีจะได้การรับรองอย่างเป็นทางการ และพาร์ทเนอร์ของโครงการมีความเห็นต่างกันในเรื่องความอิสระในการขับขี่บนท้องถนน

         อย่างไรก็ตามทั้งสองแบรนด์ก็ได้เปิดตัวเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติแห่งอนาคตแล้วใน Range Rover ต้นแบบ ซึ่งสามารถทำงานได้ในระดับ 4 ผู้ขับขี่ต้องมีส่วนร่วมในการควบคุมเมื่อจำเป็น แต่ไม่ต้องใส่ใจกับถนน จับพวงมาลัย หรือควบคุมใดๆ

        Jaguar ได้ร่วมมือกับบริษัท Waymo ในเครือของ Google และเข้าเป็นส่วนหนึ่งใน Project Autodrive ของอังกฤษซึ่งเป็นการร่วมมือกับ Ford ในการทดสอบรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติบนท้องถนนของอังกฤษ

 

Exit mobile version