Hyundai H-1 และ Grand Starex ไมเนอร์เชนจ์เปลี่ยนแปลงหน้าตา ราคาเริ่มที่ 1,329,000 บาท

        ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย Hyundai H-1 และ Grand Starex รุ่นปรับโฉมใหม่ปี 2018 มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและออปชันที่ครบครัน ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

        นับตั้งแต่รถทั้งสองรุ่นที่เปิดตัวในปี 2551 และ 2553 Hyundai H-1 และ Grand Starex ได้กลายเป็นตัวเลือกรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าที่ชื่นชอบความสะดวกสบายและคุ้มค่า ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการปรับแต่งด้านรูปลักษณ์และอุปกรณ์ต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง แต่การปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้นับเป็นการปรับรูปลักษณ์ใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา

ยกระดับสู่ความโมเดิร์น

          สิ่งที่เปลี่ยนไปแบบชัดเจนที่สุดคือรูปลักษณ์ดีไซน์ ภายนอกของ H-1 และ Grand Starex ใหม่ ถูกออกแบบให้มีความทันสมัยและโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ด้านหน้าที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมใหม่แบบแนวนอนช่วยให้ดูแข็งแกร่งและทรงพลัง ไฟหน้าฮาโลเจนเลนส์โปรเจคเตอร์และไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ สอดรับกับกระจังหน้าได้อย่างลงตัว 

         กระโปรงหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ช่วยให้ดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยางขนาด 215/70 R16 ใน H-1 และ 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 235/60 R17 ใน Grand Starex กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวถูกออกแบบใหม่ให้มีความโค้งมนมากยิ่งขึ้น เส้นสายข้างตัวรถใหม่ที่ช่วยให้รถพลิ้วไหวดูมีมิติ ส่วนด้านท้ายมาพร้อมกับไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่เพิ่มความหรูหรามีระดับและให้ความสวยงามยามค่ำคืน

            มิติตัวรถยาว 5,169 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,925 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้น 190 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร เทียบเท่ารถยนต์นั่ง D-Segment ถังน้ำมันจุ 75 ลิตร เดินทางไกลข้ามจังหวัดสบายหายห่วง

เพิ่มความสมบูรณ์แบบภายในห้องโดยสาร

          ภายในห้องโดยสารของ H-1 และ Grand Starex ใหม่ ได้รับการออกแบบด้วยวัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร ลายไม้ดีไซน์ใหม่ มาพร้อมเบาะหนังตัดเย็บลวดลายใหม่ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ด้วยระบบเบาะ อุ่น/เย็น สำหรับคนขับ และพวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)

          จำนวนที่นั่งภายในห้องโดยสารยังคงไม่มีการปรับเปลี่ยน H-1 เป็นเบาะ 4 แถว 11 ที่นั่งแบบ 2 : 3 : 3 : 3 ส่วน Grand Starex เป็นเบาะ 3 แถว โดยแถวที่ 2 เป็นเบาะแบบ VIP ที่มาพร้อมพนักพิงแขนที่พักขาปรับด้วยไฟฟ้า สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ที่นั่ง มีไฟภายในห้องโดยสารแบบ LED พร้อม Mood Lighting ปรับเปลี่ยนได้ 6 สีสะดวกสบายด้วยประตูสไลด์ด้านซ้ายและขวาเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมรีโมท

         ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อที่ครบครัน ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าสามารถควบคุมระบบเครื่องเสียงผ่านหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 8 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wifi สำหรับห้องโดยสารตอนหลัง ติดตั้งจอ LCD ขนาด 13.3 นิ้ว ติดเพดานแบบพับไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง มีระบบแผนที่นำทาง Navigation System และลำโพง 6 ตำแหน่ง

         สำหรับ Grand Starex นั้นจะถูกเพิ่มความพิเศษเข้าไปอีกขั้นด้วยชุดเครื่องเสียง DVD จาก Pioneer ที่เคาน์เตอร์บันเทิงด้านหน้าเบาะแถว 2 พร้อมจอ Full-HD ขนาด 22 นิ้ว และลำโพงด้านหลัง 4 ตัวจาก Pioneer

ขุมพลังใต้ฝากระโปรง

          H-1 และ Grand Starex ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตร 4สูบ 16 วาล์ว CRDI พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบ Sequential shift สำหรับเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเอง ให้การตอบสนองทันใจและประหยัดน้ำมัน

         พวงมาลัยเป็นแบบแร็คแอนด์พิเนียนพร้อม Hydraulic Assist กันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท กันสะเทือนหลังแบบไฟว์ลิ้งก์พร้อมคอลย์สปริง ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรก 4 ล้อ

ความปลอดภัย

            H-1 และ Grand Starex ใหม่อัพเกรดเพิ่มระบบความแลอดภัยเข้ามาใหม่หลายอย่าง ประกอบด้วย ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP) และถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่งบริเวณคนขับและผู้โดยสานตอนหน้า รวมกับระบบความปลอดภัยเดิมที่แน่นคัน อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบล็อคประตูสัมพันธ์กับความเร็ว Speed Auto Lock กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Smart View เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลั ตลอดจนระบบสัญญาณกันขโมย

          H-1 มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อยได้แก่ Deluxe, Elite และ Touring มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ Hyper Metallic, Timeless Black และ Tan Brown ส่วน Grand Starex มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อยได้แก่ Premium และ VIP มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ Arctic White, Hyper Metallic และ Timeless Black

ราคาจำหน่าย

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.hyundai.co.th

Gallery

Exit mobile version