Ford Ranger FX4 Max 2021 กระบะคันเดียวเอาอยู่หมัด

ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 Max พิสูจน์ความแกร่งผ่านการทดสอบสมรรถนะของเหล่าสื่อมวลชน กระบะรุ่นใหม่สำหรับชาวออฟโรด ตัวตนชัดเจนพร้อมลุยทุกท้องถนนด้วยเครื่องยนต์ไลน์เดียวกับรุ่นพี่ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

                เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ฟอร์ด ประเทศไทย ส่งจดหมายชวนสื่อมวลชนก้าวข้ามความท้าทายแบบเต็มแม็กซ์ เพื่อทดสอบสมรรถนะออฟโรดกับ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 Max ใหม่’ รถกระบะรุ่นล่าสุดสำหรับคอออฟโรดตัวจริง มอบประสบการณ์การขับขี่สุดท้าทายและชุดตกแต่งสุดเท่พร้อมลุย ณ สนามออฟโรดที่ออกแบบเป็นพิเศษ

                ทีม ฟอร์ด ประเทศไทย และคณะสื่อมวลชนได้รับการต้อนรับโดยผู้บริหารของฟอร์ดเป็นอย่างดี พร้อมรับฟังข้อมูลของผลิตภัณฑ์ในเรื่องของการออกแบบและเทคโนโลยีของ ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 Max ใหม่ รวมถึงการได้ยลโฉมดีไซน์สุดเท่ของรถที่แต่งเสร็จจากโรงงาน จากนั้นสื่อมวลชนเริ่มเข้าประจำที่เตรียมพิสูจน์ความเจ๋งของเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

default

                สำหรับการทดสอบในสนามจำลองออฟโรดครั้งนี้มีถึง 5 สถานี เริ่มด้วย สถานีที่ 1 นั่นคือ การขับ ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 Max ใหม่ ลงทางลาดชันด้วยเกียร์ต่ำ โดยใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4L) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่เราสามารถทำการควบคุมเปิด-ปิด เองได้ ซึ่งทางมันค่อนข้างชันมากกว่าปกติหลายเท่าและระบบที่กล่าวมาในเบื้องต้นนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องเหยียบเบรก รถจะค่อย ๆ เคลื่อนไปตามเส้นทาง เหลือแค่เราที่ต้องนั่งควบคุมทิศทางอยู่หลังพวงมาลัยเท่านในระดับความเร็วที่เหมาะสม เราประทับใจตรงที่มันไม่ต้องมาให้เรานั่งลุ้นว่ารถจะกระตุกตอนไหน มันโฟลว์มากและลุยได้อย่างสบาย

default

                ต่อมาเป็นเรื่องปรับโหมดการขับขี่จากการขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นการขับขี่ 2 ล้อ แบบ Shift on the Fly ในสถานีที่ 2 การขับขี่แบบสลาลมบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคจากหินก้อนเล็ก โดยใช้ความเร็วต่ำที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งยิ่งง่ายต่อการควบคุมรถด้วยพวงมาลัยไฟฟ้าที่มีน้ำหนักกำลังดีขนาดพอเหมาะกับมือ หักซ้ายหลบขวา ก็ยังมอบความมั่นใจได้ด้วยระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program หรือ ESP) รวมถึงระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล (Traction Control) พาผู้ขับผ่านเส้นทางคดเคี้ยวพร้อมตัวช่วยยางออลเทอร์เรน KO2 จาก BF Goodrich ขนาด 265/70 R17 ที่ยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคงและเพิ่มความสมดุลในการกระจายน้ำหนัก

                มาถึงสถานีที่ 3 ที่เหล่าสื่อมวลชนจะได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพและความโดดเด่นของสมรรถนะช่วงล่างด้วยระบบกันสะเทือน FOX Shocks แบบโมโนทิวบ์ขนาด 2 นิ้ว ทั้งด้านหน้าและหลัง จะมามอบความนุ่มนวลที่ต่อให้คุณอยู่บนถนนสมบุกสมบันแค่ไหนก็ตาม เราถูกกำหนดให้เส้นทางเนินสลับเพื่อใช้โหมด 4L วิ่งผ่านเนินสลับซ้ายขวา พร้อมอวดการทำงานของระบบล็อกเฟืองท้าย(Locking rear differential)

 

                สำหรับสถานีที่ 4 ลุยกันต่อเนื่องด้วยการขับผ่านเนินเอียงทางด้านขวาที่มีความชันระดับ 30 องศา เพื่อให้เราได้ร่วมทดสอบการใช้โหมดเกียร์สูง 4H ขับเคลื่อน 4 ล้ออย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground clearance) ที่ยกสูงจากพื้นถนนมากถึง 256 มม. จึงทำให้มีมุมเงยและมุมจากที่ถูกยกระดับขึ้นจากรุ่น XLT

                ก้าวผ่านอุปสรรคจนมาถึงด่านสุดท้ายในสถานีที่ 5 โดยการขับเคลื่อน 4 ล้อ และตัวช่วยเฉพาะอย่างโช้คหลังมาพร้อมกับซับแท้งค์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทกขณะลงเนินที่มีความชันต่อเนื่อง ซึ่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 Max ใหม่นี้ ได้พิสูจน์แล้วว่าต่อให้เราต้องเจอเส้นทางไต่ขึ้น-ลงเนินสูงแค่ไหน เครื่องยนต์ที่มอบพละกำลังได้ถึง 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ก็สามารถพาเราผ่านฉลุยทุกขีดจำกัดได้

                ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะเป็นการทดสอบในระยะเวลาสั้น ๆ ก็สามารถดึงตัวตนออกมาโชว์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่มีกั๊ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมของพวงมาลัยระบบไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่าง  ๆ แต่ถึงอย่างไรเราก็ยังไม่ได้ร่วมทดสอบบนถนนแบบปกติกันแบบเต็ม ๆ คงต้องรอติดตามกันต่อไปว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้างหากการทดสอบนี้อยู่บนสภาพการใช้งานจริง

 

Exit mobile version