Ford Ranger 2018 ขุมพลัง 2.0 ลิตร Bi-Turbo เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จัดเต็มเทคโนโลยีที่เหนือชั้น

           Ford Ranger ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กระบะสายพันธุ์รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น เปิด 20 รุ่นย่อย ราคาตั้งแต่ 5.89 แสน – 1.699 ล้านบาท

           Ford Ranger รถกระบะนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมขุมพลังที่เหนือกว่าและฟีเจอร์อันทันสมัยเพื่อสานต่อศักยภาพและสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย

          Ranger ใหม่ทุกรุ่นได้รับการยกระดับให้ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่มากมาย รวมถึงอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างเช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift และระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assist เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น

แข็งแกร่งดุดัน

          Ranger ใหม่วางจำหน่ายในไทยมีทั้งหมด 20 รุ่นย่อย แบ่งเป็น Wildtrak, XLT, XLS, XL กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) และมีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ Limited มาขั้นกลางระหว่างรุ่น XLT กับ Wildtrak เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า และยังรวมถึง Ranger Raptor กระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่จะเป็นตัวท็อปของไลน์อัพ

          รูปลักษณ์ภายนอกของ Ranger ใหม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก เริ่มจากกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ให้ความดุดันยิ่งขึ้น วัสดุจะแตกต่างไปตามแต่ละรุ่นย่อย ปรับดีไซน์กันชนหน้าให้มีช่องนำอากาศกว้างขึ้น ไฟตัดหมอกใหม่ สวยงามดุดันกว่าเดิม รุ่น Wildtrak และ Limited มาพร้อมไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ LED และไฟหน้า HID โคมโปรเจคเตอร์เพื่อทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น ดีไซน์ด้านข้างและด้านท้ายไม่มีการเปลี่ยนแปลง เสาอากาศย้ายไปด้านหลังตัวเก๋ง

          Ranger ใหม่แต่ละรุ่นยังมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันชัดเจน ด้วยสีและการตกแต่งที่สื่อถึงลักษณะที่โดดเด่นของแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่พร้อมรองรับทุกงานหนัก เช่น XL XLS  การตกแต่งเส้นสายด้วยโครเมียมในรุ่น XLT และ Limited รวมไปถึงการตกแต่งแบบโดดเด่นในรุ่น Wildtrak สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละรุ่นได้เป็นอย่างดี รุ่น Wildtrak ยังมาพร้อมสีภายนอกใหม่เฉพาะรุ่น นั่นคือสีส้มประกายบลอนด์ Seber ซึ่งตัดกันอย่างงดงามกับกระจังหน้าสีเทาเข้ม สปอร์ตบาร์และล้ออัลลอย 18 นิ้ว เสริมความโดดเด่นให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี

          ภายในห้องโดยสารของ Ranger ใหม่ ตกแต่งในโทนสีดำ เพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งรายละเอียดด้วยโครเมียมและการเดินด้ายสีเงิน โดดเด่นด้วยระบบ SYNC 3 จอสัมผัสขนาด 8.0 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมบลูทูธ และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นอกจากนี้ ระบบ SYNC 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น

         ระบบ SYNC 3 สามารถโทรฉุกเฉินไปยังหมายเลข 1669 เพื่อติดต่อในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงานหรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ และติดตั้งเป็นมาตรฐานในรถทุกคันที่มีระบบ SYNC 3 

          นอกจากนี้ Ranger Wildtrak 4×4 ยังเพิ่มระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation) เพิ่มความเงียบยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถยนต์อัตโนมัติ

ขุมพลังที่เหนือกว่า

         Ranger ใหม่ มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกถึง 3 แบบ ประกอบด้วย เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ และเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ ตัดเครื่องยนต์ 3.2 ลิตรเดิมออกไป

          เครื่องยนต์ Bi-Turbo 2.0 ลิตร ใช้ระบบ Sequentail Turbocharging ที่ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ทั้ง 2 ตัว โดยเทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรกเป็นแบบเทอร์โบแปรผัน (Vartiable Turbocharger) จะช่วยเร่งการตอบสนองของคันเร่ง และลดช่วงการรอรอบตอนใช้ความเร็วต่ำ ในขณะที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สองซึ่งเป็นระบบเทอร์โบ Fixed-geometry จะรับหน้าที่ต่อเพื่อเพิ่มกำลังและความเรียบลื่นให้กับเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วสูง

          เครื่องยนต์ Bi-Turbo ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด โดยเครื่องบล็อกนี้จะวางใน Ranger Wildtrak รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้งยังรองรับการลากจูงได้สูงสุดถึง 3,500 กิโลกรัม

          เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ติดตั้งในรุ่น Wildtrak 4×2 และรุ่น Limited มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด สำหรับรุ่น Limited ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกอีกด้วย

          เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค 2.2 ลิตร เทอร์โบมอบกำลัง 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบต่อนาที และแรงบิด 385 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,500 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ติดตั้งในรุ่น XLT XLS และ XL 

เทคโนโลยีชั้นเยี่ยม

           Ranger ใหม่ มาพร้อมระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะด้านหน้า และจะทำการช่วยเบรกจนหยุดนิ่งเมื่อระบบพบว่าคนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กม./ชม. ขึ้นไป

           ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist – APA) ถูกติดตั้งใน Ranger ใหม่เป็นครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน ระบบจะบังคับทิศทางของรถให้เข้าสู่ช่องจอด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น          

           Ranger รุ่น Wildtrak และ Limited ยังมาพร้อมระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (Easy Lift Tailgate) ครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ด้วยกลไกซึ่งช่วยผ่อนแรงของผู้ใช้ลง 70% ช่วยให้เปิดปิดฝากระบะท้ายง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

           ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (Lane Departure Warning) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ยังมีอยู่เช่นเดิม นอกจากนี้ฟอร์ดยังเพิ่มระบบพวงมาลัยไฟฟ้าในรุ่น XL และ XLS เป็นครั้งแรก

 

อุปกรณ์มาตรฐาน

Ranger XL

เครื่องยนต์

ภายนอก              

ภายใน  

ความปลอดภัย    

Ranger XLS (เพิ่มเติมจากรุ่น XL และ XL+)

ภายนอก                             

ภายใน                 

ความปลอดภัย                   

Ranger XLT (เพิ่มเติมจากรุ่น XLS)

ภายนอก

ภายใน

ความปลอดภัย    

Ranger Limited (เพิ่มเติมจากรุ่น XLT)

เครื่องยนต์

ภายนอก

ภายใน

ความปลอดภัย    

Ranger Wildtrak (เพิ่มเติมจากรุ่น Limited)

เครื่องยนต์          

อุปกรณ์ภายนอก

อุปกรณ์ภายใน    

ความปลอดภัย    

ราคารถยนต์

Ford Ranger ใหม่ วางจำหน่ายทั้งหมด 20 รุ่น ราคาดังนี้

Ranger รุ่นมาตรฐาน

Ranger XL

Ranger XLS

Ranger XLT

Ranger Limited

Ranger Wildtrak

Ranger Raptor

            Ranger ใหม่มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่สีใหม่ 2 สีคือ สีส้ม Seber (เฉพาะรุ่น Wildtrak) และสีฟ้า Lightning Blue สีมาตรฐานอีก 5 สีได้แก่ สีเงิน Aluminuim Metallic, สีดำ Absolute Black Metallic, สีเทา Meteor Grey Metallic, สีขาว Frozen White และสีแดง True Red

          ลูกค้า Ford Rnger ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบายด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะสูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี

          Ford Ranger ใหม่ ผลิตที่โรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (AAT) และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (FTM) จังหวัดระยอง สำหรับการจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.ford.co.th หรือ www.facebook.com/fordthailand

Gallery

 

 

Exit mobile version