Ford Mustang Mach-E มัสเคิลคาร์ไฟฟ้าในร่างเอสยูวี งานนี้ Tesla มีหนาว

       Ford เผยโฉม Mustang Mach-E เอสยูวีพลังไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของค่าย มาพร้อมกับรูปลักษณ์ดีไซน์ที่พวกเขานิยามว่าเป็น Muscle Car

      Mach-E ไม่ใช่รถต้นแบบ แน่นอนว่าคู่แข่งของมันคงไปใครไปไม่ได้นอกจาก Tesla Model Y ดีไซน์ภายนอกของมันคือการออกแบบเจนเนอเรชั่นใหม่ของ Ford มีให้เลือกหลายหลายรุ่นย่อยโดยในรุ่นท็อปสเปกมีกำลังสูงสุดถึง 332 แรงม้า ขณะที่รุ่นสมรรถนะสูง GT จะมีกำลังสูงถึง 459 แรงม้าแต่จะตามออกมาในภายหลัง

       Mach-E ใช้ชื่อ Mustang เป็นก้าวแรกในการขยายโมเดลไลน์อัพ โดยที่มาของชื่อ Mach-E นั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก Mach 1 ซึ่งเป็นรุ่นหนึ่งในรุ่นย่อยของ Mustang เจนเนอเรชั่นแรก รูปลักษณ์ภายนอกของรถเชื่อมโยงกับ Mustang ตัวปัจจุบันจากรายละเอียดหลายอย่างสะท้อนออกมาให้เห็นอย่างเช่น ตราโลโก้ม้าวิ่ง รวมถึงไฟหน้าและไฟท้าย ตลอดจนเส้นสายต่างๆ บนตัวถัง มือจับเปิดประตูแบบเดิมถูกแทนที่ด้วยปุ่มกด และก้านจับเล็กๆ ยื่นออกมาที่ประตูหน้า ผู้ขับสามารถใช้สมาร์ทโฟนของตัวเองเป็นกุญแจหรือใช้คีย์แพดที่เสา B-pillar ในการปลดล็อกรถ

      Mach-E พัฒนาบนแพล็ตฟอร์มใหม่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าของ Ford ที่ชื่อว่า Global Electrified 2 หรือ GE2 มันเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากสถาปัตยกรรม C2 ที่ใช้ใน Focus และ Kuga รุ่นล่าสุด โดยมีการขยายความยาวของช่วงฐานล้อและฝากระโปรงหน้าเพื่อให้รองรับกับดีไซน์ของ Mustang มิติตัวรถยาว 4,712 มม. กว้าง 1,881 มม. สูง 1,597 มม.น้ำหนักตัวรถ 1,993 – 2,218 กก. ห้องเก็บสัมภาระท้ายจุ 402 ลิตร มีช่องเก็บสัมภาระหน้ารถอีก 100 ลิตร กันน้ำได้ ทุกรุ่นย่อยจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 180 กม./ชม.

      ภายในของ Mach-E มาพร้อมกับความสปอร์ตเต็มอารมณ์ด้วแนวแดชบอร์ดกว้างแบบสองชั้นพร้อมซาวด์บาร์ในตัว กึ่งกลางแดชบอร์ดเป็นหน้าจอสัมผัสแนวตั้งแบบเดียวกับรถ Tesla ขนาด 15.5 นิ้ว มีปุ่มหมุนติดอยู่ที่ด้านล่างของจอด้วยกาวชนิดพิเศษ จอนี้รันด้วยระบบปฏิบัติการ Sync 4 ที่สามารถอัพเดตระบบได้แบบไร้สาย และหลายๆ ฟังก์ชั่นของรถก็ต้องควบคุมผ่านหน้าจอนี้ นอกจากนี้ Mach-E ยังมาพร้อมกับจอหน้าปัดดิจิตอล 10.2 นิ้วสำหรับผู้ขับขี่ ขณะที่พวงมาลัยก็มาพร้อมกับปุ่มสั่งการฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ครบครัน

    

       Mach-E มี 2 รูปแบบการขับเคลื่อนและมีแบตเตอรี่ 2 ขนาดความจุ รุ่นเริ่มต้นจะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหลัง ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ระหว่างแบตเตอรี่ 75kWh จับคู่กับมอเตอร์ 254 แรงม้า หรือแบตเตอรี่ 99kWh จับคู่กับ มอเตอร์ 285 แรงม้า ทั้ง 2 ระบบขับเคลื่อนให้แรงบิดเท่ากันที่ 416 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาต่ำกว่า 8 วินาที ระยะทางขับขี่อยู่ที่ 450 กม. และ 595 กม. ตามลำดับ (มาตรฐานการทดสอบ WLTP)

      อีกหนึ่งรูปแบบการขับเคลื่อนจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อหน้าและล้อหลัง เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive เลือกได้ระหว่างแบตเตอรี่ 75kWh จับคู่กับมอเตอร์ 254 แรงม้า หรือ แบตเตอรี่ 99kWh จับคู่กับ มอเตอร์ 332 แรงม้า ทั้ง 2 ระบบขับเคลื่อนให้แรงบิดเท่ากันที่ 580 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาต่ำกว่า 7 วินาที ระยะทางขับขี่อยู่ที่ 420 กม. และ 540 กม. ตามลำดับ การชาร์จรองรับรับทั้งไฟฟ้ากระแสสลับ AC และการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 150kW

      รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังติดตั้งล้ออัลลอย 18 นิ้ว รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเพิ่มเป็น 19 นิ้ว และได้อัพเกรดอุปกรณ์เป็นไฟหน้า Adaptive LED และคาลิเปอร์เบรกสีแดง รุ่นพิเศษ First Edition จะมีหลังคากระจกพาโนรามิกมาเป็นมาตรฐาน

       Mustang Mach-E ผลิตในเม็กซิโกและเปิดให้สั่งจองในระบบออนไลน์เท่านั้น รถยนต์คันแรกเตรียมส่งมอบในเดือนตุลาคมปีหน้า ราคาจำหน่ายยังไม่ยืนยันแต่คาดว่าจะเริ่มต้นที่ราว 40,000 ปอนด์ (2 ล้านบาท) และพุ่งไปถึง 60,000 ปอนด์ (3 ล้านบาท) ในรุ่น First Edition

Gallery

Exit mobile version