[FIRST DRIVE] Peugeot 3008

SUV สำหรับครอบครัวกลับมาในโฉมใหม่ พร้อมอัปเกรดการตกแต่งภายในแต่พื้นฐานของมันยังไม่เปลี่ยนแปลง วางขาย ปัจจุบัน ราคาเริ่มต้น 27,160 ปอนด์ (ราว 1,358,000 บาท)


Neil Winn

Neil.Winn@haymarket.com


        เมื่อ PEUGEOT เปิดตัว 3008 เจนเนอเรชั่นที่สองในปี 2016 มันได้ส่งมอบอดีตที่น่าเบื่อให้กับถังขยะไปแล้ว ในขณะที่การออกแบบใหม่นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากรถแนวคิด SUV ตระกูลนี้ได้ประกาศทิศทางการออกแบบใหม่ของแบรนด์ให้อยู่กับปัจจุบัน จึงไม่แปลกใจที่มันมีการปรับโฉมช่วงกลางของชีวิตแบบนี้

        การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือ ไฟส่องกลางวัน LED แบบ “sabre-tooth” และกระจังหน้าแบบ “ไร้กรอบ” แต่หากมองเข้าไปใกล้ ๆ คุณอาจเห็นไฟหน้า LED แบบใหม่ ไฟท้าย LED แบบรมควันและป้าย “3008” ใหม่ที่ฝากระโปรงหน้า

. .คู่แข่ง. .

Ford Kuga

มีขนาดใหญ่กว่าและใช้งานได้จริงกว่ารุ่น 3008 แถม Kuga ปลั๊กอินไฮบริดก็มีราคาถูกกว่าเช่นกัน

Skoda Karoq

ราคาถูกกว่าและใช้งานได้จริงกว่า 3008 แต่ตอนนี้ยังไม่มีตัวเลือกไฮบริดให้เลือก

        ภายในเต็มไปด้วยเครื่องมือดิจิทัล “iCockpit” จอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้วนำเสนอกราฟิกที่ได้รับการปรับปรุงในขณะที่หน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ความละเอียดสูงมีขนาด 10.0 นิ้ว(เพิ่มขึ้นจาก 8.0 นิ้ว) จากการแต่งแบบ Allure

        อย่างที่เราพบในรถไซส์ใหญ่อย่าง 5008 สำหรับ 3008 มาพร้อมการอัปเกรดแผงหน้าปัดใหม่อ่านง่าย คมชัด และกำหนดค่าได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตามมันก็ยังเหมือนกับก่อนหน้านี้อยู่ดีตรงที่พวงมาลัยอาจจะมีขนาดเล็กผิดปกติเกินไป ซึ่งหากอยากตั้งศูนย์ให้พอดีคุณต้องตั้งวงล้อในระดับความสูง

        ด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนต์ที่ใหญ่ขึ้นการกดปุ่มไอคอนขณะขับขี่จึงง่ายกว่าที่เคยเป็นมา แต่ซอฟต์แวร์เองอาจทำงานได้ช้าเล็กน้อยเมนูของมันไม่ได้ใช้งานง่าย และการตัดปุ่มควบคุมสภาพอากาศหรือแอร์นั้นชวนหงุดหงิด แม้ว่าระบบของ Skoda Karoq จะมีความฉูดฉาดน้อยกว่าแต่ก็ใช้งานง่ายกว่าอยู่ดี แต่อย่างน้อยมันก็รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนสำหรับ Android และ Apple มาเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น 3008

OUT OF SIGHT
ตัวช่วยในการมองตอนกลางคืนที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะเผยให้เห็นสิ่งกีดขวางต่าง ๆ
หรือแม้แต่สัตว์ในความมืด ภาพจะแสดงบนแผงหน้าปัดดิจิตอล

        นอกจากนี้ Peugeot ยังได้ปรับปรุงโครงสร้างของรุ่น 3008 โดยแต่ละชิ้นจะแยกออกจากกันด้วยชุด “Premium” ระดับกลาง อุปกรณ์มาตรฐานมีมากมายแม้ว่าจะมีการใช้ Active Premium ในรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วระบบควบคุมสภาพอากาศแบบแบ่งฝั่งและเซ็นเซอร์ที่จอดรถด้านหลัง นอกจากนี้ยังมีชุดความปลอดภัยใหม่ ๆ อีกมากมายรวมถึงระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับอัตโนมัติที่ได้รับการปรับปรุงระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถและระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ได้รับการอัพเกรด ซึ่งสามารถตรวจจับทั้งคนเดินถนนและคนขี่จักรยานได้) มาเป็นมาตรฐานสำหรับรุ่น GT และ GT Premium

ข้อมูลสำหรับผู้ซื้อ
Peugeot 3008 Hybrid 300 GT Premium e-EAT8 
ราคา2,360,500 บาท
เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 1,598 ซีซี
+ มอเตอร์ไฟฟ้า
พละกำลัง296 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดนิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
0-100 กม./ชม. 6.1 วินาที
ความเร็วสูงสุด240 กม./ชม.
ประหยัดเชื้อเพลิง100 กม./ลิตร
CO2, ภาษี 30 กรัม/กม.,6%

        อย่างไรก็ตามในทางกลไกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจริงๆ เราได้สุ่มตัวอย่างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบปลั๊กอินไฮบริดด้วยความเร็วสูงสุด 296 แรงม้า และเวลา0 – 100 กม./ชม. เพียง 6.1 วินาที มันเร็วแรงอย่างน่าเป็นห่วง เช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นก่อนหน้านี้ที่ใช้ปลั๊กอินที่ดีที่สุด กระปุกเกียร์อาจกระตุกเล็กน้อย เบรกจนเป็นรูพรุนและเครื่องยนต์จะส่งการสั่นสะเทือนผ่านล้อและแป้นเหยียบ ในขณะที่ระบบกันสะเทือนยังคงนุ่มนวล แต่ตัวผู้โดยสารก็อาจเอนเอียงตามไปด้วยขณะเลี้ยวหรือไปตามโค้งดังนั้นการขับรถเร็ว ๆ จึงยังไม่ถือเป็นความคุ้มค่า

ขับขี่สบาย แต่ข้อเสียคือ ตัวเอนตามโค้ง

การตกแต่งภายในดีแต่ตำแหน่งการขับไม่เหมาะกับทุกคน

การปรับอุณหภูมิผ่านหน้าจออินโฟเทนเมนต์แต่ใช้งานยาก

        จากนั้นมีความจริงที่ว่าราคา Hybrid4 เริ่มต้นที่ 40,000 ปอนด์ (ราว 2,000,000 บาท) ดังนั้นแม้จะมีระยะทางไฟฟ้าทั้งหมดอย่างเป็นทางการที่ 64 กม. (คุณสามารถคาดหวังได้ว่าตัวเลขจะใกล้เคียงกับ 40 – 50 กม.ในสภาพการขับขี่ในโลกแห่งความเป็นจริง) และตกอยู่ในวงเล็บภาษีรถยนต์ของบริษัทที่ต่ำ 6% เราขอแนะนำให้คุณเลือกสำหรับ Puretech 130 1.2 ลิตร 129 แรงม้า ซึ่งจะเร็วพอตอบโจทย์ลูกค้าส่วนใหญ่หรือถ้าคุณตั้งไว้ที่ปลั๊กอินไฮบริดก็ลองดู Ford Kuga PHEV

        ในขณะที่การอัปเกรดภายในช่วยเพิ่มความรู้สึกพรีเมียม แต่เราคิดว่ามูลค่าที่ดีที่สุดที่เรียกว่าการทำระยะทางยังยังคงไม่พอในรุ่น 3008


WHATCAR? SAYS

ยินดีต้อนรับการอัพเกรดภายใน แต่น่าเสียดายที่ Peugeot ไม่ได้ทำระบบไฮบริดให้สมบูรณ์

Exit mobile version