First Drive – BMW X5 xDrive30d M Sport สนุกบนแทร็ก ดีงามบนถนน หล่อครบจบด้วยความไฮเทค

           BMW Thailand เพิ่งเปิดตัว X5 เจนเนอเรชั่นที่ 4 ไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วในงาน Motor Expo นี่คือยานยนต์ที่เรียกตัวเองว่า Sport Activity Vehicle (SAV) โดดเด่นด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันยอดเยี่ยมเข้ากับความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ สิ่งแรกที่น่าประทับใจคือรูปลักษณ์ภาพนอกที่ดูทันสมัยขึ้นอย่างมาก และภายใต้ความทันสมัยก็ยังมีเทคโนโลยีเจ๋งๆ ซ่อนเอาไว้ด้วย

           What Car? Thailand ได้มีโอกาสทดสอบ X5 ใหม่พร้อมกันกับ 3 Series ใหม่ที่สนามปทุมธานีสปีดเวย์ การทดสอบใช้เส้นทางเดียวกัน แบ่งเป็นออนโรดและขับในสนาม มีการขับตะลุยเข้าป่าสั้นๆ พอหอมปากหอมคอ แต่เท่านี้ก็เพียงที่จะได้ทำความรู้จักนิสัยใจคอของเจ้าเอสยูวีคันนี้

หล่อ สปอร์ต ไฮเทค

           X5 ใหม่มีขายในไทยตอนนี้เพียง 1 รุ่น คือรหัส xDrive30d M Sport เป็นการนำเข้าจากเยอรมันทั้งคัน มาในราคาค่าตัว 5,699,000 บาท แน่นอนว่าเมื่อพ่วงท้ายด้วย M Sport ย่อมหมายถึงชุดแต่งหล่อๆ จากโรงงาน ซึ่งประกอบด้วยกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตสอดรับกับกระจังหน้าไตคู่สีโครเมี่ยมขนาดใหญ่อย่างลงตัว ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime ออกแบบได้อย่างสวยงามและทันสมัย ขอบหน้าต่างและราวหลังคาสีดำเงา กันชนหลังแบบสปอร์ตพร้อมท่อไอเสียคู่ และส่งมอบความเท่แบบสุดๆ ด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke

           มิติตัวรถของ X5 ใหม่ยาว 4,922 มม. กว้าง 2,004 มม. และสูง 1,745 มม. รู้สึกได้ทันทีที่เข้าไปนั่งว่าภายในห้องโดยสารใหญ่โตกว่ารุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมาพร้อมชุดเบรก M Sport และช่วงล่างแบบ Adaptive M ให้สมชื่อกับความสปอร์ตที่มาประทับร่าง ดีไซน์ภายนอกไม่มีอะไรให้ตำหนิเพราะมันหล่อตั้งแต่เกิด เพียงจ้องมันก็ทำให้คุณเคลิ้มได้

           เปิดประตูเข้ามาภายในจะพบกับกลิ่นอายความสปอร์ตและทันสมัย เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ไฮเทคมากมาย โดดเด่นด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional เป็นจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อที่ครบครัน มี BMW Head-Up Display เจเนอเรชั่นล่าสุด ขนาด 7×3.5 นิ้ว สามารถแสดงภาพกราฟิก 3 มิติได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบสาระบันเทิง iDrive เวอร์ชั่นล่าสุด แสดงผลบนหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วที่ดีงามเช่นเคย รองรับการเชื่อมต่อครบครันทั้ง BMW ConnectedDrive รวมถึง BMW Gesture Control เพื่อความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่

           นอกจากภายในที่กว้างขึ้นแล้ว X5 ใหม่ยังมีหลังคากระจกพาโนรามิกที่กว้างมากๆ ถูกใจคนโรแมนติกแน่นอน เบาะหลังก็พับแยกได้แบบ 40/20/40 ห้องเก็บสัมภาระมีความจุ 650 – 1,870 ลิตร ประตูท้ายแบบเปิดแยก พื้นห้องราบเสมอขอบกันชนทำให้ขนถ่ายสัมภาระได้อย่างสะดวกรวดเร็วทั้ง หมดนี้คือความพรีเมี่ยมที่ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ครอบครัวยุคใหม่น่าจะถูกใจเมื่อได้เจอ

          ใต้ฝากระโปรงของ X5 xDrive30d เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร เทคโนโลยี TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด ตัวเลขในใบสเปคดูแล้วไม่ธรรมดาเลย เร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. เพราะฉะนั้นเราเชื่อเลยรถคนใหญ่ขนาดนี้มันต้องมีทีเด็ดบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ

การขับขี่

            ด้วยความที่เป็นรถยกสูงทัศวิสัยรอบคันจึงดีมาก บวกกับความกว้างและโปร่งของที่นั่งคนขับทำให้ขับแล้วไม่รู้สึกอึดอัด เบาะนุ่มกำลังดีและโอบกระชับกับสรีระ เข้าโค้งแรงๆ ตัวไม่กลิ้งไปกลิ้งมา เราเริ่มทดสอบ X5 xDrive30d สนามก่อน การทดสอบไม่ต่างจาก 3 Series คือเป็นลักษณะ Gymkhana ซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยมีใครเอาเอสยูวีมาขับแบบนี้สักเท่าไรแต่ BMW Thailand กล้าจัด นั่นเท่ากับว่าพวกเขามั่นใจในศักยภาพของรถคันนี้อยู่พอตัว

           ไม่น่าเชื่อว่า X5 ตัวใหญ่เบิ้มจะพลิ้วไหวบนด่าน Gymkhana ได้ดีเพียงนี้ การตอบสนองของช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวทำได้ดีเกินคาด พวงมาลัยไว น้ำหนักเหมาะสม หักเลี้ยวและคืนตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขณะที่ช่วงล่างก็เก็บอาการได้อยู่หมัด ตัวสูงแต่โยนไม่มาก แถมยังแน่นเฟิร์ม โช๊คอัพคืนตัวจากจังหวะยุบได้ไว ขับสนุกจริงอะไรจริง

          ต่อจาก Gymkhana เป็นการทดสอบขับรอบสนามคนละ 2 รอบ เพื่อดูสมรรถนะ อัตราเร่ง และการบังคับควบคุมที่ความเร็วสูง X5 ตัวใหญ่คันนี้ไม่ใช้เอสยูวีที่อืดอาดบอกเลย แรงบิด 620 นิวตันเมตรทะลักออกมาตั้งแต่กระทืบคันเร่งพร้อมดึงให้หลังติดเบาะโดยพลัน ก่อนจะไต่ระดับความเร็วขึ้นไปแบบนุ่มๆ ความลื่นไหลของเกียร์คือจุดที่ต้องปรบมือ มันให้ส่งต่อกำลังด้วยความรวดเร็วใกล้เคียงรถเบนซิน เกียร์ 1 ดีดขึ้นไปสูงเกิน 3,000 รอบ ก่อนชิฟท์เข้าเกียร์ 2 พร้อมกับแรงชากเบาๆ พอได้อารมณ์ แต่ความเร็วพุ่งขึ้นต่อเนื่องไม่มีสะดุด

           ตอนนี้เสียงเครื่องยนต์เริ่มคำรามแบบจริงจังมากขึ้น ทันใดนั้นเรายกคันเร่งพร้อมหักพวงมาลัยสาดโค้งตามไลน์ที่กรวยตั้ง เครื่องยนต์ยังคาอยู่ในรอบสูงรอการเปิดคันเร่งเพื่อความต่อเนื่อง แต่ที่น่าประทับใจคือความหนึบเกาะโค้งจนลืมไปว่านี่รถเอสยูวีนะ อาการโยนอยู่ในระดับที่รับได้ พวงมาลัยตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติไม่รู้สึกฝืนมือเกินไป การเบรกที่ความเร็วสูงนั้นนิ่งไม่มีการส่าย จังหวะเติมคันเร่งออกจากโค้งทำได้นุ่มนวล การขับ 2 รอบสนามทำให้เรารู้ว่าภายนอกที่ดูพรีเมี่ยมไฮโซแท้จริงแล้วก็ซ่อนความปราดเปรียวเร้าใจไว้พอสมควร จัดว่าเป็นเอสยูวีที่ขับสนุกมากๆ คันนึง

          จบจากการขับในสนาม เราก็ไปควบเจ้า X5 xDrive30d กันต่อบนถนน คาแร็กเตอร์ของรถดูสุขุมขึ้นมาทันที เร่งออกตัวจากแยกไฟแดงสู่ความเร็ว 100 กม./ชม. เป็นไปอย่างนุ่มนวลและใช้เวลาไม่นาน ชุดเกียร์ 8 สปีดส่งต่อกำลังนุ่มนวลลื่นไหลไม่มีสะดุด ถ้าขับปกติเกียร์จะไม่ลากรอบยาวมากนักเพื่อไม่ให้กินน้ำมันเกินไป การคิ๊กดาวน์ต้องกดคันเร่งลึกพอควรแต่เรี่ยวแรงที่ได้ก็มากพอสำหรับการแซงที่รวดเร็ว

         X5 xDrive30d สมกับการเป็นเอสยูวีระดับพรีเมี่ยม ถ้าขับไม่เกิน 100 กม./ชม.จะรู้สึกเงียบสบายหูมาก เสียงลมไม่มีเลย เสียงยางเบาแผ่วๆ ช่วงล่างของ X5 เป็นแบบ Adaptive M ดังนั้นมันจึงไม่ได้นุ่มนวลที่สุด ออกแนวกระชับแน่นเฟิร์มแต่ก็ดูดซับแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้ดี จังหวะโดดคอสะพานก็ไม่กระเด้ง ขณะเดียวกันให้ความรู้สึกเกาะถนนเมื่อขับทางตรงยาวด้วยความเร็วเดินทาง และยังให้ความรู้สึกมั่นใจเวลาเข้าโค้งความเร็วสูง

           พวงมาลัยจะปรับความหนืดตามความเร็วที่ใช้ ขับช้าเบาสบายมือ ขับเร็วจะหนักเพื่อมอบความอุ่นใจกับผู้ขับ แป้นเบรกปรับเซ็ตมาค่อนข้างลึก ช่วงแรกถ้ายังไม่ชินต้องลงน้ำหนักเหยียบแบบเนียนๆ ไม่งั้นอาจมีตะกุกตะกัก ขับไปสักพักพอจับอาการได้ก็จะเบรกได้นุ่มนวลขึ้น แต่สเปกเบรก คาลิปเปอร์ 6 สูบ มั่นใจได้ว่าเอาอยู่ทุกช่วงความเร็ว

           การทดสอบครั้งนี้มีการลุยเข้าป่าไปขับออฟโรดแบบเบาๆ X5 ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive อยู่แล้วตั้งแต่เกิด ดังนั้นด่านนี้ผ่านฉลุยโดยไม่ต้องไปยุ่งปรับการปรับโหมดต่างๆ ให้เสียเวลาเพราะรถจะเรียนรู้และปรับให้เองอัตโนมัติ ล้อ 22 นิ้วดูแล้วน่าจะเหมาะกับการโลดแล่นโชว์ความอลังการบนทางเรียบเสียมากกว่า แต่เมื่อต้องเอามาลุยก็ทำได้ดีไม่มีปัญหา กลัวอย่างเดียวว่าล้อจะเป็นรอยรึเปล่า

Reversing Assistant ตัวช่วยยามคับขัน

          ทีเด็ดของ X5 ถูกงัดเอาออกมาโชว์ในการทดสอบบนทางออฟโรดนี่แหละ นั่นก็คือระบบ Reversing Assistant ช่วยถอยรถในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ หลักการคือรถจะจำทิศทางการขับขี่เดินหน้าในระยะ 50 เมตรสุดท้ายด้วยความเร็วไม่เกิน 36 กม./ชม. และสามารถถอยออกในทิศทางเดิมได้เองอัตโนมัติ ด่านนี้ทางทีมงานจำลองให้ขับไปเจอทางตันแล้วต้องถอยรถออกมา การใช้งานเพียงแค่เข้าเกียร์ถอยหลังแล้วกดปุ่ม “ระบบช่วยขับถอยหลัง” เสร็จแล้วปล่อยมือจากพวงมาลัยและไม่ต้องไปแตะต้องมันอีกเพราะระบบจะตัดการทำงาน ผู้ขับมีหน้าที่แค่แตะเบรกคุมความเร็วตอนถอยหลังไม่ให้เกิน 9 กม./ชม. แค่นั้น

         ดูเหมือนระบบนี้มันจะมีเอาไว้เท่ๆ รึเปล่า แต่จริงๆ แล้วในรถที่บอดี้ใหญ่ๆ นั้นมีประโยชน์มาก ลำพังจะถอยหลังแต่ละทีก็ลำบากอยู่แล้ว มุมมองต่างๆ ถูกจำกัดหรือโดนบัง ไหนจะต้องมากะระยะและทิศทางเองอีก แค่เซ็นเซอร์มันก็ช่วยได้แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก การมีระบบ Reversing Assistant จึงช่วยให้ผู้ขับประหยัดเวลาและสะดวกขึ้นมาก แถมไม่ต้องกลัวว่าจะถอยไปชนอะไรอีกด้วย

ดีพร้อมรอบด้าน

          BMW X5 xDrive30d M Sport เป็นเอสยูวีที่มีครบในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นความหรูหราพรีเมี่ยม ความสะดวกสบาย อุปกรณ์ที่ทันสมัยไฮเทค เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง สมรรถนะที่ขับธรรมดาก็ยอดเยี่ยม ขับแบบเอาจริงก็ตอบสนองได้ดั่งใจ มอบความสนุกได้ทุกครั้งเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย ประกอบกับรูปลักษณ์ภายนอกที่สปอร์ตดุดันมาตั้งแต่เกิด แถมยังได้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงอย่างช่วงล่าง Adaptive M ระบบเบรก M Sport คุณไม่ต้องไปแต่งอะไรเพิ่มเลย แค่นี้ก็ดีสุดๆ แล้ว

           มิติตัวรถที่ใหญ่โตขึ้นทุกด้าน ความกว้างขวางของห้องโดยสาร ความอเนกประสงค์ และการใช้งานจริง ทำให้เอสยูวีคันนี้ตอบโจทย์กับทุกครอบครัว เราอาจติดภาพรถครอบครัวในยุคก่อนว่าเป็นรถที่ดูเฉิ่มๆ ธรรมดาๆ เน้นการใช้งาน รูปลักษณ์ไม่สวยบาดใจ แต่ตอนนี้ X5 xDrive30d M Sport พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นรถแห่งความภูมิใจของครอบครัวแล้ว เราเชื่อว่าขับไปไหนก็มีแต่คนเหลียวมอง

          ราคาค่าตัวเกือบ 5.7 ล้านในตอนนี้อาจดูสูงไปนิด แต่ถ้าคุณเลือกเอสยูวีคันนี้ คุณจะได้รับเทคโนโลยีและทุกๆ อย่างที่เป็นสิ่งใหม่ล่าสุดจาก BMW ก่อนใคร เรารับรองได้เลยว่ามันจะไม่ทำให้คุณรู้สึกเสียดายเงินที่ควักจ่ายไปอย่างแน่นอน

Gallery

 

Exit mobile version