Volvo XC40 T3 R-Design auto
รถยนต์เอสยูวีสำหรับครอบครัวจาก Volvo มาพร้อมภายในที่เหนือระดับเช่นเดียวกับ Range Rover Evoque แต่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า ภายในมีความกว้างขวางเช่นเดียวกับ Skoda Karoq แต่มีการขับขี่ที่ดีกว่า อย่างไรก็ตามมันอาจมีราคาสูงกว่า Dacia Duster แต่ก็ยังพอสูสีกับคู่แข่งคนสำคัญของมันไม่ว่าจะทั้งซื้อเงินสดหรือผ่อนผ่านระบบ PCP
XC40 ได้ก้าวเข้ามาคว้าชัยชนะ ด้วยความที่มันเป็นรถยนต์ที่รวมด้านดีของคู่แข่งแต่ละคันมาไว้ด้วยกัน แต่เมื่อคุณลองพิจารณาถึงอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยมาตรฐานพิเศษ ทั้งระบบจดจำสัญญาณไฟจราจร และระบบที่จะเข้ามาควบคุมอย่างอัตโนมัติเมื่อคุณกำลังรู้สึกสับสน
เบนซิน 1.5 ลิตร รุ่นโปรดของเรายังมีลูกเล่นมากมายที่เป็นความต้องการของลูกค้า ซึ่งหากเป็นรุ่นสปอร์ต R-Design จะมาพร้อมกับขอบหนัง, กระจกเพิ่มความเป็นส่วนตัว และไฟประดับภายใน อีกหนึ่งข้อดีของ R-Design คือระบบบช่วงล่างแบบสปอร์ตที่จะช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่และความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มนวลกว่า XC40s ในด้านการเป็นรถยนต์เอสยูวีสำหรับครอบครัวมันมีความอเนกประสงค์มากพอที่จะทำให้ Swiss Army ภาคภูมิใจ
การออกแบบภาพในที่ทันสมัยและมีคุณภาพ, ขับขี่สบาย, อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยครบครัน
เราชอบ
ภาพรวม
รถยนเอสยูวีสำหรับครอบครัวจะต้องมีความใกล้เคียงกับมีด Swiss Army นั่นคือ ต้องมอบทั้งพื้นที่สำหรับการบรรทุกสมาชิกในครอบครัวและสัมภาระทั้งหมด โดยไม่ทำให้รู้สึกแคบหรืออึดอัด อีกทั้งยังต้องนั่งสบายในขณะที่มั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครเมารถหรือปวดเมื่อยระหว่างเดินทางและถ้าดีที่สุดจะต้องมอบความรู้สึกในการขับขี่ที่ดี เครื่องยนต์ต้องนุ่มนวลผสานสมรรถนะและความประหยัดค่าใช้จ่ายเข้าด้วยกันภายในต้องหรูหรามีระดับ แต่ยังต้องโดดเด่นด้านการเป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวอีกด้วย
Dacia Duster 1.3 TCe 130 4×2 Comfort
คุ้มค่าที่สุด
มันยากที่จะเชื่อว่า Dacia ขาย Duster ในราคาที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าคุณจะแลกเงินจำนวนมากกับรุ่น Comfort ที่มาพร้อมกับล้ออัลลอย 16 นิ้ว, ระบบ cruise control และหน้าจอสาระบันเทิงระบบสัมผัส มันก็ยังมีราคาที่อยู่ในช่วงแข่งขันได้อยู่ดี คู่แข่งคนสำคัญคือ MG ZS ที่มีราคาพอ ๆ กัน แต่ Duster ขับขี่สบายกว่าและมีท้ายรถที่สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางได้มากกว่า มันจึงสามารถเอาชนะ ZS ไปได้ในหัวข้อนี้
ลองรุ่นโปรดของเราที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จ 128 แรงม้า Duster มีความสามารถทั้งวิ่งซิกแซกในเมืองหรือจะวิ่งด้วยความเร็วบนมอเตอร์เวย์อย่างไร้ปัญหา อีกทั้งยังช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งาน โดยที่จริงมีการคาดการณ์ที่ 17 กม./ลิตร ต่อการใช้งานประจำวัน
การออกแบบภายในของ Duster อาจจะดูไม่สมราคาเท่าไร แต่มันก็ผ่านการประกอบมาอย่างดีและดูทนไม้
ทนมือเด็ก ๆ วัสดุที่ดูราคาถูกช่วยทำให้ราคาของมันต่ำลง ไม่ว่าคุณจะซื้อมันด้วยเงินสดหรือการผ่อนแบบ PCP ก็มีเพียงรถยนต์ในระดับนี้ไม่กี่รุ่นที่จะให้ความคุ้มค่าคุ้มราคาได้ขนาดนี้
Range Rover Evoque P300e HSE
ออกแบบภายในดีที่สุด
ข้อเสียเดียวของการออกแบบภายในของ Range Rover Evoque คือ คุณจะไม่สามารถหยุดคิดถึงมันได้ มันมาพร้อมกับตำแหน่งคนขับที่สูงขึ้นกว่าคู่แข่งอย่าง Audi Q3 และ BMW X1 มองเห็นด้านหน้าได้ไกลและชัดเจนกว่า และ Evoque ยังมีเซนเซอร์ช่วยจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงกล้องหลังช่วยให้คุณจอดรถอย่างง่ายดาย
รุ่น HSE ที่เราแนะนำมาพร้อมกับกระจกมองหลังที่แสดงมุมมองของหลังรถจากกล้องจริง ๆ มันจะมีประโยชน์เมื่อคุณมีผู้โดยสารด้านหลังหรือมีสัมภาระเยอะจนไม่สามารถมองเห็นกระจกหลังได้ หากพูดถึงพื้นที่เก็บของ คุณสามารถขนสัมภาระของคุณบนรุ่น Evoque plug-in hybrid ได้มากพอ ๆ กับรุ่นเครื่องยนต์ปกติ
มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ช่วยให้คุณเดินทางได้ไกลถึง 54 กิโลเมตร โดยไม่เสียน้ำมันสักหยด อีกทั้งยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรอยู่ใต้ฝากระโปรง ซึ่งจะคอยเสริมสมรรถนะในการขับขี่ การปล่อยมลพิษที่ต่ำของ Evoque ทำให้มันเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจสำหรับการซื้อในนามรถยนต์บริษัท
Skoda Karoq 1.5 TSI 150 SE L
อเนกประสงค์ที่สุด
แม้กระทั่งครอบครัวจอมขนยังต้องพยายามอย่างหนักในการใส่ของในท้ายรถ Skoda Karoq จนเต็ม ไม่เพียงแต่มันสามารถจุกระเป๋าเดินทางแบบ carry-on ได้มากกว่า Seat Ateca 1 ใบ สำหรับรุ่น SE L ยังมาพร้อมกับเบาะด้านหลัง VarioFlez ที่สามารถพับและแยกแต่ละเบาะได้ หรือแม้กระทั่งเลื่อนไปด้านหน้าและด้านหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาหรือพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถได้อีก
ประตูด้านหลังที่เพิ่มเข้ามามีขนาดกว้างกว่าประตูของคู่แข่ง (ช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นเมื่อต้องติดตั้งคาร์ซีท) อีกทั้งยังมีช่องและกล่องอเนกประสงค์จำนวนมาก เป็นที่เห็นชัดว่า Karoq มีความโดดเด่นด้านความเป็นอเนกประสงค์จริง ๆ
อะไรทำให้มันเป็นรถยนต์คันโปรดของรถยนต์ระดับนี้ Karoq ยังเป็นรถยนต์ที่ขับขี่สบายที่สุดอีกรุ่นหนึ่งและมีเสถียรภาพที่มั่นคง เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรทำงานได้ดีบนถนนที่ต้องการความเร็วแม้ว่า Karoq จะมีขนาดใหญ่ แต่มันก็ยังมีค่า MPG ตามจริงที่น่าเชื่อถือ 18 กม./ลิตร ทำให้มันสามารถเอาชนะคู่แข่งด้านค่าใช้จ่ายในการใช้งานอย่าง Nissan Qashqai และ Peugeot 3008 ไปได้แบบเฉียดฉิว