Comparisons : BMW 3 Series vs BMW 5 Series

Leading a double life

BMW ผลิตรถ PLUG-IN HYBRIDS ที่ดีที่สุดถึงสองรุ่น โดยคุณสามารถเลือกซื้อได้ทั้งในแบบรถเก๋งของผู้บริหาร 330e และ 530e สุดหรู แต่ว่าคันไหนจะเหมาะสมกับคุณที่สุดล่ะ


PLUG-IN HYBRIDS

DOWNSIZE 

BMW 3 Series 330e M Sport

ราคา 41,450 ปอนด์ (ราว 2,072,500 บาท)

ราคาที่น่าลงทุน 36,419 ปอนด์ (ราว 1,820,950 บาท)

รถผู้บริหารและ plug-in hybrid ที่ครองแชมป์ของเราโดยตลอด มาพร้อมกับระบบไฟฟ้าที่ดี มีกำลังเพียงพอและมีต้นทุนการทำงานที่ต่ำ


UPSIZE 

BMW 5 Series 530e M Sport

ราคา 50,120 ปอนด์ (ราว 2,506,000 บาท)

ราคาที่น่าลงทุน 42,155 ปอนด์ (ราว 2,107,750 บาท)

รถ Plug-in hybrid คันหรูแห่งปีของเรามาพร้อมส่วนลดมากมายที่ทำให้น่าดึงดูดแม้จะตีคู่มาพร้อมกับ 330e


       หากคุณกำลังลังเลที่จะซื้อ plug-in hybrid (PHEV) ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะตัดสินใจเลือกใช้รถพลังงานไฟฟ้าเสียที แม้ว่าราคาเชื้อเพลิงที่อาจลดลง แต่ค่าไฟฟ้านั้นยังถูกกว่าและให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีมากกว่าจนคนขับรถของบริษัทอาจประหลาดใจได้

       นอกจากนี้ PHEV ยังโดนเปรียบเทียบกับรุ่นทั่วไปในด้านการปล่อย CO2 ต่ำ แต่ก็ยังถูกเลือกจากบรรดาคันอื่น ๆ อยู่ดี

       ขอยกตัวอย่าง Plug-in Hybrid แห่งปีของเรา BMW 330e ซึ่งรวมสิ่งที่น่าประทับใจเอาไว้ได้ ด้วยระบบไฟฟ้า 59 กิโลเมตร ประสานการทำงานกับอัตราเร่งที่รวดเร็วเป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้ขับขี่อย่างแท้จริงซึ่ง นั่นคือสิ่งที่คุณควรซื้อแล้วใช่ไหม? แต่เดี๋ยวก่อน เราขอนำเสนอการทำงานของรถที่ขนาดใหญ่กว่าอย่าง BMW 530e นี้เสียก่อน

       เมื่อดูราคาขาย คุณอาจคิดว่ามีราคาค่อนข้างต่างกัน แต่ความจริงแล้ว ราคาจะลดลงอย่างมากหลังจากได้ส่วนลด ส่วนความแตกต่างของการผ่านจ่ายแบบ PCP รายเดือนนั้นไม่ได้มากอย่างที่คุณคิดเช่นกัน


การขับขี่

สมรรถนะ, การขับขี่, เสถียรภาพ, รายละเอียด

       แม้ว่าคู่แข่งทั้งสองของเราจะมีเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่มีกำลังผลิต181แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า กำลังการผลิตรวมสูงสุดของ 330e อยู่ที่ 288 แรงม้า ซึ่งมากกว่า 530e ที่ 248 แรงม้า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ 330e ใช้เวลาน้อยลงครึ่งวินาทีในการเร่งจาก 50-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับเป็นข้อดีเลยหากคุณอยู่บนถนนมอเตอร์เวย์ระยะสั้น ๆ แต่รถทั้งสองคันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกถึงการเร่งความเร็วที่สั้นลงและเราไม่สามารถเอาผิดกับการตอบสนองของกระปุกเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 จังหวะได้เลย

BMW 3 SERIES

การขับขี่ที่ให้การควบคุมที่แม่นยำและนุ่มนวล แต่มีเสียงรบกวนจากถนนค่อนข้างมาก

       แม้ว่าคู่แข่งทั้งสองของเราจะมีเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่มีกำลังผลิต181แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า กำลังการผลิตรวมสูงสุดของ 330e อยู่ที่ 288 แรงม้า ซึ่งมากกว่า 530e ที่ 248 แรงม้า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ 330e ใช้เวลาน้อยลงครึ่งวินาทีในการเร่งจาก 50-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับเป็นข้อดีเลยหากคุณอยู่บนถนนมอเตอร์เวย์ระยะสั้น ๆ แต่รถทั้งสองคันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกถึงการเร่งความเร็วที่สั้นลงและเราไม่สามารถเอาผิดกับการตอบสนองของกระปุกเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 จังหวะได้เลย

       รถแต่ละคันมีแบตเตอรี่ 12kWh อยู่ใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระ สำหรับ 330e ในระหว่างการทดสอบนั้น เราใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 42.6 กิโลเมตร เท่านั้นก่อนที่จะถูกสลับไปเครื่องยนต์เบนซิน น่าเสียดายที่เรายังไม่ได้ทำการทดสอบแบบเดียวกันกับ 530e รุ่นล่าสุด แบตเตอรี่ถูกอัพเกรดให้สามารถใช้พลังงานได้ 53 กิโลเมตรจากการทดสอบระยะทางจริง แต่การใช้งานจริง ควรจะใช้งานอยู่ที่ 37 กิโลเมตรเท่านั้น ความแตกต่างที่มีนั้นไม่น่าแปลกใจเพราะ 530e ที่มีขนาดใหญ่และหนักต้องใช้พลังงานมากกว่าในการทำงาน

. . ระบบสาระบันเทิง . .

ระบบของ 330e ให้ความสุขในการใช้งานด้วยหน้าจอสัมผัส 10.3 นิ้วที่คมชัดและหน้าตาเมนูที่ใช้งานง่าย การตอบสนองกับระบบขณะรถแล่นเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว แต่ต้องขอบคุณตัวควบคุมแบบหมุนระหว่างเบาะนั่งด้านหน้าและหน้าจอที่ติดตั้งแบบสูงนั้นทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายขึ้น การสะท้อนหน้าจอโทรศัพท์โดยใช้ Apple CarPlay แบบไร้สายเป็นมาตรฐานที่มากับรถ แต่อาจไม่เสถียรมากนัก ส่วนใน 530e สามารถใช้ Android Auto ได้แต่ตอนนี้ยังไม่มีการให้บริการ

       ทั้ง 330e และ 530e สร้างความประทับใจไปบนถนนที่ทอดยาวด้วยการบังคับเลี้ยวที่แม่นยำซึ่งรับน้ำหนักได้อย่างเป็นธรรมชาติทันที่คุณเริ่มหมุนพวงมาลัยมันจึงสร้างความมั่นใจในสมรรถนะการขับขี่ได้ดี ทั้งสองคันสามารถยึดเกาะและมีความสมดุลที่ดีในรูปแบบขับเคลื่อนล้อหลังมาตรฐานตามที่ทดสอบ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นทางเลือกสำหรับรถยนต์ทั้งสองคัน แต่จังหวะรวมถึงการปล่อย CO2 จะแย่กว่า

       ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม 530e ถึงให้ความรู้สึกคล่องตัวมากกว่ารถที่มีขนาดเท่ากัน แต่ 330e ก็ให้ความแม่นยำในการเข้าโค้งและทำให้คุณยิ้มกว้างขึ้นในท้ายที่สุด โดยทั้งรุ่นเบนซินและดีเซลที่เบากว่าของทั้งสองคันนั้นคุ้มค่ากว่าในการขับขี่ แม้มีความแตกต่างกันเล็กน้อยก็ตาม

BMW 5 SERIES

. . BEST RIDE . .

ความนุ่มนวลและเสียงรบกวนที่ดีขึ้น ส่งให้ 530e เป็นรถที่ดีกว่าในการขับไปบนมอเตอร์เวย์

       รถทั้งสองรุ่นจะได้รับการทดสอบในรุ่น M Sport แต่รุ่น “e” ของทั้ง Series 3 และ 5 ก็ไม่ได้รับการติดตั้งระบบกันสะเทือนที่แข็งแกร่งกว่าแบบที่ไม่ใช่ hybrid M Sport ถึงอย่างนั้นก็ยังสมกับการเป็นรถเก๋งสไตล์สปอร์ต 530e ที่ให้ความสะดวกสบายกว่าและดียิ่งขึ้นหากคุณเพิ่มระบบกันสะเทือนแบบปรับได้หรือ Variable Damper Control 49,250 บาท วิธีนี้จะช่วยให้คุณแข็งแกร่งขึ้นบนถนนที่คดเคี้ยวหรือปรับให้นุ่มนวลขึ้นเพื่อการขับขี่ที่นุ่มสบายยิ่งขึ้น คุณจะได้รับระบบที่คล้ายกันนี้ใน 330e มาในแพ็คเกจ M Sport Plus เท่านั้นในราคา 110,000 บาทและเมื่อเทียบกับ 530e ก็ยังไม่ให้ความรู้สึกในการขับที่หรูหราเท่า

. . ระบบสาระบันเทิง . .

นอกเหนือจากการมีจอแสดงผลที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย (12.3 นิ้ว) ระบบนี้ยังคล้ายกับ 330e มากและการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมทันทีที่ต่ออินพุท มาพร้อมกับ sat-nav, Apple CarPlay, การเชื่อมต่อบลูทูธและการควบคุมด้วยเสียงซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการใช้งานอุปกรณ์นี้ (พร้อมกับตัวควบคุมแบบหมุนหน้าจอสัมผัสและการควบคุมด้วยการออกเสียงซึ่งที่เป็นอุปกรณ์เสริมทั้งหมดนี้พบใน 330e เช่นกัน)

       530e ที่ติดอันดับในเรื่องของความประณีตความสวยงามภายนอก ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ความเงียบกว่าเมื่อแล่นบนมอเตอร์เวย์ ส่วน 330e ไม่แย่เลยสำหรับเสียงลม ยังมีเสียงของยางดังขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้ล้อขนาด 19 นิ้วที่เป็นออปชั่นเสริม ทั้งสองมีมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซินที่เงียบคล้ายกัน ซึ่งมีการส่งกำลังไปมาระหว่างกันจนแทบมองไม่เห็นความแตกต่าง


หลังพวงมาลัย

ตำแหน่งการขับขี่, ทัศนวิสัย, คุณภาพการผลิต

       แม้ราคาจะระดับพรีเมี่ยมแต่รถทั้งสองคันก็ไม่มีเบาะนั่งไฟฟ้าแบบมาตรฐาน 330e เป็นแบบแมนนวลทั้งหมด ในขณะที่ 530e นั้นเป็นแบบไฟฟ้า สามารถปรับได้ทั้งหน้าและหลังอย่างง่ายดายด้วยระบบดังกล่าว แต่น่าผิดหวังที่ทั้งสองปรับเบาะดันหลังไม่ได้แต่สามารถทำได้โดยต้องเพิ่มเงินในราคา 13,250 บาท สำหรับ 330e และ 13,750 บาท สำหรับ 530e 

BMW 3 SERIES

       เบาะคนขับทั้งสองมีการปรับเปลี่ยนมากมายแม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ โดยในการเดินทางไกล 530e จะรองรับการใช้งานได้มากกว่า โดยทั้งสองคันมีเบาะนั่งแบบปรับอุณหภูมิได้ด้านหน้าเป็นมาตรฐานของรถ

       ทั้งสองคันให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ค่อนข้างดีไม่ว่าคุณจะอยู่ในรถคันใดก็ตามด้วย 330e ที่มีกล้องมองหลังมาตรฐาน (ตัวเลือก 18,750 บาท สำหรับ 530e) ทั้งคู่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ช่วยจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีไฟหน้า LED ทรงพลัง (ปรับได้ในกรณีของ 330e ดังนั้นลำแสงจะเปลี่ยนไปตามความเร็วของคุณเพื่อช่วยส่องสว่างบนถนนได้ดีขึ้น)

BMW 5 SERIES

       แผงหน้าปัดที่กำหนดค่าได้ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอยู่แล้วทั้งคู่แต่ไม่สามารถแสดงข้อมูลหลากหลายเมื่อเทียบกับ Audi และไม่สามารถอ่านได้ชัดเจนที่น่าประทับใจกว่านั้นคือคุณภาพของวัสดุ โดยรถแต่ละคันมีพลาสติกสัมผัสนุ่มมากมาย 530e กับพื้นผิวพลาสติกที่มีรอยขีดข่วนน้อยลงทำให้มันดูดีขึ้น


พื้นที่และการใช้งาน

พื้นที่ด้านหน้า, พื้นที่ด้านหลัง, ความยืดหยุ่นของที่นั่ง, ห้องเก็บสัมภาระ

       ไม่มีรางวัลมอบให้สำหรับการเดาถูกว่า 530e จะถูก 330e ปะทะเข้าให้ ไม่ได้จะบอกว่ารถรุ่นหลังนั้นคับแคบ แม้จะติดตั้งซันรูฟไฟฟ้าแบบประหยัดพื้นที่ คนตัวสูงที่นั่งด้านหน้าจะพบว่ามีพื้นที่เหนือศีรษะมากพอ แต่ 530e มีพื้นที่ส่วนหัวมากกว่าอยู่ดีแม้ไม่มีซันรูฟ สุดท้ายภายในของ 530e นั้นก็กว้างกว่า

BMW 3 SERIES

       530e นั้นสะดวกสบายกว่าสำหรับผู้ใหญ่สามคนที่นั่งข้างกันและมีพื้นที่วางขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนหัวมากขึ้น 330e มีที่ว่างเพียงพอสำหรับคนตัวสูงแต่ก็ยังอาจรู้สึกอึดอัดไปหน่อย

       จำแบตเตอรี่ใต้ห้องเก็บสัมภาระที่เราพูดถึงก่อนหน้านี้ได้ไหม? ทั้งสองคันมีการดันพื้นขึ้นลดปริมาณพื้นที่ที่คุณสามารถจุสัมภาระได้ โดยห้องเก็บสัมภาระของ 330e มีความตื้นเป็นพิเศษ

BMW 5 SERIES

       530e มีขนาดใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัดทั้งในแง่ของความจุสัมภาระต่าง ๆ รวมถึงความยาวของตัวรถ แม้ว่าจะไม่สามารถใส่กระเป๋าถือใส่กระเป๋าถือเข้าไปได้อีกแล้วแล้วก็ตาม ทั้งสองคันบรรจุได้เพียงห้าใบเท่านั้นนับเป็นข้อดีสำหรับรุ่นปกติที่สามารถจุสัมภาระได้เจ็ดใบ (3 Series) และแปดใบ (5 Series)เบาะหลังที่สามารถแยกและพับในการจัดเรียงแบบ 40/20/40 เป็นมาตรฐานใน 330e แต่คุณต้องจ่าย 16,750 บาทหากคุณอยากให้มีใน 530e 


การซื้อและการเป็นเจ้าของ

ค่าใช้จ่าย, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย

       ถ้าคุณดูตามราคาโบรชัวร์ 530e มีราคาแพงกว่า 330e ในราคา 433,500 บาท แต่ส่วนลดที่จะได้รับอาจลดลงเหลือ 296,950บาท แม้ว่า 530e จะมีมูลค่าลดลงในอัตราที่เร็วกว่า ในขณะที่ 330e ควรคงไว้ 47% ขอราคาเดิม

       หลังจากผ่านไปสามปี 530e คาดว่าจะมีมูลค่าเพียง 37% ใน 530e มีการประกันภัยและการซ่อมบำรุงยังมีราคาแพงกว่าค่าน้ำมันขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ หากคุณเป็นคนชอบการเดินทางระยะสั้น ๆ และชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มเป็นประจำ คุณจะประหยัดเงินได้มากขึ้นไปอีกแต่ถ้าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดไปและใช้เครื่องยนต์เบนซินเป็นหลักค่าน้ำมันก็จะผกผันไปตามการใช้งานของผู้ขับ

       เมื่อแบตเตอรี่หมดลง เครื่องยนต์เบนซินของ 330e ก็จะทำความเร็วได้ถึง 16 กม./ลิตร ขณะที่ 530e ทำความเร็วได้เพียง 14 กม./ลิตร หากคุณวางแผนที่จะซื้อผ่านการผ่อนจ่าย PCP สำหรับ 530e มีข้อกำหนดดีกว่า ในขณะที่เขียนบทความนี้ APR ที่ต่ำ 1.9% (เทียบกับ 4.9%) แต่ 330e จะยังคงเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 5,000 บาท ต่อเดือนสำหรับข้อตกลงสามปี โดยจำกัด 16,000 กิโลเมตรต่อปี

       ทั้ง 330e และ 530e มีระยะทางในการใช้ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการที่ 50-140 กม.และปล่อย CO2 น้อยกว่า 50 กรัม/ กม. ดังนั้น ใน 330e คุณจะจ่ายเพียง 6,900 บาท/เดือน และ สำหรับ 530e เป็นเงิน 8,350 บาท หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของราคาดีเซล 320d หรือ 520d 

       รถทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับสายชาร์จสองเส้นตามมาตรฐาน: สาย Type 2 สำหรับ Wallbox โดยเฉพาะและอีกสายไว้ใช้ภายในเราขอแนะนำให้ซื้อที่ชาร์จแบบ Wallbox เพราะรถของคุณจะใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง 24 นาที สำหรับ 330e และ 3 ชั่วโมง 36 นาทีสำหรับ 530e แต่ถ้าหากคุณต้องใช้ปลั๊กสามตาอาจจะต้องใช้เวลานานเกือบหกชั่วโมง นั่นก็กินเวลาคุณไปเกือบครึ่งวันแล้ว

       รถทั้งสองคันมีชุดแต่งที่หรูหรามากับรถ โดยมีข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวที่เรายังไม่ได้กล่าวคือ 330e มีระบบการควบคุมสภาพอากาศแบบสามโซน และใน 530e มีตั้งค่าแบบแยกสองโซน

       ในแง่ของความปลอดภัย 330e รุ่นใหม่สามารถป้องกันทั้งผู้ใหญ่และเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ดีกว่า แต่ทั้งสองมาพร้อมกับการเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติโดย 330e ต้องเพิ่มการเตือนการออกนอกเลน หากคุณต้องการจอภาพแสดงจุดอับจะมีระบบแจ้งเตือนการจราจรด้านหลังหรือความช่วยเหลือทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ แต่ต้องเพิ่มเอง


BMW 3 SERIES

BMW 5 SERIES



. . WHATCAR SAYS . .

ด้วยความที่ 5 Series เป็นรถหรูคันโปรดของเราและ 3 Series คือรถเก๋งผู้บริหารที่เราชื่นชอบนี่จึงกลายเป็นการต่อสู้ที่สูสีเสมอมา ในขณะที่ทั้งคู่ทำการแลกหมัดอย่างเท่าเทียมกันตลอดการทดสอบนี้เราก็ไม่สามารถเพิกเฉยกับหมัดฮุกของนักฆ่าอย่าง 330e ได้

530e มีพื้นที่บริเวณห้องโดยสารกว้างกว่าเล็กน้อย ภายในก็ให้ความรู้สึกหรูหรามากกว่าและให้ความรู้สึกปลอดภัยในการขับขี่ แต่ 330e มีข้อได้เปรียบมากกว่าด้วยต้นทุนในการขับขี่ที่ถูกมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ซื้อเพื่อใช้ส่วนบุคคล เนื่องจากการขับขี่ที่สนุกสนานมีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอที่จะรองรับผู้ใหญ่ 4 คนได้อย่างสบาย ๆ และภายในยังคงความหรูหราอย่างมีระดับ 330e เป็น plug-in hybrid ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ในปัจจุบัน


ข้อดี ราคาที่ถูกกว่าในการเป็นรถส่วนตัว BIK 9 พร้อมการขับขี่ที่คมและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

ข้อเสีย พื้นที่จุสัมภาระเล็กกว่า วัสดุที่ราคาเหมาะสมกับถังน้ำมันขนาดเล็ก

ออปชั่นเสริมที่แนะนำ เบาะซัพพอร์ตหลังรองรับช่วงเอว

ข้อดี นั่งสบายกว่า ส่วนลดเพียบและเบาะด้านหลังกว้างขึ้น

ข้อเสีย ราคาของความเสื่อมสภาพที่มากขึ้น ความคล่องตัวน้อยและไม่มีอุปกรณ์ที่ดีกว่านี้

ออปชั่นเสริมที่แนะนำ Variable Damper Control (49,250 บาท) เบาะซัพพอร์ตหลังรองรับช่วงเอว(13,750 บาท)

Exit mobile version