Comparison : Pick-ups mega-test

All in a day’s work

คุณคิดว่าปิคอัพเป็นแค่รถสำหรับฟาร์มหรือคอกม้าใช่ไหม? คิดใหม่อีกครั้ง วันนี้เราเลือกปิคอัพที่ดีที่สุดจากผู้ผลิตทั้ง 8 รายมาทดสอบให้คุณดูกัน


Fiat Fullback Cross 2.4 180hp D-CAB

ราคาปกติรวมภาษี     
34,673 ปอนด์ (ราว 1.73 ล้านบาท)

ราคาปกติไม่รวมภาษี  
29,074 ปอนด์ (ราว 1.45 ล้านบาท)

Fullback เร็วที่สุดในที่นี้ แต่เครื่องยนต์ของมันดังมาก มารยาทบนท้องถนนแย่ด้วยการบังคับเลี้ยวที่คลุมเครือและการขับที่สั่นสะเทือน


        YEE-HAH, COWBOY, ยินดีต้อนรับสู่ป่าตะวันตกของลอนดอน แต่ก่อนที่คุณจะเข้าไปที่ประตูบาร์ Saloon และสั่งวิสกี้ด้วยตัวเอง มาลองพิจารณาข้อดีของปิคอัพกันหน่อย

        เมื่อพิจารณายานพาหนะที่เกษตรกรเลือกใช้ รถกลุ่มนี้พัฒนามาไกลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความจริงคือตลาดของมันกำลังเฟื่องฟูอย่างมาก

        ทำไมถึงสนใจพวกมันล่ะ? เอาล่ะ ในขณะที่พวกมันถูกมองว่าเป็นรถที่ห่างไกลจากความสามารถอันยอดเยี่ยมในการขับขี่บนท้องถนนแบบรถเอสยูวีส่วนใหญ่ ปิคอัพรุ่นล่าสุดขับได้ดีกว่าที่เคย และถ้าคุณต้องใช้มันในฐานะรถบริษัท คุณต้องจ่ายภาษีอัตราคงที่ประเภท benefit-in-kind (BIK) ที่ต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไปมาก อัตราค่าเช่าจึงอาจมีการแข่งขันสูงด้วยเช่นกัน

        ดังนั้น ด้วยมารยาทบนท้องถนนที่ดีขึ้นและการลดหย่อนภาษีที่กระทบกระเป๋าเงินน้อยลง ปิคอัพจึงเป็นรถที่เหมาะสำหรับผู้ซื้อจำนวนมาก และมันถึงเวลาที่จะต้องใช้รถคลาสนี้กันอย่างจริงจังแล้ว

        เพื่อดูว่าพวกมันต่างกันอย่างไร เราได้รวบรวมตัวอย่างทั้งหมดที่ลดราคาอยู่ในตอนนี้ เว้นแต่ว่า Isuzu D-Max ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับโฉม เพื่อแยกรถที่ดีออกมา รถทั้ง 8 คันมาในสไตล์ปิคอัพ 2 ตอน 4 ประตู (ซึ่งใช้งานจริงได้มากกว่าแบบตอนเดียวที่วางขาย) มี 7 รุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.2 ถึง 3.0 ลิตร รถที่ไม่ใช่คือ Volkswagen Amarok ซึ่งมีเครื่องยนต์ V6 ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมีเป็นมาตรฐานในรถทุกคันถึงเวลาใส่อานม้าและดูว่าคันไหนเป็นปิคอัพที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้ในอังกฤษวันนี้

Ford Ranger Black Edition Double Cab 2.2 TDCi 160PS

ราคาปกติรวมภาษี 34,495 ปอนด์ (ราว 1.72 ล้านบาท)

ราคาปกติไม่รวมภาษี  
28,796 ปอนด์ (ราว 1.43 ล้านบาท)

1 ระบบสาระบันเทิง Sync 3 คมชัดและตอบสนองได้ดีแต่ใช้งานยาก

2 สวิตช์และปุ่มทั้งหมดถูกจัดวางไว้อย่างดีและสามารถใช้งานได้ในขณะสวมถุงมือ

3 เบาะไฟฟ้า 8 ทิศทางช่วยให้คุณปรับตำแหน่งการขับของคุณได้อย่างดีเยี่ยม


        Mitsubishi ได้โยกย้ายจาก L200 เจนฯ 5 ไปหา Fiat เพื่อสร้าง Fiat Fullback ที่เหมือนกันเกือบทั้งหมด เราอยู่กับ Fullback Cross ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความสวยงาม รวมไปถึงล้ออัลลอย17 นิ้ว

        ผลลัพธ์น่ะหรอ? น่าเสียดายสำหรับ Fiat เพราะมันค่อนข้างแย่ การตกแต่งภายในดูจืดชืดด้วยพลาสติกราคาถูกไม่ว่าจะเป็นจุดไหนก็ตาม นอกจากแพดเดิลชฟิท์ที่ดูหรูอย่างคาดไม่ถึง ตำแหน่งการขับขี่ก็ยังแย่ที่สุดในที่นี้ (เหมือนกับ L200) ด้วยตำแหน่งเบาะนั่งที่สูง ประกอบกับหลังคาที่ลาดเอียงจนน่าตกใจ ทัศนวิสัยด้านหน้าจึงจำกัด

        พื้นที่เหนือศีรษะด้านหลังนั้นแย่ที่สุดในกลุ่มเช่นกัน (ของ L200 ก็ไม่ดีไปกว่านี้) แม้ว่าอีกด้านที่เป็นพื้นที่วางเท้าด้านหลังจะดูดีตามมาตรฐานของคลาส น่าเสียดายที่ Fullback มีพื้นที่บรรทุกที่แคบที่สุดในบรรดาปิคอัพทั้งหมดของเราและความสามารถในการลากจูงของมันนั้นก็แย่ที่สุด

        บนท้องถนนไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเท่านี้อีกแล้ว พวงมาลัยของ Fullback นั้นคลุมเครือและไม่แน่นอน หากคุณขับรถบนถนนสายรองที่ชำรุด คุณจะพบว่าพวงมาลัยกำลังเต้นไปมาในมือ คุณต้องบังคับมันอย่างใจจดใจจ่อ Fullback ยังสะเทือนมากเมื่อเผชิญกับเนินเตี้ยๆ และจะสงบลงเล็กน้อยเมื่อมีของบรรทุกอยู่ด้านหลัง โดยรวมมันน่าจะแย่ที่สุดในที่นี้

        เครื่องดีเซล 2.4 ลิตร 177 แรงม้าเสียงดังมากแต่อย่างน้อยมันก็เงียบลงในขณะเดินทางและยังทำงานได้อย่างน่าประทับใจ เกียร์ดูล้าสมัยเพราะยังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดอยู่ ขณะที่เกียร์ของปิคอัพคันอื่นๆ มีมากกว่านี้และยังเปลี่ยนเกียร์ได้ราบรื่นกว่า

        หากคุณจำเป็นต้องเลือกปิคอัพ Fiat เราขอแนะนำให้เลือก Fullback รุ่นมาตรฐานแทนที่จะเป็น Cross มันไม่ได้ดีกว่ากันมากนัก แต่อย่างน้อยก็ราคาถูกกว่า


Mercedes-Benz X-Class X250d 4Matic Progressive

ราคาปกติรวมภาษี 36,612 ปอนด์ (ราว 1.83 ล้านบาท)

ราคาปกติไม่รวมภาษี  
30,510 ปอนด์ (ราว 1.52 ล้านบาท)

สมรรถนะค่อนข้างอืดแต่ X-Class มีเครื่องยนต์ที่เงียบและสร้างเสียงรบกวนบนถนนน้อยมาก ทำให้คุณขับได้อย่างผ่อนคลาย


        แนวคิดของปิคอัพหรูไม่ใช่เรื่องใหม่ ชาวอเมริกันได้สร้างและซื้อขายกันมานานแล้วโดยใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ด้านภาษีที่อนุญาตให้เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กซื้อรถบรรทุกที่บรรทุกได้เต็มพื้นที่มากกว่าซาลูนหรูในระดับเดียวกัน นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไม Ford F-150 ไม่ใช่ปิคอัพที่ขายดีที่สุดเฉพาะในสหรัฐอเมริกาแต่เป็นปิคอัพที่ขายดีที่สุดในโลก

        ความแตกต่างด้านภาษีในอังกฤษนั้นเล็กน้อยแต่ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน ผู้ซื้อจำนวนมากเลือกปิคอัพ และ Ford Ranger ก็ตามรอยพี่ใหญ่ชาวอเมริกันมา

        ง่ายมากที่จะดูว่าทำไมหลังพวงมาลัยจึงได้รับคำชม ตามมาตรฐานปิคอัพแล้ว การตกแต่งภายในของ Rangerค่อนข้างหรู พลาสติกดูแข็งแรงและถูกยึดไว้เป็นอย่างดี สวิตช์และปุ่มใช้งานได้คล่อง โมเดลที่มีสเปกสูงอย่าง Black Edition มาพร้อมกับระบบสาระบันเทิง Sync 3 เป็นมาตรฐาน

        จุดที่ Ranger แตกต่างจากคันอื่นคือการวิ่งบนท้องถนน เมื่อเข้าโค้งมุมแคบคุณจะเริ่มชื่นชมความแม่นยำและการตอบสนองของพวงมาลัย รวมทั้งอาการโยนซึ่ง Ranger ทำได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ขณะที่การขับขี่ในเมืองอาจติดขัดเล็กน้อยแต่มันก็ยังมีอัตราเร่งที่ดีเมื่อคุณวางเท้ากดคันเร่ง

        ปัญหาเดียวที่เราเจอคือเครื่องยนต์และเกียร์ Ranger มีอัตราการบรรทุกและการลากจูงที่เหมาะสม ในความเป็นจริงเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 158 แรงม้านั้นให้ความรู้สึกอืดไปนิด มันไม่ได้มีกำลังมากเหมือนที่คุณคาดหวังจากปิคอัพสำหรับงานหนัก และมันยังสั่นสะเทือนมาก

        เราแนะนำให้เลือกเกียร์ธรรมดา เนื่องจากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่ติดตั้งมากับรถทดสอบของเรานั้นทั้งช้า, อืด และไร้กำลัง


Mitsubishi L200 Barbarian Double Cab

ราคาปกติรวมภาษี     

34,056 ปอนด์ (ราว 1.70 ล้านบาท)

ราคาปกติไม่รวมภาษี  
28,380 ปอนด์ (ราว 1.41 ล้านบาท)

L200 สะดวกสบายกว่า Fullback Cross เล็กน้อย แต่มันกลับช้ากว่าและมีปัญหาพวงมาลัยที่ไม่แม่นยำเหมือนกัน


        อาจต้องใช้เวลาสักหน่อยที่จะคุ้นเคยกับตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ที่ติดอยู่ท่ามกลางปิคอัพที่พร้อมใช้งาน มันเป็นปิคอัพรุ่นแรกของแบรนด์ และมันก็มีจุดแข็งที่น่าสนใจเพราะมันมีต้นแบบมาจาก Nissan Navara

        อย่างไรก็ตาม ภายในของ X-Class นั้นให้ความรู้สึกแตกต่างจาก Navara อย่างสิ้นเชิง การตกแต่งภายในดูดีที่สุดจากทั้ง 8 คันด้วยการเน้นโครเมี่ยมจำนวนมากและหนังคุณภาพดีอีกมากมาย ตำแหน่งการขับก็ดีเช่นกันแต่น่าเสียดายที่พวงมาลัยไม่สามารถปรับเข้าหาตัวได้

        X-Class เป็นหนึ่งในปิคอัพที่ยาวที่สุดในที่นี้ ส่งผลให้มีพื้นที่วางเท้าด้านหลังที่น่าประทับใจและภายในที่กว้างที่สุด พื้นที่เหนือศีรษะไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ทว่า X-Class ไม่ได้ดูคับแคบ คุณจึงรู้สึกสะดวกสบายในฐานะผู้โดยสารในการเดินทางไกล

        ตัวรถที่ยาวบอกได้ว่า X-Class มีพื้นที่กระบะที่ยาวด้วยเช่นกันแต่ว่ามันตื้นที่สุด นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนัก เพราะมันทำให้เข้าถึงของที่บรรทุกอยู่ด้านบนได้ง่ายขึ้น

        บนท้องถนน X-Class ไม่ใช่รถที่ยอดเยี่ยมนัก มันเป็นรถที่หนักที่สุดในที่นี้ เครื่องดีเซล 2.3 ลิตร 185 แรงม้า ดูทรงพลังตามรายงานแต่คุณอาจไม่รู้สึกเช่นนั้นเมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย อัตราเร่งค่อนข้างช้าแทนที่จะไว กำลังแรงบิดมีมาให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ เครื่องยนต์เงียบสงบมากที่สุดในทั้ง 8 คัน เกียร์อัตโนมัติใช้งานได้คล่องมากกว่าคู่แข่งทั้งหมด

        การขับขี่ในเมืองค่อนข้างนุ่มนวล แต่ X-Class อาจมีปัญหาจากอุปสรรคบนท้องถนนเช่นรอยต่อหรือหลุมบ่อ แม้ว่าพวงมาลัยจะมีน้ำหนักที่ดีเมื่อเข้าโค้งแต่จริงๆ แล้วมันไม่เสถียรมากนัก ทำให้ขับความเร็วสูงแล้วรู้สึกไม่มั่นใจเท่าที่ควร


Nissan Navara Tekna 190 dCi

ราคาปกติรวมภาษี     

33,095 ปอนด์ (ราว 1.65 ล้านบาท)

ราคาปกติไม่รวมภาษี  
28,075 ปอนด์ (ราว 1.40 ล้านบาท)

พวงมาลัยที่ช้าและไม่ชัดเจนพร้อมกับอาการโยนที่ค่อนข้างมากในโค้งไม่ได้ช่วยสร้างความมั่นใจใดๆ แต่เครื่องดีเซลทวินเทอร์โบของ Navara นั้นทรงพลัง


        MITSUBISHI L200 และ Fiat Fullback Cross เหมือนกันในหลายๆ แง่มุม แต่ก่อนที่คุณจะข้ามปิคอัพคันนี้ไปเพราะอนุมานว่ามันไม่มีอะไรใหม่ที่น่าพูดถึงหลังจากอ่าน Fullback ไปแล้วล่ะก็ หยุดก่อน เพราะมันมีความแตกต่างที่สำคัญบางจุด

        พื้นที่ช่วงขาด้านหลังค่อนข้างแย่กว่า Fullback เล็กน้อยเพราะเบาะหนังที่บุหนาของระดับตกแต่ง Barbarian ทำให้พื้นที่ช่วงเข่าด้านหลังหายไป 2-3 มม. มันเป็นเพียงความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ แต่มันอาจไม่ดีนักเมื่อส่วนที่เหลือของภายในนั้นน่าผิดหวังพอๆ กัน เนื่องจากพลาสติกราคาถูกและตำแหน่งการขับขี่ที่มีข้อบกพร่อง

        หลายๆ สิ่งไม่ได้ดีไปกว่ากัน เมื่อคุณมองที่ความแตกต่างด้านสมรรถนะจากตัวเลขทางการแสดงให้เห็นว่า L200 ช้ากว่า Fullback มากในช่วง 0-100 กม./ชม. แม้ว่าจะใช้เครื่องยนต์และแชสซีที่เหมือนกันก็ตาม

‘แม้ว่าพวกมันจะใช้เครื่องยนต์เดียวกัน L200 ก็ยังช้ากว่า Fullback’

        ดังที่กล่าวไป ความแตกต่างในด้านตัวเลขสมรรถนะไม่ได้ต่างกันนักในการขับขี่จริง เครื่องยนต์ของทั้งสองคันมีพลังมากพอที่จะลากจูง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า L200 นั้นช้ากว่าแฝดพี่ชาวอิตาลีพอสมควร

        โชคดีที่ L200 ขับสนุกกว่าเล็กน้อย มีความนุ่มสบายกว่าเมื่อขับนอกเมือง L200 ยังคงเป็นหนึ่งในปิคอัพที่สะดวกสบายน้อยที่สุด แต่มันไม่ค่อยจะมีปัญหากับหลุมบ่อเท่า Fullback

        บางทีความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่าง L200 และ Fullback Cross ก็คือราคา ในการเช่า L200 ถูกกว่าอย่างแน่นอนเมื่อเทียบกับ Fullback ถึงแม้ว่าออปชั่นบางอย่างเช่น เซ็นเซอร์ช่วยจอด จะมีให้เฉพาะในชุดอุปกรณ์เสริมราคาแพงของ L200

Ssangyong Musso Rebel

ราคาปกติรวมภาษี     

28,433 ปอนด์ (ราว 1.42 ล้านบาท)

ราคาปกติไม่รวมภาษี  
23,745 ปอนด์ (ราว 1.18 ล้านบาท)

พวงมาลัยของ Musso มีน้ำหนักเหมาะสมและแม่นยำ แต่มารยาทบนท้องถนนเลวร้ายอย่างมากจากการขับที่ไม่มั่นคงและแข็งทื่อ


        ปรากฏการณ์ของรถปิคอัพอาจเริ่มต้นในอเมริกา แต่คนญี่ปุ่นใช้เวลาไม่นานที่ตระหนักได้ว่าปิคอัพอาจสร้างผลกำไรอย่างงามให้กับตัวเองได้ Nissan เป็นหนึ่งในผู้ผลิตญี่ปุ่นรายแรกๆ ที่รับสิ่งดีๆ ของชาวอเมริกันมาเป็นของตัวเอง เริ่มที่ปิคอัพขนาดเล็ก Datsun 120 ในปี 1955

        กว่า 60 ต่อมา Nissan ยังคงผลิตหนึ่งในปิคอัพที่ทันสมัยที่สุดออกมาขายในชื่อ Navara โดยมีข้อดีคือเครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลัง 187 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นแรงม้าและแรงบิดที่สูงที่สุดของทั้ง 8 คันในวันนี้ และบางทีมันอาจจะสะอาดและประหยัดที่สุดอีกด้วย

        ขณะที่ปิคอัพส่วนใหญ่ใช้กันสะเทือนหลังแบบแหนบสปริง Navara ติดตั้งกันสะเทือนแบบไฟว์ลิ้งก์ที่ซับซ้อนยิ่งกว่าพร้อมคอยล์สปริง ซึ่งจะให้ความนุ่มและการควบคุมที่ดีมากกว่าในทางทฤษฎี แต่ตามที่เราเห็นใน X-Class นั่นอาจไม่ได้นำไปสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ระบบกันสะเทือนด้านหลังที่ค่อนข้างนุ่มนั้นจะช่วยป้องกันรอยสึกและร่องบนถนนได้ดี ด้วยปัจจัยในการโคลงตัวของรถและพวงมาลัยที่ตอบสนองได้ช้ากว่าและไม่ชัดเจนเท่า X-Class ทำให้ Navara เป็นแรงบันดาลใจที่น้อยที่สุดในการวิ่งผ่านถนนสายรองแคบๆ

        นอกจากนี้เรายังแนะนำให้หลีกเลี่ยงเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ด้วยรูปทรงคันเกียร์ที่ยาวและการใช้งานที่ยากทำให้มันน่าผิดหวังในการใช้งาน โชคดีที่เครื่องยนต์ทรงพลังและมีอัตราเร่งที่ดี ข้อได้เปรียบสำคัญของ Navara คือสามารถขนย้ายสัมภาระที่ค่อนข้างใหญ่ได้เนื่องจากมีกระบะที่ยาวที่สุดในคลาส

        การตกแต่งภายในไม่ได้โดดเด่นหรือหรูหราแต่ได้รับการผสมผสานอย่างลงตัวและให้พื้นที่มากมายสำหรับผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขณะที่ทุกรุ่นมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานจำนวนมาก        


Toyota Hilux Invincible Double Cab 2.4L auto

ราคาปกติรวมภาษี     

33,330 ปอนด์ (ราว 1.66 ล้านบาท)

ราคาปกติไม่รวมภาษี  
27,845 ปอนด์ (ราว 1.39 ล้านบาท)

การขับขี่ของ Hilux เปลี่ยนไปเมื่อบรรทุกของ ตัวรถสั่นไปมาบนระบบกันสะเทือนที่แข็งทื่อพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ส่งเสียงดัง


ดีที่สุดสำหรับการลากจูง

        ผลปรากฏว่าปิคอัพ 6 จาก 8 คันที่ถูกทดสอบนั้นสามารถลากรถพ่วงหนัก 3.5 ตันได้ แต่มันมีรายละเอียดที่ต่างกันเล็กน้อย เช่น Ranger มาพร้อมกับออปชั่นเสริมเพลาหลัง 2 ตัว ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้ความสำคัญกับการลากจูงหรือความประหยัดมากกว่ากัน เพลาที่หนักกว่าจะให้ความสามารถในการลากจูงได้ถึง 3.5 ตัน แต่หากเลือกใช้แบบอื่น คุณจะถูกจำกัดไว้ที่ 2.5 ตัน

        น่าแปลกที่ Fullback สามารถลากจูงได้เพียง 3.1 ตัน ประโยชน์เพียงข้อเดียวของมันคือสามารถบรรทุกได้เกือบ 1 ตันขณะที่กำลังลากจูงเต็มความสามารถ

FIAT FULLBACK CROSS

        Musso เอาชนะคู่แข่งได้ทั้งหมด และยังเป็นปิคอัพเพียงคันเดียวที่สามารถบรรทุกน้ำหนักได้เต็มที่ (1,085 กก.) ขณะที่กำลังลากจูงรถ 3.5 ตัน ขณะที่ Amarok ลากจูงได้ต่ำกว่าเล็กน้อยในเนื่องจากรุ่น 161 แรงม้าลากจูงได้เพียง 3 ตัน ขณะที่รุ่น 201 และ 253 แรงม้า ทำได้ 3.1 ตัน

FORD RANGER

        ในการลากจูง 3.5 ตัน ปิคอัพของคุณจะดูไม่มั่นคงเมื่อลากจูงเต็มกำลัง เราพบว่า Amarok มั่นคงที่สุดขณะกำลังลากรถคาราวาน 1.9 ตัน ปิคอัพทุกคันต้องมีข้อเสียอย่างน้อยหนึ่งข้อ Hilux ดูไม่ทรงพลัง L200 และ Fullback ค่อนข้างไม่เสถียรที่ความเร็วบนทางด่วน ส่วน Navara และ X-Class จะส่ายไปรอบๆ เมื่อเบรกหนัก ขณะที่ Amarok นั้นมั่นคงในทุกย่านความเร็ว เบรกดีที่สุดในกลุ่ม และมีเสียงเครื่องยนต์ที่น่าประทับใจ

        ไม่มีปิคอัพคันไหนที่มาพร้อมกับตะขอลากจูงเป็นมาตรฐานแต่ก็ยังมีเป็นออปชั่นเสริมในรถทุกรุ่น ผู้ผลิตแต่ละรายนำเสนอตะขอลากจูงหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ


ดีที่สุดสำหรับการบรรทุก

        Hilux มีน้ำหนักบรรทุกสูงที่สุดในคลาส (1,120 กก.) และเป็นหนึ่งในรถที่มีพื้นที่กระบะที่ยาวและกว้างที่สุด แต่มันถูกท้าทายโดย Amarok ซึ่งแม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นแต่ก็รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 1,073 กก. ส่วนรุ่น 201 แรงม้าที่ราคาแพงกว่าก็รองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงที่สุดในบรรดาปิคอัพที่วางขายในอังกฤษที่ 1,146 กก.

        รถที่ดีที่สุดอันดับสามคือ Musso (1,085 กก.) ตามด้วย X-Class, Ranger และ Navara ซึ่งทุกคันสามารถลากจูงได้มากกว่า 1,050 กก. ขณะที่ L200 และ Fullback ลากจูงได้สุดๆ ที่ 1040 กก. ซึ่งรวมถึงน้ำหนักของโรลบาร์ขณะที่ยังคงบรรทุกของน้ำหนัก 1000 กก. ได้ ซึ่งจะทำให้มันถูกเรียกเก็บภาษีในฐานะรถเพื่อการพาณิชย์ได้

MERCEDES-BENZ X-CLASS

        เช่นเดียวกับการมีน้ำหนักบรรทุกสูงที่สุด Amarok สามารถบรรทุกของที่กว้างที่สุดได้ แต่ Navara นั้นชนะขาดลอยเมื่อพูดถึงเรื่องความยาว ความสูงของกระบะจากจากพื้นดินต่างกันเพียง 70 มม. ระหว่างรถทั้ง 8 คัน โดย Musso และ Amarok นั้นมีความสูงน้อยที่สุดและ Hilux มากที่สุด

        เราใส่ของน้ำหนัก 500 กก. ในปิคอัพแต่ละคันเพื่อทดสอบการวิธีรับมือกับน้ำหนักบนเพลาหลังของพวกมัน ไม่น่าแปลกใจที่ปิคอัพแต่ละคันจะขับได้ดีกว่าเมื่อบรรทุกของ ในความเป็นจริงแล้วทั้ง Hilux และ Musso ได้รับการพัฒนา มันจึงไม่มีการสั่นสะเทือนบนเส้นทางทดสอบของเรา แต่รถที่มั่นคงที่สุดคือ Amarok


ดีที่สุดสำหรับทางออฟโรด

        ปิคอัพแต่ละคันมาพร้อมเกียร์ออฟโรดที่มีทั้งอัตราทดสูงและต่ำ เกียร์อัตราทดต่ำทำให้รถมีเสียงครางเบาๆ ขณะที่กำลังขึ้นเนินสูงหรือออกจากร่องโคลน

        อย่างไรก็ตาม เกียร์อัตราทดต่ำจะพาคุณไปต่อได้ เมื่อเจอการเดินทางที่ยากลำบากคุณจะต้องใช้ระบบล็อกเฟืองท้ายเพื่อช่วยเสริมการยึดเกาะในระดับสูงสุด น่าแปลกที่มีเพียง Hilux, Navara และ Fullback เท่านั้นที่มีระบบนี้เป็นมาตรฐาน Ranger, Amarok และ X-Class มีเป็นออปชั่นเสริมราคาแพง

MITSUBISHI L200

        Musso ไม่มีอะไรเลยและนั่นอาจเป็นข้อจำกัดหากคุณต้องวิ่งบนพื้นดินที่ต้องใช้ระบบล็อกเฟืองท้าย Musso ยังมีระยะห่างจากพื้นดินน้อยที่สุด และมีมุมไต่ มุมคร่อม มุมจาก ที่แย่ที่สุด
อีกด้วย

        ในทางกลับกัน Ranger และ Hilux ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้านในขณะวิ่งบนทางออฟโรด อันที่จริงความสามารถในการลุยน้ำลึก 800 มม. ของ Ranger นั้นมากกว่า Range Rover และ Ranger ยังมีมุมจากและมุมคร่อมมากที่สุดในกลุ่ม ขณะที่ Hilux มาพร้อมกับระยะความสูงจากพื้นดินถึง 293 มม. และมีมุมไต่มากสุดในกลุ่ม (31 องศา)


NISSAN NAVARA

        คุณน่าจะเคยได้ยินชื่อ Ssangyong มาบ้าง คุณอาจรู้จักผู้ผลิตชาวเกาหลีใต้ในด้านการสร้างรถที่ราคาถูกและน่าขับ ซึ่งดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย คุณอาจประเมินว่าปิคอัพรุ่นใหม่ของบริษัทเป็นความเสี่ยงของคุณ แต่ว่าในหลายๆ แง่มุม มันใช้ได้ทีเดียว

        เนื่องจากมันมีต้นแบบมาจาก Rexton เอสยูวีร่วมค่าย ดังนั้น Musso จึงได้ประโยชน์จากคุณสมบัติมากมายที่อยู่ในรถคันนั้น เช่น การตกแต่งภายในของมันเหนือกว่าคู่แข่งเกือบทั้งหมดด้วยพลาสติกบุนุ่มจำนวนมากและสวิตช์ที่ทำงานได้ดีและน่าพึงพอใจในการใช้งาน มันยังมีพื้นที่ว่างมากมายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบสาระบันเทิงที่ชัดเจนและตอบสนองได้ดี และยังไม่ขาดแคลนอุปกรณ์มาตรฐานที่รวมถึงเบาะหนังทำความร้อนและเย็น

SSANGYONG MUSSO

        มันยังมีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบอีกด้วย โดยธรรมชาติของปิคอัพมักจะเสียงดังและใช้เพื่อการเกษตร แต่ Musso นั้นแทบจะเงียบสนิทเมื่อเทียบกับปิคอัพส่วนใหญ่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตรมีความนุ่มนวลและเงียบแม้จะเร่งความเร็วสูง และเนื่องจากส่วนหน้าได้รับมาจาก Rexton มันจึงมีข้อดีในการบังคับควบคุมที่ให้ความรู้สึกเหมือนเอสยูวีมากกว่าปิคอัพ ในอีกมุมหนึ่งคือทั้งแม่นยำ เบา และตอบสนองได้น่าพอใจ

TOYOTA HILUX

        อย่างไรก็ตาม Musso ไม่ได้ปราศจากข้อบกพร่อง ประการแรกคือเรื่องพื้นที่ Ssangyong ได้ลดขนาดของกระบะลง ส่งผลให้กระบะของมันสั้นที่สุดในที่นี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณอาจคิดว่าเป็นข้อจำกัด

        ประการที่สองคือ Musso นุ่มสบายน้อยที่สุดในบรรดาปิคอัพทั้งหมด ระบบกันสะเทือนหลังที่แข็งเป็นพิเศษนั้นเพื่อต้องการให้ Musso มีความสามารถในการขนส่งที่น่าประทับใจ นั่นทำให้มันสั่นและสะเทือนแม้แต่บนเนินที่เล็กที่สุด การบรรทุกของหนักอาจทำให้รถนิ่งสงบมากขึ้นแต่การสั่นสะเทือนของตัวรถยังไม่ได้หายไปไหน

VOLKSWAGEN AMAROK


        TOYOTA HILUX มีมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ชื่อเสียงความน่าเชื่อถือทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ซื้อปิคอัพทั่วโลก แต่ด้วยจำนวนผู้บริโภคที่กำลังมองหารถปิคอัพเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งจากเอสยูวีที่เพิ่มมากขึ้น ปิคอัพรุ่นล่าสุดนี้จึงต้องทำหน้าที่ดึงดูดฐานลูกค้าที่มากขึ้น แล้วมันจะสำเร็จหรือไม่?

        แม้ว่า Toyota จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดปิคอัพหรู แต่ Hilux ก็ยังไม่ลืมรากฐานชนชั้นแรงงานของมัน ตามจริงมันถูกมองว่าเป็นยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ มันเป็นหนึ่งในรถบรรทุกที่น่าประทับใจที่สุดในที่นี้ ยกตัวอย่างเช่น มันมีพื้นที่กระบะที่ใช้งานจริงได้มากที่สุด เพราะกระบะของมันอยู่ในกลุ่มที่ยาวที่สุดในคลาส ด้านข้างก็เหมาะสมและตื้นเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายจากข้างนอก นอกจากนี้มันยังรองรับการน้ำหนักบรรทุกได้มากที่สุดในคลาสอีกด้วย

        อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะทำงานในฟาร์มหรือไซต์ก่อสร้าง คุณยังคงต้องการให้ปิคอัพของคุณใช้งานได้ทุกวัน และนั่นเป็นจุดที่ทำให้ Hilux ตกอันดับไป

        ภายในของมันค่อนข้างแคบ พื้นที่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังค่อนข้างแย่ การตกแต่งภายในดูสมบุกสมบันพอที่จะรับมือกับความลำบากในชีวิตการทำงาน วัสดุจึงอาจไม่ได้ดูหรูหราพอสำหรับปิคอัพที่มีราคาขนาดนี้

        แต่สิ่งที่ทำให้ Hilux หล่นลงมาอยู่ท้ายตารางก็คือมารยาทการขับบนท้องถนน Hilux สามารถรับมือกับน้ำหนักมหาศาลบนกระบะของมันได้ แต่มันก็ต้องใช้กันสะเทือนหลังที่มีความแข็งมากๆ นี่จึงเป็นสาเหตุให้ท้ายรถสะเทือนอย่างหนักเมื่อกระแทกกับหลุมที่ความเร็วสูงและเมื่อวิ่งไปตามถนนขรุขระ โชคดีที่การบรรทุกของหนักทำให้การขับดีขึ้น คุณยังต้องทนกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตรและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่ล้าสมัยซึ่งส่งเสียงดังระหว่างเปลี่ยนเกียร์


Volkswagen Amarok 3.0 V6 TDI 163 4Motion Trendline

ราคาปกติรวมภาษี     

30,455 ปอนด์ (ราว 1.52 ล้านบาท)

ราคาปกติไม่รวมภาษี  
25,430 ปอนด์ (ราว 1.27 ล้านบาท)

ด้วยการขับที่นุ่มนวล การควบคุมที่แม่นยำ และสมรรถนะที่โดดเด่น Amarok ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีเพื่อการใช้งานบนถนน


        Volkswagen ค่อนข้างมาช้าเกินไปสำหรับปาร์ตี้รถปิคอัพเมื่อ Amarok ปิดตัวในปี 2010 แต่ก็ไม่มีอะไรจะขัดขวางคุณได้เมื่อคุณสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจได้เท่านี้

        Amarok เป็นรถที่ครบครันอย่างยิ่ง มันเหนือกว่าในจุดสำคัญๆ บนท้องถนน มันให้การขับขี่ที่นุ่มนวลโดยเฉพาะเมื่อขับด้วยความเร็วสูง พร้อมกับบังคับควบคุมที่ง่ายและแม่นยำ มันสร้างความต่างจากการเป็นรถปิคอัพเพียงคันเดียวที่ใช้เครื่อง V6 3.0 ลิตร

        รุ่น 161 แรงม้าที่เราทดสอบทรงพลังอย่างมากจนทำให้ Amarok เป็นหนึ่งในปิคอัพที่เร็วที่สุดที่คุณสามารถหาซื้อได้ ด้วยแรงบิดที่สูงตั้งแต่รอบต่ำ มันจึงลากจูงได้อย่างสบายๆ และแทบจะไม่มีปัญหาในการบรรทุกของหนัก ในทางปฏิบัติ Amarok ก็โดดเด่นด้วยพื้นที่กระบะที่กว้างที่สุดและเป็นหนึ่งในรถที่บรรทุกของได้หนักที่สุดด้วย

‘Amarok ครบครันอย่างยิ่ง มันเหนือกว่าในจุดสำคัญๆ’

        ภายในห้องโดยสารคุณจะพบกับการตกแต่งที่หรูหรา มันโดดเด่นและมีสไตล์ในด้านความแข็งแกร่งและการใช้งาน มันอาจไม่ได้มีพลาสติกบุนุ่มมากมายนักแต่มันก็ไม่ได้ดูราคาถูกอย่างแน่นอนและยังเข้ากันได้เป็นอย่างดี ระบบสาระบันเทิงยังดีที่สุดในกลุ่มเนื่องจากมีปุ่มลัดที่เป็นประโยชน์และการออกแบบที่ใช้งานง่าย

        ด้านหน้าและด้านหลังมีพื้นที่มากมายแต่พื้นที่ช่วงขาด้านหลังค่อนข้างแคบ Amarok เป็นปิคอัพที่กว้างขวางที่สุด การจอดรถในที่แคบอาจเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของคุณ ออปชั่นเสริมเซ็นเซอร์ช่วยจอดและกล้องหลังราคาแพงก็อาจไม่ช่วยอะไร


การซื้อและการเป็นเจ้าของ

ราคา, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือ, ความปลอดภัย

        การใช้ปิคอัพจะเหมาะสมที่สุดหากมันเป็นรถบริษัท รถยนต์ทั่วไปจะถูกเรียกเก็บภาษีที่ขึ้นอยู่กับระดับการปล่อย CO2 (BIK) แต่สำหรับปิคอัพ เนื่องจากมันมีน้ำหนักบรรทุกไม่ต่ำกว่า 1 ตัน จึงจัดเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก ดังนั้นจึงถูกเรียกเก็บอัตราภาษีคงที่แทนไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นไหน เครื่องยนต์หรืออุปกรณ์แบบใดก็ตาม

        สำหรับปีภาษี 2019-2020 ภาษี สำหรับปิคอัพจะถูกกำหนดเป็น 3,350 ปอนด์ (1.67 แสนบาท) หากคุณอยู่ในกลุ่มภาษี 20% คุณเสียค่าใช้จ่ายเพียง 56 ปอนด์ต่อเดือน (2,800 บาท) ขณะที่ผู้ที่ชำระภาษี 40% จะถูกเรียกเก็บเงิน 112 ปอนด์ต่อเดือน (5,600 บาท) และคุณควรจำไว้ว่าหากคุณใช้รถเพื่อทำธุรกิจเพียงอย่างเดียวนอกเหนือไปจากการเดินทางส่วนตัว คุณจะไม่ต้องจ่ายภาษี BIK เลย

        ธุรกิจขนาดเล็กบางแห่งอาจเลือกซื้อเฉพาะปิคอัพ ซึ่งหากมันถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำงานและเป็นไปตามข้อกำหนด ราคาของมันจะไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและยังสามารถลดหย่อนภาษี่ส่วนอื่นได้อีกด้วย

        ในแง่ของราคาแนะนำ Musso เป็นรถที่ถูกที่สุดในทั้ง 8 คัน แต่ผู้ซื้อรถส่วนตัวควรจำไว้ว่าหากพวกคุณไม่ต้องการบรรทุกของมากมาย ในราคา 28,000 ปอนด์นั้น (1.4 ล้านบาท) คุณสามารถซื้อเอสยูวีดีๆ ได้เลย

        หากคุณเลือกที่จะเช่าซื้อ X-Class นั้นแพงเกินไปที่จะแนะนำและ Musso ก็มีค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน แต่ L200 เป็นรถที่ต่อรองราคาได้และมันยังมีค่าประกันถูกที่สุด คันอื่นๆ อยู่ในกลุ่มประกันภัยราคาสูงซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 2 เท่าจาก L200

        ค่าบริการก็ไม่แตกต่างกันมากนักในช่วง 3 ปี ขณะที่ Toyota และ Mitsubishi ได้สร้างความประทับใจที่สุดใน What Car? Reliability Survey ครั้งล่าสุด มันจึงเป็นโอกาสดีที่คุณจะไปที่ศูนย์บริการของ Hilux และ L200 น้อยกว่าที่จะไปศูนย์บริการของปิคอัพคันอื่นๆ ขณะเดียวกัน Musso ก็มาพร้อมประกันที่ยาวนานที่สุดซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 7 ปี หรือ 240,000 กม.


. . WHATCAR? SAY . .

เราไม่ได้ประหลาดใจอะไรกับ Hilux และ L200 แต่เราเห็นว่าทำไมพวกมันถึงได้ดึงดูดความสนใจผู้ซื้อมานานหลายปี หากคุณต้องการแค่รถสำหรับการใช้งานหนักและแข็งแกร่ง ทั้งคู่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง Hilux พกสถิติความน่าเชื่อถือและความสามารถในการขับบนทางออฟโรดที่น่าประทับใจ มันจึงเป็นเพื่อนร่วมทางที่ไว้ใจได้ ขณะที่ L200 และ Fullback นั้นให้สมรรถนะที่เหมาะสมและมีอุปกรณ์มาตรฐานที่ยาวเหยียด

อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถหนีไปจากความยอดเยี่ยมของรถอีก 2-3 รุ่นได้ บทเรียนที่ Musso และ X-Class รวมถึงรถที่เหลืออีก 3 คันได้ค้นพบคือบทเรียนราคาแพง เมื่อ 10 ปีที่แล้ว Musso และ X -Class อาจจะขึ้นโพเดียม โดย Musso มีดีที่ภายในที่กว้างขวางและราคาที่ต่อรองได้ ขณะที่ X-Class มีภายในที่หรูหราและเครื่องยนต์ที่นุ่มนวล

น่าเสียดายแทน Musso และ X-Class เพราะ Navara ได้สร้างสมดุลที่ดีกว่าระหว่างต้นทุนการใช้งาน คุณประโยชน์ และการใช้งานได้จริง มันไม่ได้หรูเท่า X-Class แต่เน้นราคาที่ถูกกว่ามากในการเป็นเจ้าของ มีประสิทธิภาพมากกว่า และมีอุปกรณ์ที่ดีกว่า นอกจากนี้ Nissan ไม่เคยลืมว่าปิคอัพควรจะเป็นยานพาหนะสำหรับทำงาน มันจึงรองรับการบรรทุกได้มาก

นั่นทำให้ Ranger และ Amarok ต้องสู้กันเพื่ออันดับ 1 บนโพเดียม ทั้งคู่ทำให้งานหนักในแต่ละวันกลายเป็นงานเบา Rangerนั้นเหนือกว่าในแง่ของความสามารถในการควบคุมทั้งหมด พร้อมกับคุณสมบัติการใช้งานที่เหมือนรถยนต์นั่งมากที่สุด แต่แล้วมันก็ถูกหักคะแนนโดยเครื่องยนต์ซึ่งมีเสียงดังในรอบต่ำและยังสั่นสะเทือนมากอยู่Amarok นั้นแทบจะไร้ข้อผิดพลาดอย่างน้อยก็ตามมาตรฐานของคลาส ไม่เพียงแต่มันจะเป็นหนึ่งในปิคอัพที่สะดวกสบายและครบครันมากที่สุด แต่มันยังเป็นรถที่น่าประทับใจด้วยพื้นที่กระบะขนาดใหญ่และรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มาก เราแนะนำให้เลือกเครื่องยนต์ 201 แรงม้าพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดหากคุณวางแผนที่จะบรรทุกของหนักมาก แต่ถ้าคุณต้องการปิคอัพที่สามารถขนของหนักๆ ในระหว่างสัปดาห์ และยังทำหน้าที่เป็นพาหนะของครอบครัวได้ในช่วงวันหยุด จงอย่ามองข้าม Amarok


ข้อดี อุปกรณ์เหมาะสม, มีระบบล็อกเฟืองท้ายเป็นมาตรฐาน, เครื่องยนต์ค่อนข้างดี, พื้นที่ช่วงขาด้านหลังมีมาก

ข้อเสีย การขับแย่, การควบคุมไม่ชัดเจน, พื้นที่เหนือศีรษะไม่ดี, หนึ่งในรถที่มีพื้นที่กระบะน้อยที่สุด

อุปกรณ์เสริมแนะนำ ตะขอลากจูง

. . 8 . .

ข้อดี ค่าเช่าซื้อต่อรองได้, ค่าประกันถูก, เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูง

ข้อเสีย ไม่มีระบบล็อกเฟืองท้าย, ตำแหน่งนั่งขับแย่, เสียงรบกวนดังมาก

อุปกรณ์เสริมแนะนำ พื้นปูกระบะ, ตะขอลากจูง

. . 7 . .

ข้อดี วิ่งบนทางขรุขระดีที่สุด, น่าไว้วางใจ, พื้นที่กระบะถูกออกแบบมาดีและใช้งานได้จริง

ข้อเสีย กำลังน้อยที่สุด, สะเทือนมากขณะที่ไม่บรรทุกของ, ระบบสาระบันเทิงไม่ดี

อุปกรณ์เสริมแนะนำ Parking Pack, ตะขอลากจูง

. . 6 . .

ข้อดี ภายในน่าประทับใจ, การปรับแต่งดีเยี่ยม, การขับที่ความเร็วต่ำนุ่มนวล, พื้นที่กระบะยาว

ข้อเสีย ราคาแพง, อุปกรณ์มาตรฐานไม่เพียงพอ, เครื่องยนต์อืด

อุปกรณ์เสริมแนะนำ พื้นปูกระบะ, ระบบล็อกเฟืองท้าย, ตะขอลากจูง

. . 5 . .

ข้อดี ภายในกว้างและหรูหรา, ราคาถูก, เครื่องยนต์เงียบ, พวงมาลัยแม่นยำ สามารถบรรทุกได้เต็มอัตราขณะที่กำลังลากจูง

ข้อเสีย การขับแย่, กระบะสั้น วิ่งทางออฟโรดแย่, ไม่ประหยัด, ไม่มีระบบล็อกเฟืองท้าย

อุปกรณ์เสริมแนะนำ สีเมทัลลิก, ตะขอลากจูง

. . 4 . .

ข้อดี เครื่องยนต์ทรงพลัง, อุปกรณ์มาตรฐานเหมาะสม, บรรทุกได้มาก, ภายในโดดเด่น, ตำแหน่งการขับดีเยี่ยม

ข้อเสีย พวงมาลัยน่าสับสนและการควบคุมตัวรถไม่มั่นคง, เกียร์แมนนวลใช้งานยาก, สั่นสะเทือนขณะขับ

อุปกรณ์เสริมแนะนำ พื้นปูกระบะ, ตะขอลากจูง

. . 3 . .

ข้อดี การควบคุมดีที่สุด, พวงมาลัยน้ำหนักดีและแม่นยำ, ลุยความลึกได้มากที่สุด, มีมุมคร่อมมากที่สุด, ระบบสาระบันเทิงเหมาะสม

ข้อเสีย เกียร์อัตโนมัติแย่ที่สุด, ประกันสั้นที่สุด

อุปกรณ์เสริมแนะนำ Off-Road Pack รวมถึงระบบล็อกเฟืองท้ายและแผ่นป้องกันใต้ท้องรถ, ตะขอลากจูง

. . 2 . .

ข้อดี การขับสบายที่สุด, ภายในกว้าง, เครื่องยนต์ทนทาน, ระบบสาระบันเทิงดีที่สุด, บรรทุกได้มาก

ข้อเสีย ความสามารถในการลากจูงแย่ที่สุด, ราคาแพง, เกียร์แมนนวลไม่ดีมากนัก

อุปกรณ์เสริมแนะนำ พื้นปูกระบะ, ระบบล็อกเฟืองท้าย, เซ็นเซอร์จอดหน้า/หลังและกล้องมองหลัง, ตะขอลากจูง

. . 1 . .

Exit mobile version