Comparison : Hyundai Ioniq 5 vs Tesla Model 3 vs Volkswagen ID.4

Photography: John Bradshaw

Out of the shadows

Hyundai ส่ง Ioniq 5 เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เราจะมาหาคำตอบกับว่ามันจะสามารถเอาชนะ Tesla และ Volkswagen ได้หรือไม่


Hyundai Ioniq 5 73kWh RWD Premium

ราคาขาย 41,945 ปอนด์ (ราว 2,097,250 บาท)

ราคาที่น่าลงทุน 41,945 ปอนด์ (ราว 2,097,250 บาท)

Hyundai เข้าสู่ยุคใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็ก มาพร้อมระยะวิ่งใกล้เคียง 482.7 กิโลเมตร และความสามารถในการชาร์จเร็ว


Volkswagen ID.4 77kWh Pro

ราคาขาย 42,040 ปอนด์ (ราว 2,102,000 บาท)

ราคาที่น่าลงทุน 40,987 ปอนด์ (ราว 2,049,350 บาท)

ในฐานะที่เป็น SUV ขนาดใหญ่ ID.4 ควรมาพร้อมความอเนกประสงค์และตำแหน่งนั่งที่สูง นอกจากนี้มันยังมาพร้อมระยะวิ่งที่มากที่สุดถึง 521.3 กิโลเมตร


Tesla Model 3 Standard Range Pluso

ราคาขาย 40,990 ปอนด์ (ราว 2,049,500 บาท)

ราคาที่น่าลงทุน 40,990 ปอนด์ (ราว 2,049,500 บาท)

รถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่คันโปรดของเราในราคาประมาณ 2,000,000 บาท ตอบโจทย์ทั้งเทคโนโลยีและสมรรถนะ แม้ว่าจะมีระยะวิ่งที่สั้นที่สุด


        Ioniq 5 เป็นรถแฮทช์แบ็คที่เป็นที่รู้จัก แต่ในขณะเดียวกันเวลานี้เป็นหนึ่งในรถยนต์แฮทช์แบคที่ดูล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา มันมาพร้อมกับตัวเลือกแบตเตอรี่สองแบบและในวันนี้เรากำลังทดสอบรุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า 73kWh ในรุ่นPremium ระดับกลาง

        ด้วยความที่มีราคาใกล้เคียงกัน Model 3 จึงเป็นคู่แข่งที่ชัดเจน รถยนต์เอ็กเซ็กคูทีฟซาลูนนี้ยังเป็นมาตรฐานของเราสำหรับรถยนต์ในระดับเดียวกัน โดยวันนี้เราใช้รุ่น Standard Range Plus ซึ่งเป็น Tesla รุ่นที่ถูกที่สุด คุณยังคงสามารถเข้าถึงเครือข่ายการชาร์จที่ดีที่สุดในโลกและเทคโนโลยีแห่งอนาคตของ Tesla ถึงแม้ว่ามันจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่เล็กที่สุดในสามรุ่น แต่เรารู้ว่า Model 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

        สุดท้าย เรามี Volkswagen ID.4 ความจริงที่ว่ามันมีรูปร่างเหมือน SUV ขนาดใหญ่ทั่วไปทำให้มันจะกลายเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรในการเป็นเจ้าของ EV หรือไม่? อาจเป็นไปได้ว่าถ้าคุณยังคงเทใจครึ่งหนึ่งให้รุ่นเบนซินหรือดีเซล ในวันนี้เราจะทดสอบประสิทธิภาพของมันที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สองตัว (ด้วยความจุที่ใช้งานได้ 77kWh) แต่เช่นเดียวกับรุ่น 3 คุณต้องเลือกรุ่นเริ่มต้นเพื่อให้มีราคาไม่ต่างจากราคาของIoniq 5

        คำถาม คือ หากคุณมีงบ 2,000,000 บาท สำหรับรถยนต์ EV ใหม่ แต่คุณควรเลือกแฮทช์แบค เอ็กเซ็กคูทีฟซาลูนหรือเอสยูวี


การขับขี่

สมรรถนะ, การขับขี่, เสถียรภาพ, ความประณีต

HYUNDAI IONIQ 5

. . BEST RIDE . .

. . สมรรถนะ . .

อัตราเร่ง

50-110 กม./ชม. 6.1 วินาที

50-80 กม./ชม. 2.4 วินาที

80-110 กม./ชม. 3.7 วินาที

ช่วงเบรก

50-0 กม./ชม. 8.5 เมตร 110-0 กม./ชม. 44.6 เมตร

เสียงรบกวน

เสียงรบกวน ที่ 50 กม./ชม. 60.1 เดซิเบล เสียงรบกวน ที่ 110 กม./ชม. 65.3 เดซิเบล


Location Millbrook Proving Ground 

สภาพอากาศช่วงการทดสอบ : แห้ง

        หากคุณรู้จัก Tesla คุณอาจรู้ว่ารถของมันรวดเร็วทันใจ อันที่จริงอันนี้เร็วน้อยที่สุด แต่ต้องขอบคุณมอเตอร์ขุมพลัง 329 แรงม้า และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ยังสามารถพุ่งทะยานถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 5.3 วินาที

        คู่แข่งของมันมาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้อัดแน่นด้วยกำลังเท่าไรนัก ใน Ioniq 5 มีพลัง 214 แรงม้า และ ID.4 201 แรงม้า และทั้งคู่ค่อนข้างหนักกว่า Model 3 เล็กน้อย ผลลัพธ์ที่ได้คือเวลา 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 6.9 วินาที สำหรับ Ioniq และ 7.8 วินาที สำหรับ ID.4 ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งคู่ให้ความรู้สึกที่เร็วกว่านั้น เร็วพอสำหรับการขับขี่ทุกประเภท

        แน่นอนเมื่อพูดถึงสมรรถนะของ EV ประเด็นอยู่ที่ว่าคุณจะสามารถไปได้ไกลเท่าไรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ระยะอย่างเป็นทางการของ ID.4 คือ 508.4 กิโลเมตร ด้วยล้อขนาด 20 นิ้ว และ 521.31 กิโลเมตร สำหรับล้อขนาด 19 นิ้ว ที่มีมาเป็นมาตรฐาน ในขณะที่ Ioniq 5 สามารถไปได้ไกล 479.4 กิโลเมตร และ Model 3 มีระยะอย่างเป็นทางการที่ 447.3 กิโลเมตรด้วยล้อขนาด 19 นิ้ว และ 18 นิ้ว ตามลำดับ

TESLA MODEL 3

. . BEST HANDLING . .

. . สมรรถนะ . .

อัตราเร่ง

50-110 กม./ชม. 4.3 วินาที

50-80 กม./ชม. 1.7 วินาที

80-110 กม./ชม. 2.6 วินาที

ช่วงเบรก

50-0 กม./ชม. 8.3 เมตร 110-0 กม./ชม. 44.1 เมตร

เสียงรบกวน

เสียงรบกวน ที่ 50 กม./ชม. 60.1 เดซิเบล เสียงรบกวน ที่ 110 กม./ชม. 65.3 เดซิเบล


Location Millbrook Proving Ground 

สภาพอากาศช่วงการทดสอบ : แห้ง

        ตัวเลขเหล่านี้อาจมีการเติมสีใส่ไข่ลงไปเล็กน้อย ในการทดสอบที่สนามทดสอบสมจริงส่วนตัวของเราพบว่า Model 3 เป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยการใช้ไฟฟ้า 6.7 กิโลเมตรต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) Ioniq 5 สามารถทำได้ 5.4 กิโลเมตรต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง และ ID.4 ที่ 4.8 กิโลเมตร Model 3 มีแบตเตอรี่ขนาดเล็กก็จริงแต่ในสภาพอากาศ 22 องศาเซลเซียส มันสามารถวิ่งได้ไกล 344.3 กิโลเมตร และ ID.4 ทำได้ 371.6 กิโลเมตรตามมาด้วย Ioniq ที่ 397.4 กิโลเมตร

        Ioniq เป็นรุ่นที่ควรเลือกหากคุณต้องการการขับขี่ที่นุ่มและมั่นคง มันสามารถรับมือกับลูกระนาดได้ดี

        ID.4 ยังคงเป็นรถยนต์ที่น่าพอใจแต่คุณจะรู้สึกสั่นโคลงมากที่สุดในทุกระดับความเร็ว อย่างไรก็ตามมันก็ยังเป็นตัวเลือกที่นุ่มนวลกว่า Model 3 ซึ่งมาพร้อมระบบช่วงล่างที่เฟิร์มมากกว่า นั่นหมายความว่าคุณจะรู้สึกถึงการกระแทกของหลุมบ่อและฝาท่ออย่างชัดเจน

VOLKSWAGEN ID.4

. . สมรรถนะ . .

อัตราเร่ง

50-110 กม./ชม. 7.5 วินาที

50-80 กม./ชม. 2.8 วินาที

80-110 กม./ชม. 4.4 วินาที

ช่วงเบรก

50-0 กม./ชม. 8.4 เมตร 110-0 กม./ชม. 44.4 เมตร

เสียงรบกวน

เสียงรบกวน ที่ 50 กม./ชม. 60.8 เดซิเบล เสียงรบกวน ที่ 110 กม./ชม. 67.0 เดซิเบล


Location Millbrook Proving Ground 

สภาพอากาศช่วงการทดสอบ : แห้ง

        ทั้งความเฟิร์มและตัวถังที่ต่ำกว่ารุ่นอื่น จึงทำให้ Model 3 มีการเลี้ยวที่ราบรื่นที่สุด ทั้งเอียงตัวน้อยกว่า มีการยึดเกาะที่มากที่สุดและให้ความรู้สึกกระตือรือร้นมากที่สุดในการเลี้ยว ผู้ใช้งานบางคนอาจพบว่าพวงมาลัยแบบ ultra-quick ใช้งานยากแต่มันก็มีความแม่นยำสูงที่สุด ถึงแม้ว่า Model 3 มอบความรู้สึกในการขับขี่ที่ดีแต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับ BMW 3 Series ในด้านความรู้สึกร่วมในการขับขี่

        ID.4 มีพวงมาลัยที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากที่สุดและมีการเลี้ยวที่เป็นระเบียบมาก เมื่อเทียบกับ Ioniq ให้ความนุ่มนวลมากกว่าเมื่อคุณออกจากเมืองและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง แม้ว่าส่วนหน้าอาจจะไม่ตอบสนองต่อการเลี้ยวได้ไวเท่าคู่แข่งและมีการเอียงตัวขณะเลี้ยวมากกว่า มันเป็นรุ่นเดียวที่ทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นคงเมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงในวันที่มีลมแรง

        ด้านดีคือมันเคลื่อนที่ไวที่สุดคุณแทบจะไม่ได้ยินเสียงลมและเสียงล้อกับถนนต่างจากอีกสองรุ่นที่ความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยอาจได้ยินเสียงนิดนหน่อยจากช่วงล่างเมื่อต้องเคลื่อนที่ผ่านถนนที่มีลูกระนาดแต่เมื่อวิ่งด้วยความเร็วระดับมอเตอร์เวย์คุณจะได้ยินเสียงลมดังกว่าบน ID.4 Model 3 เป็นรถยนต์ที่เสียงดังมากที่สุด ทั้งเสียงรบกวนจากลมและเสียงยางกับถนน


หลังพวงมาลัย

ตำแหน่งคนขับ, ทัศนวิสัย, คุณภาพการผลิต

ระบบสองหน้าจอ – หนึ่งจอสำหรับระบบสาระบันเทิงและอีกหนึ่งสำหรับระบบแสดงผล IONIQ 5 ดูดีแต่พวงมาลัยเหมือนจะบังระดับแบตเตอรี่และระดับความเร็ว

เบาะนั่งคนขับระบบไฟฟ้าพร้อมระบบรองรับหลังส่วนล่างแบบปรับได้มามาเป็นมาตรฐาน มันนั่งสบายแต่อาจซัพพอร์ทด้านข้างน้อยไป

เนื้อวัสดุดูดีแต่ไม่หรูหรา ภายในมีการใช้พลาสติกแบบแข็งทั่วไป

        พวงมาลัยและแป้นเหยียบ ID.4 มีตำแหน่งการขับขี่ที่ดีที่สุดในทั้งสามรุ่น ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างดีและเมื่อเทียบกับ Model 3 แล้ว มันมีความสามารถในการปรับพวงมาลัยมากกว่า Ioniq 5 หากคุณตัวสูง คุณจะสามารถดึงพวงมาลัยเข้ามาใกล้คุณมากขึ้น

        ID.4 ยังมาพร้อมเบาะนั่งด้านคนขับที่รองรับได้มากที่สุด แม้ว่าจะไม่สามารถปรับการรองรับส่วนเอวได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่คันอื่นมีเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ใน Ioniq 5 และ Model 3 มีเบาะคนขับระบบไฟฟ้า (ID.4 ปรับด้วยด้วยตนเอง) แต่การรองรับเบาะนั่งพื้นฐานด้านข้างนั้นขาดไปเล็กน้อย

        ข้อดีอีกอย่างของ ID.4 คือหน้าจอแสดงผลข้อมูลมีขนาดเล็ก ทำให้มองเห็นทั้งหน้าจอผ่านขอบพวงมาลัย นอกจากนี้ยังติดตั้งอยู่บนคอพวงมาลัยแทนที่จะอยู่บนหน้าจอแดชบอร์ด

        Ioniq 5 มีแดชบอร์ดแบบดิจิทัลที่ใหญ่ขึ้นมากและแสดงค่าต่าง ๆ ที่สำคัญ โดยข้อมูลอยู่ค่อนไปทางขอบ แต่กับ Model 3 หน้าจอของมันอยู่ตรงกลางของแดชบอร์ด แต่ก็ยังไม่น่าพอใจนัก

1 มีปุ่มกดจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น คุณจะต้องควบคุมแทบทุกอย่างผ่านหน้าจอสาระบันเทิง ซึ่งค่อนข้างชวนไขว้เขวขณะขับขี่

2 คุณภาพภายในต้องปรับปรุง มันยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบแต่ก็ดีที่สุดในทั้งสามรุ่นด้วยผิวสัมผัสแบบนุ่ม

3 เบานั่งปรับด้วยไฟฟ้าสำหรับพวงมาลัยและเบาะคนขับ (รวมถึงระบบรองรับหลังส่วนล่าง)

        ปัญหาสภาพแวดล้อมในการขับขี่ของ ID.4 คือส่วนควบคุมที่เหลือนั้นแย่มาก ปุ่มเกือบทั้งหมดเป็นแบบ touch-sensitive รวมทั้งปุ่มบนพวงมาลัยและปุ่มควบคุมด้วยการค้นหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งในขณะขับรถต้องใช้สมาธิในการเพ่งดูสวิตช์ซึ่และแถบเลื่อนแบบควบคุมด้วยการสัมผัสสำหรับปรับอุณหภูมิจะไม่สว่างแม้ในตอนกลางคืน

        Ioniq 5 มาพร้อมปุ่มกดแบบ touch-sensitive เช่นกันแต่อย่างน้อยมันก็ชัดเจนกว่าและมีการใช้งานปุ่มกดแบบธรรมดาบนพวงมาลัยซึ่งใช้งานง่ายกว่ามาก ส่วนควบคุมของ Model 3 ทั้งหมดอยู่บนหน้าจอสาระบันเทิง ซึ่งไม่เหมาะสมเท่าใดนักแต่คุณสามารถมองเห็นค่าต่าง ๆ ได้ง่ายทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากนั้นยังมีแป้นหมุนบนพวงมาลัยสองสามอันที่ควบคุมการทำงานหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการตั้งค่าใด

        Model 3 มีทัศนวิสัยด้านหน้าแย่ที่สุดเนื่องจากเสากระจกบังลมค่อนข้างหนา สำหรับ ID.4 ไม่ได้ดีไปกว่านี้มากนัก คุณจึงต้องระวังเป็นพิเศษเมื่ออยู่บนทางแยก แต่ไม่มีปัญหาดังกล่าวบน Ioniq 5 ซึ่งมีแผงหน้าปัดต่ำและเสาแคบทำให้มองเห็นทิวทัศน์ที่ชัดเจน

1 ปุ่มกด sensitive-touch ของ ID.4 ชวนให้หงุดหงิดในการใช้งานและมองเห็นได้ยากในตอนกลางคืน

2 เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบแมนวลและไม่มีส่วนรองรับหลังส่วนล่างแต่เบาะบุนิ่มนั่งสบาย อีกทั้งยังสูงสมกับเป็นรถยนต์ SUV

3 ภายในให้ความรู้สึกแข็งแรง และมีการใช้วัสดุที่ดีดี ให้ความรู้สึกถึงคุณภาพที่เหมาะสม

        รถยนต์ทั้งสามคันมีทัศนวิสัยด้านหลังที่ดี โดย Ioniq 5 และ Model 3 นั้นดีกว่า ID.4 แต่อย่างน้อยก็มีกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์ที่จอดรถด้านหน้าและด้านหลัง ทั้งสามคันมีไฟหน้า LED ที่สว่าง หลังจากการปรับโฉมเมื่อปีที่แล้ว Model 3 ดีกว่าที่เคยเป็นในแง่ของคุณภาพภายใน มันอาจจะยังไม่หรูหราเท่ากับ BMW 3 Series แต่การประกอบอย่างดีและการตกแต่งนั้นดีที่สุดในที่นี้ ID.4 ถูกสร้างมาอย่างแน่นหนาพร้อมด้วยส่วนที่เป็นวัสดุผิวสัมผัสนุ่มแต่พลาสติกที่อยู่ตรงกลางให้ความรู้สึกราคาถูกลงทั้งในด้านรูปลักษณ์และความรู้สึก ไม่มีสิ่งที่กล่าวไปบน Ioniq 5 เพราะโดยพื้นฐานแล้ววัสดุภายในทั้งหมดของมันให้ความรู้สึกราคาถูก อาจมีพื้นผิวที่สวยงามที่ดูโอเคบ้างแต่ส่วนใหญ่มีการใช้พลาสติกแบบที่ไม่น่าให้อภัยและมีบางส่วนที่ประกอบกันไม่สนิท ซึ่งไม่ค่อยสมเหตุสมผลกับราคากว่า 2,000,000 บาท


HYUNDAI IONIQ 5

. . ระบบสาระบันเทิง . .

หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วของ Ioniq รองรับด้วยปุ่มแบบกดสองสามปุ่มที่สลับไปมาระหว่างเมนูหลัก บวกกับปุ่มที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ซึ่งจะนำคุณไปยังหน้าจอที่ใช้งานบ่อยที่สุดในทันที – เพิ่มคะแนนให้กับความสามารถนี้ กราฟิกดีและซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ไหลลื่น ซึ่งมีความผิดพลาดเล็กน้อย (Apple CarPlay หลุดออกจากการทดสอบของเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า) แต่ไม่เหมือนของ ID.4 สเตอริโอให้เสียงที่ดีที่สุด แม้ว่าจะมีลำโพงเพียงไม่กี่ตัว แต่ให้เสียงที่นุ่มละมุน


TESLA MODEL 3

. . ระบบสาระบันเทิง . .

หน้าจอขนาด 15.0 นิ้วของ Model 3 นั้นสว่างและคมชัด ซอฟต์แวร์ของรถยนต์รุ่นนี้ทำงานลื่นที่สุด ปัญหาเดียวคือมีการพึ่งพาการควบคุมจากหน้าจออย่างมาก บางไอคอนจึงค่อนข้างเล็ก ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้งานได้โดยไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณเป็นคนขับอาจเสียสมาธิเล็กน้อย มีฟีเจอร์ส่วนใหญ่ รวมถึงการสตรีม Netflix และวีดีโอเกม รวมถึง Google Maps พร้อมการอัปเดตการจราจรแบบสด แต่ไม่มีระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay หรือ Android Auto


VOLKSWAGEN ID.4

. . ระบบสาระบันเทิง . .

ระบบของ ID.4 มีหน้าจอที่เล็กที่สุดในรถยนต์ทั้งสามรุ่น แต่นั่นก็ถือว่าเป็นปัญหาที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งระบบ ซอฟต์แวร์ตอบสนองช้า ต้องใช้เวลาในการบู๊ตเมื่อคุณเปิดเครื่องและกระตุกเมื่อคุณปัดหรือกดไอคอน เมนูก็แย่มากเช่นกัน เนื่องจากฟีเจอร์ต่าง ๆ วางระเกะระกะไปทุกที่ คุณต้องเรียนรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ อยู่ที่ไหน ทำให้มันใช้งานได้ยากที่สุด และมันพังบ่อยมาก โดยรวมแล้วมันเป็นระบบที่แย่มาก


พื้นที่และความอเนกประสงค์

พื้นที่ด้านหน้า, พื้นที่ด้านหลัง, ความยืดหยุ่นของเบาะนั่ง, พื้นที่ท้ายรถ

HYUNDAI IONIQ 5

ความจุท้ายรถ 527-1,587 ลิตร กระเป๋าเดินทาง 7 ใบ

ท้ายรถกว้างและยาวแต่พื้นที่ขนาดเล็กและตื้นที่สุด คุณสามารถเก็บสายเคเบิลใต้พื้นหรือพื้นที่เล็ก ๆ ใต้ฝากระโปรง

รถยนต์ทั้งสามคันมาพร้อมพื้นที่เหนือศีรษะและขากว้างขวางสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า แต่ Ioniq 5 มีพื้นที่กว้างที่สุด รวมทั้งยังมีเบาะด้านหลังแบบเลื่อนและปรับเอนได้ อีกทั้งประตูหลังที่กว้างช่วยให้การเข้า-ออกง่ายขึ้น

        Model 3 มีช่องอเนกประสงค์และช่องเก็บของน้อยที่สุดแต่ช่องเก็บของข้างประตูของ Ioniq ค่อนข้างแคบ ในขณะที่ ลิ้นชักเก็บของด้านหน้าของ ID.4 มีขนาดเล็ก ทั้งสามคันไม่มีพื้นที่สำหรับวางของกระจุกกระจิกของคุณ

        เบาะหลังของคู่แข่งของเราทั้งหมดมีพื้นที่มากพอที่ผู้ใหญ่ตัวสูงสองคนต้องการแต่เบาะของ Ioniq 5 นั้นกว้างที่สุด แม้ว่า ID.4 จะนั่งสบายกว่า มีพื้นที่สำหรับวางเท้าใต้เบาะนั่งด้านหน้ามากที่สุดและตำแหน่งที่นั่งจะสูงกว่าอีกสองรุ่นที่เหลือ เบาะนั่งด้านหลังของ Model 3 นั้นต่ำเป็นพิเศษ

TESLA MODEL 3

ความจุท้ายรถ 450 ลิตร (ด้านหลัง) กระเป๋าเดินทาง 10 ใบ

เช่นเดียวกับ Ioniq 5 คุณจะได้พื้นที่เก็บสัมภาระสองตำแหน่งและคุณสามารถเก็บกระเป๋าเดินทางแบบ carry-on ได้หนึ่งใบ และ 9 ใบ ที่ท้ายรถซึ่งทั้งกว้างยาว อีกทั้งะสามารถบรรจุสิ่งของใต้พื้นได้

แม้ว่า Model 3 มีด้านหลังที่เล็กที่สุดและพื้นที่เหนือศีรษะเหลือน้อยที่สุด แต่ผู้โดยสารสูง 6 ฟุตยังสามารถนั่งได้อย่างสบาย ๆ เบาะหลังนั่งสบายน้อยที่สุดเพราะค่อนข้างต่ำ หากคุณตัวสูงคุณจะพบว่าเข่าจะยกสูงกว่าสะโพกเสียอีก

        ที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตรงกลางของ ID.4 นั้นดีที่สุด มีพื้นที่เหนือศีรษะมากที่สุด ในขณะ Model 3 มีพื้นที่น้อยที่สุดแต่ไม่มีส่วนนูนขึ้นมาจากพื้น ดังนั้นผู้โดยสารที่นั่งตรงกลางจึงมีพื้นที่วางเท้าเพียงพอ

        Ioniq 5 เท่านั้นที่มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นในการเลื่อนเบาะหลังและปรับเอนได้แต่รถแต่ละคันมาพร้อมกับพนักพิงแบบพับได้แบบแยกส่วน 60/40 และ ID.4 ยังมีช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์สกีด้วย

        ID.4 เป็นรุ่นเดียวที่มาพื้นหลังจากพับเบาะไม่เรียบสนิทและไม่มีพื้้นที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า ดังนั้นที่เก็บสายไฟเพียงอย่างเดียวคือช่องเล็ก ๆ ใต้พื้นท้ายรถ

        อีกสองคันมีพื้นที่ว่างใต้ฝากระโปรง โดย Model 3 นี้มีขนาดใหญ่พอสำหรับกระเป๋าเดินทางแบบ carry-on เมื่อรวมกับท้ายหลักที่มีขนาดใหญ่ (รวมถึงช่องว่างขนาดใหญ่ใต้พื้น) Model 3 สามารถจุได้ทั้งหมด 10 ใบ เทียบกับ 9 ใบบน ID.4 (ใต้ชั้นวางพัสดุ) และ 7 สำหรับ Ioniq 5 ที่มีท้ายรถที่ค่อนข้างตื้น

VOLKSWAGEN CALIFORNIA

ความจุท้ายรถ 543-1,734 ลิตร กระเป๋าเดินทาง 9 ใบ

ID.4 มีพื้นที่เก็บสัมภาระเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้นแต่มีขนาดใหญ่ แม้ว่ามันจะมีพื้นที่เก็บสายไฟน้อยกว่าคันอื่น ทั้งสามคันสามารถพับเบาะหลังได้แบบ 60/40 โดย ID.4 สามารถเก็บอุปกรณ์สกีได้

ID.4 มีพื้นที่วางขาสำหรับห้องโดยสารด้านหลังมากกว่า Ioniq 5 พื้นที่เหนือศีรษะมากที่สุด พื้นที่วางเท้ามากที่สุด และตำแหน่งนั่งที่สบายที่สุด จึงทำให้ผู้โดยสารด้านหลังนั่งสบายที่สุดในสามรุ่นนี้


การซื้อและการเป็นเจ้าของ

ราคา, อุปกรณ์, ความน่าเชื่อถือ, ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย

        หากคุณซื้อในนามรถยนต์บริษัทคุณจะมีภาระภาษี BIX เกณฑ์ 1% จนถึงเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 2% ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงเดือนเมษายน 2024 เป็นอย่างน้อย ลองพิจารณาในฐานะผู้เสียภาษี 40% คุณจะมีภาระเพียงเพียง 700 บาทต่อเดือน เมื่อเทียบกับเงินประมาณ 18,500 บาท ที่คุณจะต้องจ่ายเมื่อใช้งานดีเซล 3 Series ที่มีราคาใกล้เคียงกันและนี่คือข้อเสนอที่น่าสนใจ

        ค่าเสื่อมราคาที่คาดการณ์ไว้ช้าอย่างไม่น่าเชื่อหมายความว่า Model 3 จะมีราคาถูกที่สุดโดยรวมสำหรับผู้ซื้อเงินสดที่ขายหลังจากการใช้งานสามปีด้วยการทำนายค่าเสื่อมราคาที่ลดลงค่อนข้างมากทำให้ ID.4 เป็นตัวเลือกระยะยาวที่แพงที่สุด


. . สิ่งที่คุณต้องจ่าย . . ราคาทั้งหมดอยู่ในช่วงการทดสอบ

Hyundai Ioniq 5

ราคาปกติ 41,945 ปอนด์ (ราว 2,097,250 บาท) 

ราคาที่น่าลงทุน 41,945 ปอนด์ (ราว 2,097,250 บาท)

Tesla Model 3

ราคาปกติ 40,990 ปอนด์ (ราว 2,049,500 บาท) 

ราคาที่น่าลงทุน 40,990 ปอนด์ (ราว 2,049,500 บาท)

Volkswagen ID.4

ราคาปกติ 42,040 ปอนด์ (ราว 2,102,000 บาท) 

ราคาที่น่าลงทุน 40,987 ปอนด์ (ราว 2,049,350 บาท)


        ID.4 นั้นมีราคาที่เอื้อมถึงมากที่สุดด้วยการผ่อนแบบ PCP ในข้อตกลงสี่ปีด้วยเงินมัดจำ 200,000 บาท และจำกัด 10,000กิโลเมตรต่อปี คุณจะมีภาระผ่อน 26,900 บาทต่อเดือน เทียบกับ 27,250 บาท สำหรับ Ioniq 5 และ 28,050 บาท สำหรับ Model 3 

        ทั้งสามมีชุดอุปกรณ์มาตรฐานจำนวนมาก รวมถึงระบบ adaptive cruise Control พร้อมระบบช่วยบังคับเลี้ยว ระบบเข้า-ออกแบบไม่มีกุญแจ เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับอุณหภูมิได้ และใน Ioniq 5 และ ID.4 ยังมาพร้อมกับพวงมาลัยแบบปรับอุณหภูมิได้ด้วยในขณะเดียวกัน Ioniq 5 และModel 3 มีฝากระโปรงท้ายแบบไฟฟ้า คุณจะได้รับชุดอุปกรณ์ความปลอดภัยมากมายเช่นกัน โดย Model 3 และ ID.4 ทั้งสองทำผลงานได้ดีมากในการทดสอบ Euro NCAP ผลลัพธ์สำหรับ Ioniq 5 ยังไม่ได้รับการเปิดเผย

        ข้อดีอย่างหนึ่งของการซื้อ Tesla คือการเข้าถึงเครือข่ายซูเปอร์ชาร์จเจอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท โดยคุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 10-80% ในเวลาประมาณ 21 นาที Ioniq 5 สามารถรับพลังงานได้มากกว่ามาก ดังนั้นในทางทฤษฎี คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่ามากจาก 10-80% ใน 18 นาที หากคุณพบเต้าเสียบที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

        ID.4 ไม่สามารถชาร์จได้ไว้ใกล้กับคู่แข่งแต่คุณยังสามารถคาดหวังการเติมแบตเตอรี่จาก 10-80% ในเวลาประมาณ 35 นาที การชาร์จจาก 0-100% ที่บ้านโดยใช้วอลล์บ็อกซ์ขนาด 7kW ปกติจะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ใน ID.4 และ Ioniq 5 เทียบกับแปดชั่วโมงใน Model 3

        ตามมาตรฐาน EV Model 3 อยู่ในระดับปานกลางในด้านความน่าเชื่อถือในการสำรวจล่าสุดของเรา Ioniq 5 และ ID.4 นั้นใหม่เกินกว่าจะได้รับการโหวต แต่ Hyundai อยู่ในอันดับที่สาม (จาก 30) เมื่อเทียบกับอันดับ 20 ที่น่าผิดหวังของ Volkswagen

        Hyundai ยังให้การรับประกันห้าปีโดยไม่จำกัดระยะทางสำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ โดยที่แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานสูงสุดแปดปี (พร้อมฝาครอบ 100,000 กิโลเมตร) รุ่น 3 และ ID.4 มีฝาปิดระดับเดียวกันสำหรับแบตเตอรี่ แต่ส่วนประกอบอื่น ๆ ส่วนใหญ่มีความคุ้มครองเพียงสี่ปีหรือ 50,000 กิโลเมตร



        หากคุณเคยถูกล่อลวงโดยรูปลักษณ์ของ Ioniq 5 มาก่อนที่จะได้ยินคำตัดสินนี้ เราไม่แปลกใจเลย และหากคุณเผลอใจไปให้มันแล้วโปรดวางใจ คุณจะได้เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีมากซึ่งมีระยะทางวิ่งจริงเกือบ 402.25 กิโลเมตร และมีความสามารถในการชาร์จเร็ว นอกจากนี้ยังเงียบที่สุดในบรรดาผู้เข้าแข่งขันของเรา มันยังมีทัศนวิสัยที่ดีที่สุดและนั่งสบายที่สุดอีกด้วย

        แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ ที่จะเอาชนะ Model 3 ได้ รถยนต์รุ่นขายดีของ Tesla มีประสิทธิภาพมากจนทำให้คู่แข่งต้องอับอาย บวกกับการขับขี่ที่สนุกที่สุดและภายในที่ดูเท่ทันสมัยและฉลาดที่สุดแต่สิ่งที่เป็นคำตัดสินหลักคือเครือข่ายซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของ Tesla ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการชดเชยระยะวิ่งที่สั้นกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นของเรา

        ID.4 มีจุดแข็งด้านการความอเนกประสงค์และความปลอดภัยแต่ไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากเปิดตัว ก็พบว่าตัวเองอยู่ในอันดับที่ “พอใช้ได้” แดร์ชบอร์ดและระบบสาระบันเทิงใหม่ถูกออกแบบมาได้อย่างดีเทียบเท่ากับรถยนต์ชั้นนำ


Tesla Model 3

ข้อดี ระบบ Supercharge มีประสิทธิภาพ, ประสิทธิผลมากที่สุด, เร็วไวที่สุด, อุปกรณ์มาตรฐานมากที่สุด, ภายในเท่ทันสมัย, ขับขี่สนุกที่สุด

ข้อเสีย เดินทางเสียงดังที่สุด, ขับขี่เฟิร์มที่สุด, วิ่งได้ระยะสั้นที่สุด

ออปชั่นเสริมที่แนะนำ ไม่มี


Hyundai Ioniq 5

ข้อดี ระยะวิ่งไกลที่สุด, ชาร์จไวที่สุด, ทัศนวิสัยดีที่สุด, เบาะนั่งยืดหยุ่นที่สุด

ข้อเสีย ส่าย, ภายในให้ความรู้สึกราคาถูก, ท้ายรถตื้น

ออปชั่นเสริมที่แนะนำ สีเมทัลลิก (29,250 บาท), แพ็กเกจ V2L (18,250 บาท)


Volkswagen ID.4

ข้อดี พื้นที่ด้านหลังมาดที่สุด, ใหญ่, พื้นที่ท้ายรถมากที่สุด, คะแนนความปลอดภัยน่าพอใจ

ข้อเสีย ระบบสาระบันเทิงแย่ที่สุด, เสื่อมราคาไวที่สุด, ชาร์จช้าที่สุด, ออปชั่นแพงที่สุด

ออปชั่นเสริมที่แนะนำ ปั๊มความร้อน (50,000 บาท)

Exit mobile version